สร้างกลยุทธ์ของคุณด้วย RSI
ก่อนที่เราจะพิจารณากลยุทธ์การเทรด RSI จำเป็นจะต้องเริ่มต้นด้วยคำจำกัดความสั้นๆของ RSI กันก่อน
RSI (Relative Strength Index) เป็นตัวบ่งชี้แบบ oscillator ที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายโดยเทรดเดอร์ที่ทำการกำหนดจุดกลับตัว แนวคิดหลักที่คุณต้องคำนึงถึงเมื่อใช้กลยุทธ์การเทรดต่างๆก็คือ "หาก RSI พุ่งขึ้นเหนือ 70 หมายความว่าคู่สกุลเงินนี้จะเป็น overbought หาก RSI ลดลงต่ำกว่า 30 - คู่สกุลเงินนี้ก็จะเป็น oversold"
ลองพิจารณา 2 กลยุทธ์การเทรดแบบง่ายๆที่คุณสามารถนำไปใช้ในการซื้อขายประจำวันของคุณได้กันเถอะ
กลยุทธ์ #1
เกณฑ์:
• คู่สกุลเงิน – คู่ใดก็ได้• กรอบเวลา – H4• RSI – ช่วง 8, ใช้ “Close”, ระดับ: 30, 40, 50, 60, 70
ซื้อ
ขั้นตอน:
1. เมื่อ RSI ข้ามผ่านระดับ 50 จากด้านล่างสู่ด้านบน ให้วาง
2. ทันทีที่ดัชนีข้ามผ่านระดับ 60 ให้วางคำสั่งที่สองทันที Stop Loss ควรวางอยู่ที่ local minimum เช่นกัน
3. ควรปิดตำแหน่งเมื่อใด? ทันทีที่ RSI ฝ่าระดับ 70 จากบนลงล่าง
ขาย
ขั้นตอน:
1. เมื่อ RSI ข้ามผ่านระดับ 60 จากบนลงล่าง ให้วาง Sell Stop pending order 15 pips ไว้ใต้แท่งเทียนที่มีจุดตัดเกิดขึ้น Stop Loss จะอยู่ที่ local high
2. เมื่อดัชนีฝ่าต่ำกว่าระดับ 50 ให้วางอีก pending order ไว้ใต้แท่งเทียนที่มีจุดตัดเกิดขึ้น โปรดอย่าลืม Stop Loss
3. หากคุณกลับไปที่ส่วนแนะนำของบทความนี้ คุณจะเห็นว่าเส้น 30 เป็นหนึ่งในระดับที่สำคัญ ดังนั้นเมื่อดัชนีข้ามผ่านระดับ 30 จากด้านล่างสู่ด้านบน ก็จะถึงเวลาทำกำไรเนื่องจากมันเป็นสัญญาณของการกลับตัวขึ้นขึ้น
กลยุทธ์ #2 (แท่งเทียนที่ 50)
เกณฑ์:
• คู่สกุลเงิน – คู่ใดก็ได้• กรอบเวลา – กรอบเวลาใดก็ได้• RSI - ช่วง 8, ระดับ: 20, 80
ขั้นตอน:
1. หาคู่แท่งเที่ยนที่ 50 ที่ต่ำกว่า 49 อันก่อนหน้า 2. ใช้ตัวบ่งชี้ RSI ตรวจสอบที่ที่ตัวบ่งชี้ข้ามผ่านระดับ 20 จากบนลงล่าง ตรวจสอบว่าใต้ 20 RSI ตรงกับแท่งเทียนที่ 50 หรือไม่ เมื่อเงื่อนไขทั้งหมดตรงตามเกณฑ์แล้วคุณสามารถดำเนินการต่อในขั้นตอนถัดไปได้
3. ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้องรอแท่งเทียนอีกแท่งที่จะต่ำกว่าแท่งที่ 50 อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คืออย่าลืมใส่ใจกับดัชนี ดัชนีควรให้สัญญาณสูงกว่าครั้งแรก (มันเคือความแตกต่างระหว่างตัวบ่งชี้และราคา) หากเงื่อนไขเหล่านี้ทั้งหมดตรงตามเกณฑ์เราสามารถเริ่มมองหาจุดเข้าได้
4. ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดจุดเข้า คุณควรรอแท่งเทียนที่จะปิดเหนือแท่งเทียนที่ 50 หลังจากนั้นคุณจะสามารถเปิดตำแหน่งได้
5. ขั้นตอนต่อไปคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเทรด การวาง Stop Loss ดูที่แผนภูมิและหาระดับแนวรับที่เหมาะสมตามการเคลื่อนไหวของราคาก่อนหน้า Stop Loss ของคุณควรจะต่ำกว่าแนวรับเล็กน้อยเนื่องจากราคาอาจถึงแนวรับและเด้งกลับได้ แต่หากมันไม่เด้งกลับความเสี่ยงต่อการลดลงจะเพิ่มขึ้น
6. ขั้นตอนสุดท้ายคือการมองหาระดับที่ทำกำไร โดยเทรดเดอร์จะมีกฎทองว่าจะต้องใช้อัตราส่วนความเสี่ยง-ผลตอบแทนอยู่ที่ 1:3 ดังนั้นหากคุณกำหนดระดับ Stop Loss คุณควรคำนวณระยะห่างระหว่าง entry price และ Stop Loss จากนั้นให้วางระยะดังกล่าว 3 ระยะไว้เหนือ entry price นั่นจะเป็นเป้าหมายของคุณ
เคล็ดลับ: เทรดเดอร์ทุกรายทราบดีว่าสัญญาณจากตัวบ่งชี้เพียงตัวเดียวไม่สามารถรับประกันได้ 100% การรวมตัวบ่งชี้หลายตัวเข้าด้วยกันคือวิธีที่ดีกว่า และหากคุณเห็นว่าตัวบ่งชี้ตัวอื่นให้สัญญาณการกลับตัว คุณก็ควรจะพิจารณาสัญญาณนั้นและอาจปิดตำแหน่งก่อนที่ RSI จะให้สัญญาณ!
สรุปได้ว่า RSI เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่น่าเชื่อถือที่สุด คุณสามารถรวมมันเข้ากับตัวบ่งชี้อื่นๆเพื่อสร้าง กลยุทธ์ของคุณเอง ได้!