ข้อดีของตลาดหุ้นและการเทรดหุ้น
เมื่อคนได้ยินเกี่ยวกับหุ้นพวกเขาจินตนาการถึง Wall Street, ตลาดหุ้นกับเสียงเอะอะ, คนเป็นพันตะโกนโหวกเหวกพยายามที่จะเอาส่วนแบ่ง ยอมรับมั้ยว่าคุณคิด! แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆหรือ? มีความเป็นไปได้ที่จะทำงานร่วมกับหุ้นอีกหรือไม่? มีสิ และในบทความนี้เราจะบอกถึงวิธีการซื้อขายหุ้นโดยปราศจากปัญหาและความเครียด
หุ้นที่แท้จริง
มีเพียง 2 ทางเลือก: คุณซื้อหุ้นจริงๆ หรือ คุณซื้อขายการเปลี่ยนแปลงของราคา
การซื้อหุ้นจริงเป็นเรื่องที่ยากมาก ประการแรกคุณต้องมีเงินเป็นจำนวนมาก ประการที่สองคุณต้องมีตัวแทนที่จะช่วยคุณทำขั้นตอนทั้งหมดและปฏิบัติการแทนคุณ หรือสิ่งที่เครียดมากขึ้นคือคุณจะต้องมีส่วนร่วมในการตกลงที่แท้จริงและเครียดที่จะต้องพยายามคว้าหุ้นในราคาที่สมบูรณ์แบบ
ตอนนี้คุณมีคำถาม: ถ้าฉันไม่ต้องการจัดการกับปัญหาเหล่านี้ทั้งหมดและฉันไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อหุ้นล่ะ? ถ้่าอย่างนั้นคุณมีโอกาสแล้ว
คุณจะไม่ได้รับหุ้นที่แท้จริง แต่คุณสามารถเก็งกำไรในการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดหุ้น เมื่อซื้อขายด้วยวิธีนี้คุณจะไม่ซื้อหุ้น แต่คุณต้องคาดการณ์ราคาและทำการซื้อขายจากการคาดการณ์ของคุณ คุณจะสั่งซื้อหรือขายและโบรกเกอร์จะทำข้อตกลงในนามของคุณ
บางทีคุณอาจอยากเป็นเจ้าของหุ้นและตอนนี้คุณกำลังเสียใจ ไม่ คุณไม่ควรเสียใจ เพราะข้อได้เปรียบแรกคือคุณไม่จำเป็นต้องใช้ทุนมากเพื่อเริ่มต้น นอกจากนี้โบรกเกอร์จะคอยช่วยเหลือคุณด้วยข้อเสนอของ leverage ที่ดีเยี่ยม ประการที่สองคุณจะไม่มีความเครียด คุณมีเวลาในการวิเคราะห์, ตัดสินใจ และเปิดคำสั่ง และสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าคือคุณสามารถสร้างรายได้ผ่านการขึ้นหรือลงของราคาหุ้น
สิ่งที่มีผลต่อราคาหุ้น
ทุกตลาดมีหลักเกณฑ์ในการกำหนดทิศทางของตนเอง มีสี่ปัจจัยหลักที่คุณต้องปฏิบัติตามเพื่อให้สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นได้
1. รายได้ของบริษัท
ไม่แปลกใจเลยที่จำนวนเงินที่บริษัทได้รับมีผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นของบริษัท รายได้เป็นผลกำไรของบริษัท กำไรนี้จะเป็นตัวกำหนดสุขภาพทางการเงินของมัน
วิธีติดตาม ในสหรัฐอเมริกา แต่ละบริษัทต้องมีการประกาศรายงานผลประกอบการรายไตรมาสสู่สาธารณะตามกฏหมาย
วิธีการซื้อขาย ก่อนที่บริษัทจะประกาศผลประกอบการ, นักวิเคราะห์จะคาดการณ์ผลประกอบการณ์, การคาดการณ์ทั้งหมดจะถูกรวบรวมโดย บริษัทวิจัยต่างๆในรูปแบบของประมาณการรายได้ที่เป็นเอกฉันท์, จากนั้นให้ตรวจสอบตัวเลขจากประมาณการแล้วติดตามตัวเลขจริง หากข้อมูลที่แท้จริงมีประสิทธิภาพดีกว่าที่คาดการณ์จะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น แต่หากผลประกอบการออกมาไม่ดีราคาหุ้นจะตกลง
2. ปัญหาภายใน
ปัจจัยที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือปัญหาภายใน ปัญหาและความไม่มั่นคงของบริษัทจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นของบริษัท การเปลี่ยน CEO, การอภิปราย และความเห็นของสมาชิกของบริษัท การควบรวมและการเข้าซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้นจะสร้างความผันผวนสูงใหกับหุ้น
ลองพิจารณาตัวอย่าง คุณจำ Elon Musk ทวีตว่าเขาต้องการที่จะซื้อ Tesla มาเป็นของตัวเองที่ราคา $420? หลังจากทวีตดังกล่าวราคาหุ้นของ Tesla ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก แล้ว NASDAQ ก็ระงับหุ้นของ Tesla ที่ตลกที่สุดคือมันเป็นเพียงข้อความใน Twitter แต่มันกลับเขย่าตลาดได้เป็นอย่างมาก
อุปสงค์และอุปทาน (S/D) อาจนับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาภายใน
ไม่ว่าทั้งเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์จะวิเคราะห์ตลาดใดก็ตามพวกจะพิจารณาปัจจัยของ S/D อยู่เสมอ หากบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืนจะเป็นการกระตุ้นให้ราคาหุ้นอาจเพิ่มขึ้น หากบริษัทมีการเสนอขายหุ้นออกราคาหุ้นอาจลดลง
