Relative Strength Index (RSI)
Relative Strength Index หรือ RSI เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเทคนิคที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่เทรดเดอร์ ได้รับการพัฒนาโดย J. Welles Wilder ในปี 1978 เพื่อวัดความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคา ตัวบ่งชี้ยังช่วยในการกำหนดสถานะ overbought/oversold ของตลาดเพื่อซื้อต่ำและขายสูง
วิธีการใช้งาน RSI
หากต้องการเพิ่ม RSI ลงในแผนภูมิให้คลิกที่ “Insert” – “Indicators” – “Oscillators” - และคุณจะเห็น "Relative Strength Index"
ตามค่าเริ่มต้น MetaTrader จะตั้งค่า period ไว้ที่ “14” คุณสามารถเปลี่ยนพารามิเตอร์นี้ได้หากต้องการ โดยปกติเทรดเดอร์ระยะสั้นจะใช้ 9-period RSI ในขณะที่เทรดเดอร์ระยะยาวจะเลือก 5-period RSI สรุปได้ว่ายิ่ง period สั้นลงมากเท่าไหร่ ตัวบ่งชี้ก็ยิ่งสร้างความผันผวนมากขึ้นเท่านั้น
วิธีการตีความ Relative Strength Index
ค่าที่อ่านได้จากตัวบ่งชี้ผันผวนระหว่าง 0 ถึง 100 คุณยังสามารถเพิ่มเส้นกลางที่ 50 ถ้า RSI อยู่เหนือจุดนี้ จะมองว่าเป็นขาขึ้น และมีความสมเหตุสมผลที่จะมองหาโอกาสในการเข้า buy แต่เมื่อ RSI ลดลงต่ำกว่า 50 มันเป็นสัญญาณของแนวโน้มตลาดขาลง
ตลาดมีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป
ดังนั้นควรพิจารณาเปิด sellเช่นเดียวกับ oscillators อื่นๆ RSI จะช่วยบอกว่าเมื่อไหร่ที่สินทรัพย์ถูกซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป สำหรับ RSI คุณต้องดูระดับ 70 และ 30 หาก RSI เพิ่มขึ้นเกินขอบเขต 70 หมายความว่าตลาดมีการซื้อมากเกินไปและอาจปรับฐานลง หาก RSI ต่ำกว่าเส้น 30 -สินทรัพย์ถูกขายมากเกินไป และอาจกลับไปสู่ระดับที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตามขอให้สังเกตว่าวิธีนี้ไม่เหมาะสำหรับการซื้อขายในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง เมื่อ RSI เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป หากคุณมีหลักฐานว่ามีแนวโน้มที่แข็งแกร่งในตลาด ให้พิจารณาเข้า sell เมื่อ RSI เข้าสู่ขอบเขตขายมากเกินไปในแนวโน้มขาลง และเข้า buy เมื่อ RSI เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไปในแนวโน้มขาขึ้น
สรุปแล้วคุณภาพของสัญญาณ RSI จะเพิ่มขึ้นเฉพาะเมื่อคุณทำตามสัญญาณที่อยู่ในทิศทางของแนวโน้มเมื่อตัวบ่งชี้ออกจากระดับวิกฤติเท่านั้น ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเข้า buy ในช่วงขาขึ้นเมื่อ RSI เคลื่อนที่ไปสูงกว่า 30 นอกจากนี้
การกลับตัวของตลาด
ความแตกต่างระหว่าง RSI และราคาอาจเตือนถึงการกลับตัวของตลาด เมื่อราคาสูงสุดใหม่ไม่ได้รับการยืนยันโดยจุดสูงสุดใหม่ของ RSI มันคือไดเวอร์เจนท์ขาลงซึ่งเป็นสัญญาณเชิงลบ แต่เมื่อมีราคาต่ำสุดใหม่ แต่จุดต่ำสุดใหม่ของ RSI สูงกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้า มันคือไดเวอร์เจนท์ขาขึ้น
RSI มักใช้ร่วมกับ oscillator ประเภทอื่นเช่น MACD ในขณะที่ RSI วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาเมื่อเทียบกับราคาสูงสุดและต่ำสุดล่าสุด MACD จะวัดความสัมพันธ์ระหว่างสอง EMA เมื่อรวม RSI และ MACD เข้าด้วยกันจะเป็นคอมโบที่ทรงพลัง
สรุป
เทรดเดอร์ที่มีชำนาญควรรู้ว่า RSI คืออะไรและใช้อย่างไร ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการวิเคราะห์ของคุณไม่ได้อ้างอิง RSI เพียงอย่างเดียว แต่ประกอบด้วยการศึกษาการเคลื่อนไหวของราคาและตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ โปรดจำไว้ว่าสัญญาณของ Relative Strength Index มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดเมื่อมันสอดคล้องกับแนวโน้มระยะยาว
เริ่มการเทรดอัปเดทแล้ว • 2023-05-25
บทความอื่นๆ ในส่วนนี้
- McClellan Oscillator
- กลยุทธ์การซื้อขายด้วยตัวบ่งชี้ Aroon
- ความแข็งแกร่งของสกุลเงิน
- กรอบเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด
- Renko chart
- ประเภทของแผนภูมิ
- จะใช้ Heikin-Ashi อย่างไร?
- นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
- Pivot Points
- ตัวบ่งชี้ ZigZag คืออะไร?
- Moving Average: วิธีง่ายๆในการหาเทรนด์
- Williams’ Percent Range (%R)
- Relative Vigor Index (ตัวบ่งชี้ RVI) คืออะไร?
- โมเมนตัม
- Force index
- ตัวบ่งชี้ Envelopes คืออะไร?
- Bulls Power และ Bears Power
- Average True Range
- จะเทรดจากการตัดสินใจของธนาคารกลางอย่างไร?
- CCI (Commodity Channel Index)
- Standard deviation
- Parabolic SAR
- การซื้อขายด้วย Stochastic Oscillator
- MACD (Moving Average Convergence/Divergence)
- ออสซิลเลเตอร์
- ตัวบ่งชี้ ADX: วิธีใช้สำหรับการวิเคราะห์แนวโน้ม Forex อย่างมีประสิทธิภาพ
- Bollinger bands
- ตัวบ่งชี้เทรนด์
- การแนะนำตัวชี้วัดทางเทคนิค
- แนวรับและแนวต้าน
- แนวโน้ม
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- ธนาคารกลาง: นโยบายและผลกระทบ
- ปัจจัยพื้นฐาน
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการเทรด Forex และการเทรดหุ้น
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน vs การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค