รูปแบบ Zigzag และ Flat ในการซื้อขาย

อ่านบทความบนเว็บไซต์ของ FBS

Corrections มีโครงสร้างที่ซับซ้อนมากกว่าซึ่งแตกต่างจาก motive waves นี่เป็นรูปแบบ correction ที่ง่ายแต่ซับซ้อน:

  • Zigzag
  • Flat
  • Double / Triple Zigzag
  • Double / Triple Threes
  • Triangles

สองรูปแบบแรก (zigzag และ flat) เป็นรูปแบบที่ง่าย ซึ่งเป็นตัวต่อของ corrections ที่ซับซ้อน ในบทความนี้ เราจะพิจารณารูปแบบ zigzag และ flat

รูปแบบ ZigZag ในการซื้อขายคืออะไร?

รูปแบบ zigzag คือการเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นรูปซิกแซก พูดง่ายๆได้ว่ามันคือเส้นที่เชื่อมระหว่างเส้นที่เกือบขนานกันสองเส้นเข้าด้วยกันจนกลายเป็นรูปทรงซิกแซก มันเป็นสิ่งที่เรียกว่า "correction wave" ซึ่งมันสามารถนำไปสู่การเคลื่อนไหวขาขึ้น, ขาลง, หรือไซด์เวย์ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในบทความนี้ เราจะอธิบายถึงทุกรูปแบบ zigzag ที่คุณอาจพบได้ในกิจวัตรการซื้อขายของคุณและวิธีการจำแนกรูปแบบ zigzag ในแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณ 

เช่นเดียวกับรูปแบบ correction ส่วนใหญ่ รูปแบบ zigzag จะถูกแบ่งออกเป็นสามคลื่น ซึ่งทำเครื่องหมายเป็น A-B-C

กฏหลักของรูปแบบ Zig Zag

  • Zigzags จะแบ่งออกเป็นสามคลื่น
  • คลื่น A จะเเป็น impulse หรือ leading diagonal เสมอ
  • คลื่น B สามารถอยู่ในรูปแบบของรูปแบบ correction ใดก็ได้
  • คลื่น C จะเป็น impulse หรือ ending diagonal เสมอ
  • คลื่น B จะสั้นกว่าคลื่น A
  • คลื่น C จะยาวกว่าคลื่น B
  • คลื่น A และ C จะเป็น motive ส่วนคลื่น B จะเป็น corrective

เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาจะเคลื่อนไหวเป็นคลื่นๆ Zigzag เป็นหนึ่งในคลื่นราคาที่สำคัญที่สุด และคุณจะสามารถมองเห็นมันได้หลังเกือบทุกคลื่น impulsive (คลื่น impulse จะมีด้วยกันทั้งหมดห้าคลื่น) การจำกฎเหล่านี้ใหได้อาจดูเป็นเรื่องยากในแวบแรก แต่พอคุณเริ่มคุ้นเคยกับกฎเหล่านี้ การเทรดของคุณจะค่อยๆดีขึ้น

นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่าตัวบ่งชี้ Zig Zag ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณในการระบุคลื่น correction

สูตรคำนวณตัวบ่งชี้ Zig Zag

เราจะเริ่มต้นจากสูตรที่ซับซ้อนสำหรับเทรดเดอร์ขั้นสูง จากนั้นค่อยสลับไปเป็นเวอร์ชันที่ง่ายขึ้น

ZigZag (HL, %change = X, retrace = FALSE, LastExtreme = TRUE)

หาก %change >= X, พล็อตเส้น ZigZag

โดยที่:

HL = การเคลื่อนไหวสูงสุด-ต่ำสุดของราคา

%change= การเปลี่ยนแปลงขั้นต่ำของราคา คิดเป็นเป็นเซ็นต์

ย้อนกลับ = เป็นการย้อนกลับของการเคลื่อนไหวก่อนหน้าหรือค่าสัมบูรณ์ของการเปลี่ยนแปลงจุดยอดสู่ร่อง

LastExtreme = หากราคาสุดขั้วเท่ากันในหลายช่วงเวลา ราคาสุดขั้วจะมาจากการสังเกตครั้งแรกหรือครั้งสุดท้าย

สูตรนี้จะมีประโยชน์มากหากคุณต้องการตั้งค่าตัวบ่งชี้ Zig Zag ของคุณเอง และหากคุณเพียงแค่อยากเข้าใจว่าตัวบ่งชี้ Zig Zag ทำงานอย่างไร นี่คือเคล็ดลับที่ช่วยได้ ​

  1. เลือกจุดเริ่มต้น (จุดสวิงสูงสุดหรือจุดสวิงต่ำสุด)
  2. เลือก % การเคลื่อนไหวของราคา
  3. ระบุจุดสวิงสูงสุดหรือจุดสวิงต่ำสุดถัดไปที่แตกต่างจากจุดเริ่มต้น => % การเคลื่อนไหวของราคา
  4. ลากเส้นแนวโน้มจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดใหม่
  5. ระบุจุดสวิงสูงสุดหรือจุดสวิงต่ำสุดถัดไปที่แตกต่างจากจุดเริ่มต้น => % การเคลื่อนไหวของราคา
  6. ลากเส้นแนวโน้ม
  7. ทำซ้ำกับจุดสวิงสูงสุดหรือจุดสวิงต่ำสุดล่าสุดไปเรื่อยๆ