วิธีติดตาม ตรวจสอบข่าวที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่มีหุ้นที่คุณต้องการซื้อขาย
วิธีซื้อขาย ประเมิณผลกระทบของข่าว, รอการตอบสนองของตลาด และติดตามอารมณ์ของตลาด
3. ข่าวอุตสาหกรรม
ไม่เพียงแต่สภาพแวดล้อมภายในของบริษัทเท่านั้นที่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นของบริษัท แต่ยังมีปัจจัยภายนอกอีกด้วย ข่าวที่เฉพาะเจาะจงกับบางภาคส่วนอาจมีผลเป็นอย่างมากต่อหุ้นของบริษัท นั่นเป็นเหตุผลที่เทรดเดอร์ต้องตรวจสอบข่าวอุตสาหกรรมด้วย ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการซื้อขายหุ้น Facebook คุณควรตรวจสอบข่าวในภาคเทคโนโลยี
วิธีการติดตาม ตรวจสอบข่าวที่เกี่ยวข้องกับภาคส่วนที่คุณเลือกวิธีการเทรด
ค้นหาว่าข่าวนั้นสำคัญหรือไม่ และผลกระทบใดที่อาจเกิดกับบริษัท เปิดออเดอร์ตามอารมณ์ของตลาด
4. การให้เรทติ้งของนักวิเคราะห์
นักวิเคราะห์จะพิจารณาหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น จากนั้นพวกเขาจะให้คำแนะนำว่าควรจะซื้อ, ขาย หรือถือหุ้นต่อ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ซื้อหุ้นจริงๆ แต่ข้อเสนอแนะดังกล่าวจะช่วยให้คุณสามารถซื้อขายความแตกต่างของราคาได้เนื่องจากคุณสามารถจับอารมณ์ของตลาดได้
วิธีการติดตาม คุณแค่ต้องตรวจสอบคำแนะนำจากแหล่งที่เชื่อถือได้
วิธีการใช้งาน การให้คะแนนของนักวิเคราะห์เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ยิ่งนักวิเคราะห์อธิบายการคาดการณ์ของตัวเองเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาได้ลึกเท่าไหร่ ยิ่งเป็นโชคของเรา อันดับแรก คุณไม่ต้องไปนั่งค้นคว้าเอง อันดับต่อมา คุณสามารถใช้ข้อมูลนั้นประกอบการคาดการณ์ของคุณได้ด้วย นอกจากนั้น ดังที่เรากล่าวไว้ข้างต้น การใช้คำแนะนำจะช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์อารมณ์ตลาดได้และนำมันมาใช้ได้ตามต้องการ
เคล็ดลับเล็กๆ: จำไว้เสมอเกี่ยวกับปัจจัยด้านมนุษย์ อย่าหลับหูหลับตาติดตามการคาดการณ์ ทุกคนสามารถผิดพลาดได้และการคาดการณ์ก็เช่นกัน จะดีกว่ามั้ยถ้าคุณผสมผสานการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์กับของตัวเองเข้าด้วยกัน
วิธีการคาดการณ์ราคา
ตลาดหุ้นมีความแตกต่างในเรื่องของปัจจัยที่ส่งผลกระทบแต่ไม่แตกต่างในแนวทางของการวิเคราะห์และการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาด คุณเคยซื้อขายคู่สกุลเงินและสินค้าโภคภัณฑ์บ้างหรือยัง? คุณเคยใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฯหรืออินดิเคเตอร์เชิงเทคนิคบ้างมั้ย? ถ้าคุณเคยแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่คุณจะเข้ามาเทรดตลาดหุ้น คุณแค่วางอินดิเคเตอร์ที่คุณชอบแล้วคอยติดตามข่าวปัจจัยพื้นฐานฯ
ทำไมคุณควรลงทุนในตลาดหุ้น
หุ้นเป็นสิ่งที่มีความผันผวนสูงและคุณสามารถใช้ความผันผวนนั้นได้ ความผันผวนสูงเป็นโอกาสที่จะได้กำไรเป็นจำนวนมาก แต่ก็อย่าลืมว่าโอกาสที่จะสูญเสียก็มีมากเช่นกัน เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนในตลาดหุ้น คุณเพียงแค่ต้องปฏิบัติตามอารมณ์ของตลาด, หมั่นอัพเดทข่าวสารและไม่พลาดข่าวประกาศที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น, ตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อข่าวสำคัญ และแน่นอนใช้ stop loss
ตลาดหุ้นเกี่ยวข้องกับบริษัทยักษ์ใหญ่เช่น Apple, Amazon, Facebook, Google และอื่นๆ คุณไม่ภูมิใจหรือที่ได้ใกล้ชิดกับยักษ์ใหญ่เหล่านั้น? และแน่นอนว่าโอกาสที่จะกลายเป็นกูรูของการเทรดหุ้นก็น่าสนใจด้วย ใช่มั้ย?
สรุป เราอาจพูดได้ว่าการซื้อขายความแตกต่างของราคาหุ้นก็นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ อันดับแรก คุณสามารถทำกำไรได้ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลง อันดับที่สอง ตลาดมีความผันผวนสูงที่นับเป็นโอกาสที่คุณจะเพิ่มผลกำไรได้อย่างมาก อันดับที่สาม มันเป็นตลาดที่น่าสนใจที่เต็มไปด้วยหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ซึ่งทำให้คุณรู้สึกราวกับอยู่ใน Wallstreet!