สองวิธีที่จะทำให้ชนะในการเทรดได้
สองแนวทางในการเทรด
การเทรด Forex นั้นมีความซับซ้อนและท้าทาย ผู้เข้าร่วมตลาดที่หลากหลายจำนวนมากพากันครุ่นคิดมาตลอดว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถประสบความสำเร็จในการเทรดได้ แถมยังพัฒนากลยุทธ์และเทคนิค Forex ที่ทำให้ชนะมากมายเพื่อพยายามบรรลุความสำเร็จในการเทรด แม้จะมีความหลากหลาย แต่เป้าหมายสูงสุดของทุกคนก็ยังคงเหมือนกัน นั่นคือการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาด นั่นเป็นสาเหตุที่แนวทางในการเทรดทั้งหมดสามารถแบ่งคร่าว ๆ ได้เป็นสองแนวทางกว้าง ๆ ด้วยกัน คือ การเทรดสวนแนวโน้ม และการเทรดตามแนวโน้ม
ประเด็นสำคัญ
- หลาย ๆ แนวโน้มนั้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปมากกว่าที่จะกลับตัว
- แนวโน้มของตลาดสามารถคงอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน บางครั้งอาจเป็นเดือนหรือเป็นปีเลยก็ได้
- การคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้มเป็นเรื่องยากและต้องใช้ทั้งการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ ประสบการณ์ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด
- เทรดเดอร์ใช้ Stop Loss เพื่อลดความเสี่ยงและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
การเทรดสวนแนวโน้ม
การเทรดสวนแนวโน้มอาจเป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจสำหรับเทรดเดอร์บางราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเชื่อว่าตลาดถึงเวลากลับตัวแล้วและจะมีโอกาสในการเทรดที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ แนวโน้มก็มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปมากกว่าที่จะกลับตัว ทำให้การเทรดตามแนวโน้มสามารถทำกำไรได้มากกว่า
เพื่ออธิบายประเด็นนี้ เรามาดูตัวอย่างกัน ลองนึกภาพคู่สกุลเงินที่มูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าอาจมีช่วงที่มีการกลับตัวเล็กน้อย แต่แนวโน้มโดยรวมก็เป็นขาขึ้น โดยการเทรดตามแนวโน้มและการเข้าซื้อเมื่อคู่สกุลเงินอยู่ในช่วงขาขึ้น เทรดเดอร์สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้
เสน่ห์ของการเทรดสวนแนวโน้มนั้นอยู่ที่ศักยภาพของมันในการทำกำไรได้จำนวนมากเมื่อมีการกลับตัวเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้มเป็นเรื่องยากมากและต้องใช้ทั้งการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ ประสบการณ์ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องท้าทายแม้กระทั่งกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ โดยทั่วไปแล้ว ไม่ได้มีคนจำนวนมากนักที่คิดว่าการเทรดสวนแนวโน้มเป็นกลยุทธ์การเทรดที่ชนะ และมันก็มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้พลาดโอกาสทำกำไรมากกว่าอีกด้วย
ทำความเข้าใจการเทรดตามแนวโน้ม
ในทางกลับกัน รากฐานของการเทรดตามแนวโน้มนั้นตั้งอยู่บนความเชื่อที่ว่าแนวโน้มที่ปัจจุบันนั้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปมากกว่าที่จะกลับตัว กล่าวคือ ตลาดมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางนั้น ๆ ต่อไปเป็นระยะเวลานาน บางครั้งแนวโน้มของตลาดอาจดำรงอยู่ได้นานหลายเดือนหรือหลายปี ตัวอย่างเช่น ดัชนี US500 ของอเมริกาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นมานานกว่า 100 ปี ดังนั้นการพยายามคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้มจึงเป็นความคิดที่ไม่ดี นั่นเป็นสาเหตุที่เทรดเดอร์ตามแนวโน้มเข้าเปิดสถานะในทิศทางของแนวโน้มปัจจุบันและยึดตามโมเมนตัมนั้นตราบเท่าที่แนวโน้มยังคงดำเนินอยู่ ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้น (กระทิง) หรือขาลง (หมี)
เทรดเดอร์ Forex มักใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค รูปแบบกราฟ และเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ เพื่อระบุรูปแบบและกำหนดความแข็งแกร่งและระยะเวลาของแนวโน้ม
โดยทั่วไป การทำความเข้าใจแนวโน้มในปัจจุบันจะช่วยสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลว่าจะเข้าและออกจากการเทรดเมื่อใด และเหมาะสำหรับการเทรดทั้งระยะสั้นและระยะยาว เนื่องจากช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจัดการกับการเทรดของตนให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาดโดยรวมได้
นอกจากนี้ โดยทั่วไปการเทรดตามแนวโน้มถือเป็นกลยุทธ์ที่ตรงไปตรงมามากกว่าสำหรับเทรดเดอร์ โดยเฉพาะผู้ที่ยังใหม่ต่อตลาด การรอให้ราคาปรับฐานในช่วงขาขึ้นแล้วจึงเข้าซื้อถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถติดตามแนวโน้มและไม่ต้องพยายามคาดเดาการกลับตัวของมัน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าไม่มีกลยุทธ์ใดที่จะสามารถรับประกันความสำเร็จในการเทรดได้
วิธีการใช้ Stop Loss ในการเทรด
การบริหารความเสี่ยงถือเป็นสิ่งสำคัญของการประสบความสำเร็จในการเทรด ไม่ว่าจะเลือกใช้แนวทางการเทรดแบบใดก็ตาม โดยเทรดเดอร์จะใช้วิธีการวาง Stop Loss (คำสั่งหยุดขาดทุน) เพื่อลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น มันเป็นระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งเทรดเดอร์จะออกจากการเทรดที่ขาดทุนโดยอัตโนมัติเมื่อตราสารการซื้อขายนั้น ๆ ขยับไปถึงราคาที่กำหนด
การพยายามที่จะเทรดโดยไม่วางคำสั่ง Stop Loss นั้นคล้ายกับการเดินทางในสายน้ำที่เชี่ยวกรากโดยไม่สวมเสื้อชูชีพ มีเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ซึ่งมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความเสี่ยงและพฤติกรรมของตลาดเท่านั้นที่อาจพิจารณาใช้แนวทางที่มีความเสี่ยงดังกล่าวได้ สำหรับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ การใช้ Stop Loss ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำแนะนำเท่านั้น แต่มันถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ
จุดประสงค์หลักของคำสั่ง Stop Loss นั้นมีสามประการ ประการแรก มันจะปกป้องเทรดเดอร์จากความสูญเสียที่ร้ายแรงเมื่อตลาดเคลื่อนไหวตรงข้ามกับที่พวกเขาต้องการเกินกว่าจุดที่กำหนดไว้ ประการที่สอง มันช่วยให้เทรดเดอร์เป็นอิสระจากภาระทางอารมณ์ในการตัดสินใจในช่วงสภาวะตลาดที่ไม่เป็นใจ อารมณ์ เช่น ความกลัวและความโลภสามารถปิดกั้นการตัดสินใจดี ๆ และทำให้เกิดการตัดสินใจที่หุนหันพลันแล่นและไร้เหตุผล ประการที่สาม Stop Loss ในตำแหน่งที่ดีช่วยทำให้เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องคอยเฝ้าดูกราฟอยู่บ่อย ๆ และช่วยให้เทรดเดอร์ปฏิบัติตามการยอมรับความเสี่ยงที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้
การใช้กลยุทธ์ Stop Loss ในการเทรด
การใช้กลยุทธ์ Stop Loss ที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องผสมผสานระหว่างการวิเคราะห์ทางเทคนิค การประเมินความเสี่ยง และการมีวินัย นี่คือแนวทางสั้น ๆ เกี่ยวกับการใช้คำสั่ง Stop Loss
- ระบุระดับแนวรับและแนวต้าน: ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคบนกราฟราคาเพื่อระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ ระดับเหล่านี้สามารถทำหน้าที่เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะตั้งคำสั่ง Stop Loss ได้
- พิจารณาความผันผวน: ปรับระยะห่างของจุด Stop Loss จากจุดที่เข้าเทรดตามความผันผวนของตลาด ในตลาดที่มีความผันผวนสูงอาจจำเป็นต้องวางจุด Stop Loss ที่กว้างขึ้นเพื่อจะได้สามารถรับมือกับความผันผวนของราคาที่สูงขึ้นได้
- กำหนดอัตราส่วนความเสี่ยง-ผลตอบแทน: กำหนดผลตอบแทนที่เป็นไปได้สำหรับการเทรดให้สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง สิ่งนี้ช่วยให้ทำให้มั่นใจได้ว่าผลกำไรที่เป็นไปได้นั้นจะสูงกว่าการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น หากกำหนดเป้าหมายของอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ 2:1 ระบบจะตั้งค่า Stop Loss ไว้ที่ระดับที่การสูญเสียที่เป็นไปได้คือครึ่งหนึ่งของกำไรที่คาดหวัง ในกรณีนี้ สำหรับการที่จะทำกำไร เทรดเดอร์จำเป็นต้องทำกำไรเพียงแค่ 40% ของการเทรดเท่านั้น เนื่องจากผลตอบแทนนั้นมากกว่าการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นถึงสองเท่า
- ใช้ Trailing Stop Loss: พิจารณาใช้ Trailing Stop Loss ซึ่งจะคอยปรับแบบไดนามิกเมื่อราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางของการเทรดที่ต้องการ สิ่งนี้ช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับผลกำไรและโอกาสในการเทรดที่สำคัญมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ปกป้องผลกำไรไว้ได้หากตลาดกลับตัว อย่างไรก็ตาม บางครั้ง Trailing Stop Loss อาจถูกกระตุ้นเร็วเกินไปเมื่อมีความผันผวนสูง หากสิ่งนี้เกิดขึ้น เทรดเดอร์ก็จะไม่มีสถานะที่เปิดอยู่และไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคานั้นได้
การใช้กลยุทธ์ Stop Loss ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจัดการความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเทรดที่ทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังมอบแนวทางที่มีโครงสร้างในการเทรดและช่วยให้เทรดเดอร์มีระเบียบวินัยในกระบวนการตัดสินใจ
สรุป
โปรดจำไว้ว่าเมื่อพูดถึงการซื้อขายมันไม่มีกลยุทธ์ใดที่จะเหมาะกับทุกคนหรือมีวิธีใดวิธีหนึ่งที่จะชนะได้ เทรดเดอร์แต่ละรายจะต้องค้นหาแนวทางที่สอดคล้องกับทักษะ การยอมรับความเสี่ยง เป้าหมายทางการเงิน และระดับประสบการณ์ของตนเอง เช่นเดียวกับความพยายามทางการเงิน การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การปรับตัว และการดำเนินการที่มีระเบียบวินัยเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับความสำเร็จในการเทรดในโลกแห่งการเทรดที่ท้าทาย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
การเทรดสวนแนวโน้มนั้นดีหรือไม่?
การเทรดสวนแนวโน้มเป็นวิธีการซื้อขายที่โดยทั่วไปไม่แนะนำสำหรับเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ เนื่องจากขัดต่อทิศทางของตลาดและอาจมีความเสี่ยงได้ หลาย ๆ แนวโน้มมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการเทรดตามแนวโน้มจึงทำให้ความน่าจะเป็นสำหรับการเทรดที่ทำกำไรได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ผู้มีประสบการณ์ซึ่งใช้กลยุทธ์ขั้นสูงและเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างถ่องแท้อาจเทรดสวนแนวโน้มบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อทำกำไรจากการกลับตัวของตลาด โดยทั่วไปแล้ว ไม่มีกลยุทธ์ใดที่จะชนะในตลาด Forex ได้
กลยุทธ์การเทรดใดที่ทำกำไรได้มากที่สุด?
ไม่มีกลยุทธ์การเทรดใดที่ให้ผลกำไรหรือทำให้ชนะได้มากที่สุดที่ทุกคนสามารถใช้ได้แบบครอบจักรวาลหรอก เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาวะตลาด ความเชี่ยวชาญของเทรดเดอร์ และการยอมรับความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์จำนวนมากค้นพบความสำเร็จด้วยกลยุทธ์ที่เทรดตามแนวโน้ม ด้วยการเข้าสู่การเทรดตามแนวโน้มที่เกิดขึ้น เทรดเดอร์จะเพิ่มความน่าจะเป็นของสถานะที่ทำกำไรได้ การผสมผสานกลยุทธ์การติดตามแนวโน้มเข้ากับเทคนิคการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น การตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาการควบคุมผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
Stop Loss ทำงานอย่างไรในการเทรด?
Stop Loss หรือ คำสั่งหยุดขาดทุน เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่ใช้ในการซื้อขายเพื่อจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น มันเกี่ยวข้องกับการตั้งค่าระดับราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าซึ่งการเทรดจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ และลดการสูญเสียเพิ่มเติม ด้วยการใช้คำสั่ง Stop Loss เทรดเดอร์สามารถปกป้องเงินทุนของตนและป้องกันการขาดทุนที่สำคัญได้ มันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคอยตรวจสอบดูและปรับคำสั่ง Stop Loss อยู่เป็นประจำในขณะที่การเทรดดำเนินไปเพื่อปรับให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง
กฎ 2% ในการเทรดคืออะไร?
กฎ 2% ในการเทรด หมายถึง กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่แนะนำให้เสี่ยงไม่เกิน 2% ของเงินทุนในการเทรดสำหรับการออกออเดอร์ในแต่ละครั้ง โดยการปฏิบัติตามกฎนี้ เทรดเดอร์จะสามารถจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นและปกป้องเงินทุนโดยรวมของตนได้ ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์มีเงินทุน $10,000 พวกเขาไม่ควรเสี่ยงมากกว่า $200 (2% ของ $10,000) ในการเทรดหนึ่งครั้ง การปฏิบัติตามกฎ 2% จะช่วยรักษาความสม่ำเสมอในการบริหารความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นมากเกินไป
กฎการเทรด 1% คืออะไร?
กฎการเทรด 1% เป็นหลักการบริหารความเสี่ยงที่แนะนำให้เสี่ยงไม่เกิน 1% ของเงินทุนในการเทรดสำหรับการออกออเดอร์หนึ่งครั้ง กฎนี้คล้ายกับกฎ 2% แต่เป็นการจัดการความเสี่ยงที่ระมัดระวังยิ่งขึ้น ด้วยการจำกัดความเสี่ยงไว้ที่ 1% ของเงินทุนในการซื้อขาย เทรดเดอร์สามารถปกป้องบัญชีของตนจากการสูญเสียที่สำคัญ และรักษาความสม่ำเสมอในกลยุทธ์การเทรดโดยรวม การปฏิบัติตามกฎ 1% เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาเงินทุนและจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ
สองแนวทางที่ใช้ในการเทรดมีอะไรบ้าง?
แนวทางการเทรดแบบกว้าง ๆ สองแนวทางคือการเทรดสวนแนวโน้มและการเทรดตามแนวโน้ม การเทรดสวนแนวโน้มเกี่ยวข้องกับการทำนายการกลับตัวสำหรับทิศทางของตลาด ในขณะที่การเทรดตามแนวโน้มจะสอดคล้องกับทิศทางของตลาดปัจจุบันที่ดำรงอยู่ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ประโยชน์จากโมเมนตัม
เป็นไปได้ไหมที่จะเทรดโดยไม่ใช้ Stop Loss?
แม้ว่าจะเป็นไปได้ในทางเทคนิค แต่การเทรดโดยไม่มีกลยุทธ์ Stop Loss นั้นเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างมาก มันทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนได้แบบไม่จำกัดและบ่อนทำลายหลักการบริหารความเสี่ยงที่ดี
ฉันควรจะกำหนดระยะห่างที่เหมาะสมสำหรับ Stop Loss อย่างไรดี?
ระยะห่างของจุด Stop Loss ในการเทรดขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความผันผวนของตลาด กรอบเวลาของการเทรด และระดับการยอมรับความเสี่ยงได้ของแต่ละบุคคล วิธีการทั่วไปคือการตั้งค่าจุด Stop Loss ให้เกินกว่าระดับแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ
Trailing Stop Loss คืออะไร?
Trailing Stop Loss ในการเทรด คือ คำสั่งซื้อที่ปรับเปลี่ยนแบบไดนามิกตามการเคลื่อนไหวของราคา เมื่อการเทรดมีกำไรมากขึ้น Stop Loss จะขยับให้แคบเข้ามาโดยอัตโนมัติ เพื่อรักษากำไรไว้ในขณะที่เตรียมพร้อมสำหรับการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นต่อไป
คำสั่ง Stop Loss สามารถรับประกันได้ไหมว่าจะไม่ขาดทุน?
คำสั่ง Stop Loss ไม่สามารถรับประกันการสูญเสียให้เป็นศูนย์ได้ แต่เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่ออกแบบมาเพื่อจำกัดการสูญเสียให้อยู่ในระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า สภาวะตลาด สลิปเพจ และช่องว่างสามารถส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของคำสั่ง Stop Loss ได้