"=>" หมายถึง "เท่ากับหรือมากกว่า" (เช่น X =>; 5 หมายถึง "X เท่ากับหรือมากกว่า 5)

ในการติดตั้งตัวบ่งชี้ Zig Zag คุณต้องดาวน์โหลดจาก เว็บไซต์ MQL5 และทำตามบทช่วยสอนของเราเกี่ยวกับ วิธีติดตั้งตัวบ่งชี้ที่กำหนดเองใน MetaTrader

ข้อจำกัดของตัวบ่งชี้ Zig Zag

Zig Zag เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่มีความล่าช้าที่จะวิ่งตามหลังตลาดซึ่งวิ่งนำไปก่อนแล้ว ซึ่งหมายความว่าคุณอาจเห็นการเคลื่อนไหวใกล้จะสิ้นสุด แต่ตัวบ่งชี้ Zig Zag เพิ่งจะลากเส้นขึ้นมา ดังนั้น คุณอาจพิจารณาใช้ตัวบ่งชี้นี้กับตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพอื่นๆเพื่อช่วยให้คุณสามารถระบุการเคลื่อนไหวที่กำลังจะเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น ตัวบ่งชี้ที่ว่านั้นก็คือเครื่องมือ Fibonacci retracement ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุเส้นแนวรับและแนวต้านที่เป็นไปได้ อย่าลืมอ่านเกี่ยวกับ ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคใน MT4 เพื่อทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน 

รูปแบบ flat ในการซื้อขายคืออะไร?

รูปแบบ flat เป็นคลื่น correction ที่แบ่งออกเป็นสามคลื่นและทำเครื่องหมายเป็น A-B-C ซึ่งจะมีโครงสร้างที่แตกต่างกัน มันเป็นรูปแบบ corrective ที่วิ่งสวนทางกับแนวโน้ม รูปแบบมีแนวโน้มที่จะเป็นการย้อนกลับของแนวโน้มก่อนหน้าและอาจดูเหมือนรูปแบบ flag ในบางครั้ง มันอาจดูเหมือนช่วงง่ายๆที่ราคาใช้เวลานานๆในการวิ่งอยู่ในกรอบมากกว่าที่จะวิ่งเป็นแนวโน้มจริงๆ

ประเภทต่างๆของรูปแบบ Flat

ดังที่คุณเห็นจากกราฟด้านล่าง มีรูปแบบ flat สามประเภทซึ่งจะขึ้นอยู่กับความยาวของคลื่น B และ C

Regular Flat: คลื่น B ยาวเกือบเท่ากับคลื่น A (อย่างน้อย 90%) ในขณะที่คลื่น C มีแนวโน้มที่จะยาวเท่ากับคลื่น B

Expanded Flat: คลื่น B ยาวกว่าคลื่น A และคลื่น C ยาวกว่าคลื่น B

Running Flat: คลื่น B ยาวกว่าคลื่น A แต่คลื่น C สั้นกว่าคลื่น B

กฏหลักของรูปแบบ Flat

  • Flat ประกอบไปด้วยสามคลื่น
  • คลื่น A อาจเป็นรูปแบบ correction ใดก็ได้ ยกเว้น triangles
  • คลื่น B อาจเป็นรูปแบบ correction ใดก็ได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรูปแบบ zigzag
  • คลื่น C จะเป็น impulse หรือ ending diagonal เสมอ
  • คลื่น B มีความยาวมากกว่า 90% ของคลื่น A
  • คลื่น C มักจะเท่ากับหรือยาวกว่าคลื่น B
  • คลื่น A และ C จะเป็น motive ส่วนคลื่น B จะเป็น corrective

ตัวอย่างจริงของรูปแบบ Zig Zag และ Flat

รูปแบบ Zig Zag ขาลง

กราฟนี้จะแสดง zigzag อย่างง่ายในคลื่น (ii) ที่มี impulses ในคลื่น a และ c นี่คือโครงสร้างทั่วไปของ zigzags นอกจากนี้ ต้องให้ความสนใจกับรูปแบบ leading diagonal ซึ่งก่อตัวขึ้นหลังคลื่น (ii) รูปแบบนี้จะยืนยันจุดสิ้นสุดของ zigzag

 

