วิธีการใช้ Fibonacci Retracement
ระดับ Fibonacci retracement คืออะไร?
ในการซื้อขายนั้นอาศัยแค่สัญชาตญาณเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพื่อให้ประสบความสำเร็จ เทรดเดอร์จำเป็นต้องใช้เทคนิคและเครื่องมือต่างๆ ในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ หนึ่งในเครื่องมือดังกล่าวคือระดับ Fibonacci retracement หรือที่เรียกว่าระดับการดีดตัวฟีโบนักชี ระดับ Fibonacci retracement คือเส้นแนวนอนบนแผนภูมิราคาที่แสดงระดับแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของราคา วิธีนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์เห็นว่าราคาอาจกลับมาที่ระดับก่อนหน้าก่อนที่จะดำเนินต่อไปตามแนวโน้ม
ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fibonacci retracement วิธีคำนวณและวิธีการนำไปใช้ในการซื้อขายของคุณ เครื่องมือใดบ้างที่ใช้ด้วยกันได้กับ Fibonacci retracement และข้อจำกัดที่คุณอาจพบขณะใช้เครื่องมือนี้
สูตรสำหรับระดับ Fibonacci retracement
เครื่องมือ Fibonacci retracement นั้นมีพื้นฐานจากคณิตศาสตร์ ในการระบุระดับ Fibonacci retracement คุณต้องใช้สูตรต่อไปนี้:
UR = H - ((H - L) * เปอร์เซ็นต์) – สำหรับการเคลื่อนไหวขาขึ้น หรือ
DR = L + ((H - L) * เปอร์เซ็นต์) – สำหรับการเคลื่อนไหวขาลง
โดยที่
- UR คือการดีดตัวของแนวโน้มขาขึ้น
- DR คือการดีดตัวของแนวโน้มขาลง
- H คือราคาสูงสุด
- L คือราคาต่ำสุด
แม้ว่าแพลตฟอร์มการซื้อขายส่วนใหญ่สามารถทำการคำนวณเหล่านี้ได้โดยอัตโนมัติ แต่การที่คุณรู้ว่าจะทำการคำนวณสิ่งนี้ด้วยตัวเองได้อย่างไรก็เป็นเรื่องที่ดี
วิธีการคำนวณระดับ Fibonacci retracement
เมื่อคุณทราบสูตรสำหรับระดับ Fibonacci retracement แล้ว คุณก็สามารถเรียนรู้ที่จะคำนวณมันได้จริงๆ
ประการแรก คุณต้องดูแผนภูมิราคาและเลือกจุดราคาสองจุด – จุดราคาสูงสุดหนึ่งจุดและจุดราคาต่ำสุดหนึ่งจุด มันสำคัญมากที่คุณต้องดูให้แน่ใจว่ามันไม่มีจุดสูงสุดที่สูงกว่านี้หรือจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่านี้แล้ว หากคุณระบุจุดเหล่านี้ผิดพลาด การคำนวณของคุณก็จะผิดพลาดไปด้วยและคุณจะพลาดระดับการดีดตัวที่ถูกต้องไป จากนั้น เมื่อคุณพบจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดแล้ว คุณสามารถใช้ตัวเลขสองตัวนี้ในสูตรและคำนวณระดับการดีดตัวสำหรับส่วนการเคลื่อนไหวของราคาโดยเฉพาะได้
อัตราส่วน Fibonacci คืออะไร?
อย่างไรก็ตาม การรู้เพียงจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดนั้นไม่เพียงพอ คุณต้องรู้ด้วยว่าจะใช้เปอร์เซ็นต์ใดในสูตร เมื่อคำนวณระดับ Fibonacci retracement เทรดเดอร์จะใช้สิ่งที่เรียกว่าอัตราส่วน Fibonacci
อัตราส่วน Fibonacci คือเปอร์เซ็นต์ของช่วงราคาที่เลือกซึ่งกำหนดระดับแนวรับและแนวต้านของการเคลื่อนไหวของราคา อัตราส่วนฟีโบนักชีได้มาจากตัวเลขฟีโบนักชี ซึ่งเป็นลำดับของตัวเลข โดยที่ตัวเลขแต่ละตัวเป็นผลรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า หากคุณหารเลขฟีโบนักชีด้วยเลขถัดไป ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็น 0.618 (61.8%) หากคุณหารจำนวนเดียวกันนั้นด้วยตัวเลขที่สองจากทางขวา คุณจะได้ 0.382 (38.2%) และเลขหลังจากนั้นก็จะได้ 0.236 (23.6%) ซึ่งปรากฎว่าอัตราส่วนเหล่านี้ร่วมกับระดับ 50% แสดงถึงระดับแนวรับและแนวต้านในการเคลื่อนไหวของราคา ดังนั้นมันจึงถูกใช้เพื่อระบุระดับ Fibonacci retracement
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าราคาของสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก $15 เป็น $18.43 ในกรณีนี้ สูตรที่ใช้หาระดับ Fibonacci retracement จะมีลักษณะดังนี้:
$18.43 - (($18.43 - $15) * เปอร์เซ็นต์)
ด้วยเหตุนี้ เราจะได้รับระดับการดีดตัวต่อไปนี้: $17.62 (ที่ 23.6%), $17.12 (ที่ 38.2%), $16.71 (ที่ 50%) และ $16.31 (ที่ 61.8%)
คุณจะใช้ระดับ Fibonacci Retracement ในแผนภูมิได้อย่างไร?
ระดับ Fibonacci retracement สามารถใช้ในแผนภูมิเพื่อค้นหาช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเข้าสู่การซื้อขายได้ วิธีทั่วไปในการใช้เครื่องมือนี้คือการติดตามการซื้อขายที่คงที่และดูว่าราคาดีดตัวกลับมาที่ระดับ Fibonacci ระดับใดระดับหนึ่งหรือไม่ ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็นว่าหลังจากที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมาก ราคาสินทรัพย์ลดลง 23.6% แล้วจากนั้นก็เด้งกลับขึ้นไป นั่นอาจเป็นเวลาที่ดีที่จะเข้าสู่การซื้อขาย
คุณจะวาดเส้น Fibonacci Retracement ได้อย่างไร?
ถึงแม้จะมีลักษณะตามธรรมชาติที่ไม่สามารถอธิบายได้ของมัน ระดับ Fibonacci retracement ก็ถือเป็นเครื่องมือที่เชื่อถือได้สำหรับการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประกอบกับวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การวาดเส้น Fibonacci retracement อาจดูค่อนข้างท้าทายสำหรับเทรดเดอร์บางราย เนื่องจากการลากเส้นที่ไม่ดีอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ผิดพลาดและทำให้การซื้อขายทั้งหมดของคุณยุ่งเหยิงปั่นป่วน นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องรู้วิธีการวาดเส้น Fibonacci retracement อย่างถูกต้อง
โชคดีที่แพลตฟอร์มการซื้อขายส่วนใหญ่มีเครื่องมือ Fibonacci มาแล้วในตัว ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องวาดเส้นและระดับด้วยตนเอง แต่สิ่งที่คุณต้องทำคือตรวจสอบการเคลื่อนไหวของราคาล่าสุดอย่างรอบคอบและเลือกจุดแกว่งตัวสูงสุดและจุดแกว่งตัวต่ำสุด จากนั้นคุณต้องลากเคอร์เซอร์จากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด (สำหรับแนวโน้มขาขึ้น) หรือจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด (สำหรับแนวโน้มขาลง) เพื่อวาดเส้นที่เรียกว่าเส้นฐาน หลังจากนี้ ซอฟต์แวร์จะวางระดับฟีโบนักชีให้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้คุณเห็นระดับแนวรับหรือแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นบนแผนภูมิของคุณ และสร้างกลยุทธ์การซื้อขายของคุณตามลำดับ
วิธีการซื้อขายโดยใช้ Fibonacci retracement
การนำระดับ Fibonacci retracement ไปใช้ร่วมกับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณมีหลายวิธีด้วยกัน
ราคาสินทรัพย์นั้นไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเส้นตรง อาจมีการดีดตัวภายในแนวโน้ม หลังจากนั้นราคาจะก็กลับคืนสู่เส้นทางเดิม ในกรณีนี้ ระดับ Fibonacci retracement สามารถแสดงให้คุณเห็นเมื่อราคามีแนวโน้มที่จะพบกับแนวรับและแนวต้าน และยังคงเคลื่อนไหวต่อไปตามแนวโน้มทั่วไป คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อค้นหาเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเข้าสู่การซื้อขายและแม้กระทั่งตั้งค่าจุดเข้าอัตโนมัติที่ระดับการดีดตัว
มันไม่สำคัญเลยว่าคุณกำลังซื้อขายตามแนวโน้มหรือซื้อขายสวนแนวโน้ม ใช้ระดับ Fibonacci retracement เพื่อค้นหาจุดที่สินทรัพย์อาจเด้งตัวหรือกลับตัว นอกจากนี้ เส้นเหล่านี้ยังมีประโยชน์ในการวาง Stop Loss และ Take Profit อีกด้วย
โดยทั่วไปแล้ว เทรดเดอร์ชอบที่จะอยู่ในที่ปลอดภัยและเข้าสู่การซื้อขายเมื่อราคาได้เด้งกลับจากระดับ Fibonacci ระดับใดระดับหนึ่งแล้ว แต่เทรดเดอร์บางรายเลือกรูปแบบการซื้อขายเชิงรุกและไม่รอให้ราคากระเด้งออกก่อนที่จะเข้าสู่การซื้อขาย ในกรณีนี้ ระดับ Fibonacci retracement สามารถใช้เพื่อวางคำสั่ง Stop Loss ไว้เป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยได้
การวาง Stop Loss และ Take Profit
โดยปกติ เทรดเดอร์จะวางคำสั่ง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าระดับ Fibonacci ถัดไป หลังจากที่พวกเขาเข้าซื้อสินทรัพย์ หรือวางคำสั่ง Stop Loss ไว้สูงกว่าระดับ Fibonacci ถัดไปหลังจากที่พวกเขาเข้าขายสินทรัพย์หนึ่งไป ด้วยวิธีนี้ ในกรณีที่มีการกลับตัวของแนวโน้ม คุณก็จะสามารถลดการขาดทุนของคุณให้เหลือน้อยที่สุดได้
คำสั่ง Take profit แตกต่างกันเล็กน้อย เนื่องจากเทรดเดอร์บางรายต้องการปิดส่วนหนึ่งของการซื้อขายที่เส้นแนวต้านที่ใกล้ที่สุดและย้าย Stop Loss ไปที่จุดคุ้มทุน เมื่อทำการซื้อขายด้วย Fibonacci retracement ให้พิจารณาแบ่งคำสั่งซื้อขายของคุณออกเป็น 2-4 ไม้เท่าๆ กัน และปิดหนึ่งไม้ในแต่ละครั้งที่ราคาแตะระดับ Fibonacci ระดับใดระดับหนึ่ง คุณสามารถปิดไม้สุดท้ายที่ระดับ 0.0 เพื่อรับกำไรของคุณได้อย่างเต็มที่
Fibonacci Retracement กับเครื่องมืออื่นๆ
เนื่องจาก Fibonacci retracement ใช้เพื่อระบุแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น จึงควรใช้เครื่องมือและวิธีการอื่นๆ ก่อนตัดสินใจในการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป ต่อไปนี้คือเครื่องมืออื่นๆ ที่สามารถใช้ร่วมกับ Fibonacci retracement ได้:
- เส้นแนวโน้ม หากคุณวาดเส้นแนวโน้มตามวิถีการเคลื่อนไหวของราคาและใช้ Fibonacci retracement ในเวลาเดียวกัน คุณจะเห็นเส้นแนวโน้มข้ามระดับการดีดตัว จุดที่สิ่งนั้นเกิดขึ้นถือเป็นจุดที่ดีที่สุดในการเข้าสู่การซื้อขาย
- เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) เป็นเส้นที่มีประโยชน์ในการระบุแนวรับและแนวต้านที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 มักใช้ร่วมกับ Fibonacci retracement เพราะหากตรงกับระดับการดีดตัว 50% มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการดึงกลับที่ระดับนี้ จุดนี้เป็นจุดที่ดีในการเข้าสู่ตลาดหรือทำกำไร
- รูปแบบแท่งเทียน การมองหารูปแบบแท่งเทียนกลับตัวใกล้ระดับการดีดตัวเป็นวิธีที่ดีเพื่อให้แน่ใจว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดแนวรับหรือแนวต้านขึ้น ดังนั้นการรู้จักกับรูปแบบแท่งเทียนต่างๆ จะช่วยให้คุณเข้าใจระดับ Fibonacci retracement ได้มากขึ้น โปรดสังเกตว่ารูปแบบแท่งเทียนนั้นจะไม่น่าเชื่อถือเมื่อไม่ใช้มันร่วมกับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ ด้วยและมันสามารถให้สัญญาณหลอกได้มากมาย ลองใช้พวกมันกับ Fibonacci retracement, ออสซิลเลเตอร์ RSI หรือการวิเคราะห์ปริมาณดูนะ
ข้อจำกัดของการใช้ระดับ Fibonacci Retracement
แม้ว่าระดับ Fibonacci retracement จะเป็นเครื่องมือยอดนิยมในการระบุระดับแนวรับและแนวต้าน แต่ก็ไม่มีการรับประกันว่าราคาจะเด้งกลับจากระดับเหล่านี้ มันแค่มีความเป็นไปได้พอๆ กับที่แนวโน้มจะดำเนินต่อไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับแนวโน้มปัจจุบันและไม่ได้หยุดที่ระดับ Fibonacci ใดๆ เลย ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับตัวของการเคลื่อนไหวของราคา
อีกประเด็นหนึ่งคือ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์ว่าราคาจะกลับตัว ณ ระดับใด ดังนั้นการใช้ Fibonacci retracements เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีเครื่องมือหรือสัญญาณยืนยันอื่นๆ (เช่น การเด้งกลับของราคา) จะไม่ได้ให้การประมาณการที่เป็นชัดเจนว่าราคาจะดำเนินต่อไปตามแนวโน้มหรือไม่และเมื่อใด
ออสซิลเลเตอร์ RSI ใช้ร่วมกับ Fibonacci retracement ได้เป็นอย่างดี ทั้งสองอย่างนี้จะร่วมกันให้สัญญาณที่เชื่อถือได้มากขึ้นสำหรับการเข้าและออกจากการซื้อขาย
สรุป
Fibonacci retracement อาจเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่สุดที่คุณสามารถใช้ในการซื้อขายได้ เนื่องจากสามารถแสดงตำแหน่งที่เทรดเดอร์ควรเข้าซื้อหรือเข้าขาย มันแสดงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าหรือออกจากการซื้อขายและตำแหน่งที่จะวางคำสั่ง Stop Loss สิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ Fibonacci retracement คือช่วยให้เทรดเดอร์มองไปยังอนาคตและคาดการณ์แนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ก่อนที่ราคาจะไปถึง แม้ว่า Fibonacci retracement จะได้รับความนิยมอย่างมากจากเทรดเดอร์ แต่ Fibonacci retracement ก็ยังไม่ใช่เครื่องมือที่ไม่มีความผิดพลาดเลย ดังนั้นการใช้ร่วมกับเครื่องมือและวิธีการอื่นๆ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้การคาดการณ์ที่ดีที่สุด
เริ่มการเทรดอัปเดทแล้ว • 2023-05-08
บทความอื่นๆ ในส่วนนี้
- การวิเคราะห์ฟีโบนักชี
- Fibonacci expansion
- รูปแบบกราฟของแท่งเทียนกลับตัว
- รูปแบบแท่งเทียนต่อเนื่อง
- จะจัดการกับสัญญาณรบกวนของตลาดได้อย่างไร?
- วิธีการทำการทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายย้อนหลังหรือ backtest
- Gator Oscillator
- Market Facilitation Index
- Awesome Oscillator
- ขอบเขต
- Alligator
- ทฤษฎี Bill Williams
- Fractal
- รูปแบบแผนภูมิ
- การค้นพบตัวชี้วัด GANN
- จะสร้างกลยุทธ์การซื้อขายของคุณได้อย่างไร?
- รูปแบบแท่งเทียน
- Trend trading
- ลักษณะและกลยุทธ์การซื้อขาย
- จิตวิทยา
- ธุรกรรมการเก็งกำไรค่าเงินจากส่วนต่าง
- การเทรดตามความผันผวนของราคา
- การเทรดตำแหน่ง
- การเทรดระยะสั้น
- การซื้อขายโดยหวังกำไร
- เครื่องมือ Fibonacci คืออะไร?
- จิตวิทยา
- วิธีระบุการกลับตัวของตลาด
- แท่งเทียนญี่ปุ่น
- แนวโน้ม