กลยุทธ์ Position trading
Position trading เป็นรูปแบบของการซื้อขายที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีความอดทนสูง, มีไหวพริบ, และมองการณ์ไกล ที่มีความรู้สึกจริงๆต่อตลาด เป้าหมายหลักของพวกเขาคือการได้รับประโยชน์จากแนวโน้มที่มีความชัดเจนมากกว่าจากความผันผวนของตลาดในระยะสั้น โดยทั่วไปแล้วพวกเขาใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฯเพื่อการซื้อขายของพวกเขา แต่บางครั้งพวกเขาจำเป็นต้องใช้เครื่องมือทางเทคนิคด้วย และอีกหนึ่งคุณลักษณะสำคัญที่บ่งบอกถึงความเป็น position traders - คือพวกเขามีบัญชีขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการซื้อขาย
มีข้อดีหลักๆอย่างน้อย 2 ข้อของการเทรดแบบ position trading:
1. ในขณะที่คุณทำการซื้อขาย คุณอาจได้กำไรเพิ่มเติมจากตวามแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยนอกเหนือไปจากกำไรจากซื้อขายตามปกติ เพราะว่าดอกเบี้ยหรือ swap จะถูกจ่ายให้กับสกุลเงินที่ถูกยืมและได้รับในสกุลที่ถูกซื้อ
2. การเป็น position trader คุณอาจได้รับประโยชน์จากสหสัมพันธ์ที่มีอยู่ระหว่างสกุลเงินต่างๆและตราสารการเงินอื่นๆ
ในบทความต่อไปนี้ เราจะสำรวจกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งสองด้านของการเทรดแบบ position trading ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น - swap และ ค่าสหสัมพันธ์
กลยุทธ์ 1
ตัวอย่างเช่น เราได้ตัดสินใจเข้าซื้อขายคู่สกุลเงิน CAD/JPY แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งเป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทนี้ที่มีชื่อเสียง ดังนั้นตามปกติสกุลเงินดอลลาร์แคนาดาจะพุ่งขึ้นเมื่อราคาน้ำมันดีดตัว แต่ในทางกลับกันประเทศญี่ปุ่นถูกพิจารณาว่าเป็นผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นคือสกุลเงินเยนจะอ่อนค่าลงเมื่อราคาน้ำมันดีดตัว สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ราคาน้ำมันกลายเป็นตัวขับเคลื่อนตัวบ่งชี้หลักของคู่สกุลเงิน CAD/JPY
แนวคิดของกลยุทธ์:
กรอบเวลา - รายวัน
การตั้งค่าของ Long trade:
• ก่อนอื่นให้ระบุแนวต้านบนแผนภูมิรายวันของ oil futures;
• หาแท่งเทียนที่ปิดเหนือแนวต้าน;
• เปิดตำแหน่ง long บนคู่ CAD/JPY ทันทีที่แท่งเทียนแท่งถัดไปเปิด;
• วาง stop loss ที่แนวรับสำคัญที่อยู่ก่อนจุดที่เข้า
• ตั้งจุด take profit ไว้ใต้แนวต้านสำคัญถัดไปที่อยู่หลังจากจุดเข้า
ตัวอย่าง:
ในแผนภูมิรายวันของ WTI เราระบุแนวโน้มขาขึ้นได้และเรากำลังมองหาจุดที่มีการพุ่งทะลุ แท่งเทียนที่ปิดเหนือเส้นแนวโน้มเกิดขึ้นในวันที่ 3 มกราคม หลังจากนั้นในวันที่ 4 มกราคม เราได้เปิดตำแหน่ง long ที่ราคาเปิดของแท่งเทียนที่ 79.79 เราได้วาง stop loss ที่ระดับแนวรับก่อนหน้าที่ 78.91 และวาง take profit ที่ 81.8
การตั้งค่าของ Short trade
• ระบุแนวรับของแผนภูมิน้ำมันในกรอบเวลารายวัน;
• หาแท่งเทียนที่ปิดใต้แนวรับ;
• เปิดตำแหน่ง short บนคู่ CAD/JPY ที่ราคาเปิดของแท่งเทียนแท่งถัดไป;
• วาง stop loss ที่ระดับแนวต้านสำคัญก่อนจุดเข้า;
• ตั้งจุด take profit ไว้ใต้ระดับแนวรับสำคัญที่อยู่หลังจุดเข้า
ตัวอย่าง:
ในแผนภูมิรายวันของ WTI ราคาของน้ำมันดิบได้วิ่งมาถึงระดับแนวรับที่ราคา $50.57 เรารอให้มีการพุ่งทะลุระดับนี้ ซึ่งมันก็เกิดขึ้นในวันที่ 17 ธันวาคม หลังจากนั้นเราได้สลับไปที่แผนภูมิ CAD/JPY เราได้วางออเดอร์ short ที่ราคาเปิดของแท่งเทียนในวันที่ 18 ธันวาคม ที่ราคา 84.14 ส่วนจุด stop loss ของตำแหน่งนี้จะอยู่ที่ราคา $85.27 ขณะที่จุด take profit จะอยู่ที่ราคา $82.7
กลยุทธ์ 2
กลยุทธ์ที่เรากำลังจะอธิบายนี้จะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (ดัชนีวัดมูลค่าของ USD เทียบกับมูลค่าของตะกร้าสกุลเงินหลัก) และราคาทองคำ ตามกฎแล้วดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะร่วงลงเมื่อทองคำพุ่งขึ้น
แนวคิดของกลยุทธ์:
กรอบเวลา - รายวัน
การตั้งค่าของ Long trade:
• ระบุแนวรับในแผนภูมิดัชนี USD (กรอบเวลารายวัน);
• ระบุแท่งเทียนที่ปิดใต้แนวรับ;
• เปิดตำแหน่ง long บนแผนภูมิทองคำที่ราคาเปิดของแท่งเทียนแท่งถัดไป;
• วาง stop loss ที่ระดับแนวรับสำคัญที่อยู่ก่อนจุดเข้า;
• ตั้งจุด take profit ไว้ใต้แนวต้านสำคัญถัดไปที่อยู่หลังจากจุดเข้า
ตัวอย่าง:
ในกราฟรายวันของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ เราได้สังเกตเห็นการพุ่งทะลุแนวรับที่ระดับ 95.66 ในวันที่ 7 มกราคม หลังจากนั้นเราได้เปิดแผนภูมิทองคำและเปิดตำแหน่ง long ที่ราคา $ 1,285 ในวันที่ 8 มกราคม เราได้วางจุด Stop loss ที่ระดับแนวรับก่อนหน้าที่ราคา $1,273 ส่วนจุด take profit จะอยู่ที่ราคา $1,299 (ต่ำกว่าแนวต้านเล็กน้อย)
การตั้งค่าของ short trade:
• ระบุแนวต้านในแผนภูมิดัชนี USD (กรอบเวลารายวัน);
• ระบุแท่งเทียนที่ปิดเหนือแนวต้าน;
• เปิดตำแหน่ง short บนแผนภูมิทองคำที่ราคาเปิดของแท่งเทียนแท่งถัดไป;
• วาง stop loss ที่ระดับแนวต้านสำคัญก่อนจุดเข้า;
• ตั้งจุด take profit ไว้ใต้ระดับแนวรับสำคัญที่อยู่หลังจุดเข้า
ตัวอย่าง:
สถานการณ์ที่คุณจำเป็นต้องเปิดตำแหน่ง short จะไม่ต่างจากสถานการณ์ที่ต้องเปิด long ในวันที่ 10 สิงหาคม (วันศุกร์) เราระบุการทะลุผ่านแนวต้านของกราฟรายวันของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ เราสลับไปที่แผนภูมิ XAU/USD และเข้าสู่ตำแหน่ง short ที่ราคาเปิดของแท่งเทียนในวันที่ 13 สิงหาคม (วันจันทร์) ที่ราคา $1,211 เราวาง stop loss ไว้เหนือระดับแนวต้านแรกก่อนที่จุดเข้าที่ราคา $1,220 ส่วนระดับ take profit จะอยู่ที่ราคา $1,198 (ใกล้กับระดับแนวรับ)
สรุป
การทำความเข้าใจความสัมพันธ์และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฯจะทำให้ position trader สามารถจับความเคลื่อนไหวของตลาดได้ง่ายขึ้นและเปิดตำแหน่งในจังหวะที่เหมาะสม
ที่มา: กลยุทธ์นี้อ้างอิงจากหนังสือ "17 Proven Currency Trading Strategies" โดย Mario Sant Singh