Zig Zag ขาขึ้นที่มี Leading Diagonal ในคลื่น a

รูปแบบคลื่นเอลเลียตเกิดขึ้นในทุกตลาด รวมถึงสกุลเงินดิจิทัล ที่กราฟ Ethereum ด้านล่าง เราจะพบสาม zigzag คลื่นที่ใหญ่ที่สุดคือคลื่น (ii) ดังที่คุณเห็น คลื่น (a) ของ (ii) เป็นรูปแบบ leading diagonal คลื่น ii (ทางขวา) จะเป็นคลื่น zigzag ที่มีโครงสร้างเหมือนกัน (คลื่น ((A)) จะเป็น leading diagonal) Zigzag อีกอันคือคลื่น b (ตรงกลางของกราฟ) คลื่นของมัน ((A)) นั้นยาวกว่าคลื่น ((C)) มาก บางครั้งความเหลื่อมล้ำดังกล่าวก็เกิดขึ้น ดังนั้นตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าจะเจอกับอะไร

Zig Zag ขาขึ้นที่มี Ending Diagonal ในคลื่น ((c))

มันยังเป็นไปได้ที่จะมี zigzag ที่มี ending diagonal ในคลื่น C คุณสามารถดูกรณีนี้ได้ในกราฟถัดไป คลื่น ((a)) ตรงนี้คือ impulse แต่หลังจากคลื่น ((b)) จะมี ending diagonal ในคลื่น ((c)) ดังที่คุณทราบแล้วว่า ending diagonal สามารถก่อตัวได้ในตำแหน่งของคลื่นสุดท้ายของคลื่น motive (คลื่นที่ห้าของ impulse หรือคลื่น C ของ zigzag)

Zig Zag ขาลงที่มีทั้ง Leading และ Ending Diagonals

กราฟด้านล่างจะแสดงกรณีที่เกิดขึ้นได้ยากเมื่อคลื่น motive ของ zigzag ก่อตัวเหมือน leading และ ending diagonals Contracting diagonals เป็นเรื่องปกติมากขึ้น แต่เราก็อาจเจอกับโครงสร้างที่มี expanding

Zig Zag ขาลง

บางครั้งคลื่น C ของ zigzag อาจเคลื่อนที่เร็วอย่างที่คุณจะเห็นได้ในกราฟถัดไป คลื่น (a) มีโครงสร้างที่เรียบง่ายและชัดเจน แต่คลื่น (c) จะมีเพียงสามแท่งเท่านั้น สิ่งนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อข่าวหรือเหตุการณ์ทางการเมืองมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของราคา

รูปแบบ Regular Flat

มีรูปแบบ flat ในคลื่น b บนกราฟด้านล่าง นี่คือรูปแบบ regular flat เนื่องจากคลื่น ((B)) มีความยาวประมาณ 0.9 ของความยาวของคลื่น ((A)) อย่างไรก็ตามคลื่น ((C)) นั้นก็เร็วน่าดู มีอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ มี 2 zigzags ในคลื่น ((A)) และ ((B)) รูปแบบแรกมีคลื่น (A) เป็น expanding leading diagonal ซึ่งพบได้ยากมาก Zigzag ถัดไปจะมี contracting leading diagonal ในคลื่น (A) ของ ((B)) ซึ่งพบได้บ่อยกว่า

Regular Flat ที่มี Ending Diagonal ในคลื่น C

คลื่น C ของรูปแบบ flat อาจเป็น ending diagonal ตามที่แสดงในกราฟถัดไป คลื่น (b) สั้นกว่าคลื่น (a) ดังนั้นมันจึงเป็น regular flat อย่างไรก็ตาม ending diagonal ในคลื่น (c) จะสิ้นสุดใต้ระดับสูงสุดของคลื่น (a) นั่นคือวิธีที่ running flats จบ ก็อย่างที่คุณเห็น ในตลาดจริงจะมีการผันแปรในรูปแบบ flat แค่ละประเภท

รูปแบบ Expanded Flat

กราฟสุดท้ายจะแสดงตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของรูปแบบ expanded flat คลื่น ((B)) ยาวกว่าคลื่น ((A)) และจุดสิ้นสุดของคลื่น ((C)) จะทะลุระดับต่ำสุดของคลื่น ((B)) Bullish impulse ที่ตามมาในคลื่น ((1)) จะการยืนยันว่ารูปแบบ flat จบแล้ว

สรุป

การระบุรูปแบบ flat หรือ zigzag อาจเป็นเรื่องยากสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ เนื่องจากพวกเขาต้องรู้การผันแปรต่างๆของรูปแบบดังกล่าว แม้ว่ารูปแบบเหล่านี้อาจดูซับซ้อน แต่การทำความเข้าใจรูปแบบเหล่านี้จะช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจโครงสร้างตลาดระดับโลกได้ดีขึ้น ดังนั้นรูปแบบเหล่านี้จึงอาจมีประโยชน์ในเทคนิคการซื้อขายต่างๆ นอกจากนี้ ลองตรวจสอบบทช่วยสอนของเราเกี่ยวกับ ตัวบ่งชี้ ROC และ ตัวบ่งชี้ Aroon เพื่อจะได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขาย 

เริ่มการเทรด

อัปเดทแล้ว • 2023-06-30

บทความอื่นๆ ในส่วนนี้

FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา