-
จะเริ่มเทรดอย่างไร?
หากคุณอายุ 18 ปีขึ้นไปคุณสามารถเข้าร่วม FBS ได้และเริ่มต้นการเดินทาง FX ของคุณ ในการซื้อขายคุณจะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และมีความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน เริ่มด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย สื่อการเรียนรู้ฟรี และ สร้างบัญชี FBS คุณอาจต้องการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยเงินเสมือนจริงผ่านบัญชีทดลอง เมื่อคุณพร้อมเข้าสู่ตลาดจริงแล้ว ก็เริ่มทำการซื้อขายเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ
-
จะเปิดบัญชี FBS ได้อย่างไร?
คลิกที่ปุ่ม 'เปิดบัญชี' บนเว็บไซต์ของเราแล้วไปที่ Trader Area ก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อขายได้ โปรไฟล์ของคุณจะต้องได้รับการยืนยันเสียก่อน ยืนยันอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ของคุณ จากนั้นให้ทำการยืนยันตัวตนของคุณ ขั้นตอนนี้จะช่วยรับประกันความปลอดภัยของเงินและตัวตนของคุณ เมื่อคุณผ่านการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ให้ไปที่แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการ แล้วเริ่มซื้อขายได้เลย
-
จะถอนเงินที่ทำได้กับ FBS ได้อย่างไร?
กระบวนการนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ไปที่หน้า การถอนเงิน บนเว็บไซต์หรือส่วนการเงินของ FBS Trader Area และเข้าไปที่การถอนเงิน คุณจะได้รับเงินที่ทำได้รับผ่านระบบการชำระเงินเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงิน ในกรณีที่คุณฝากเงินเข้าบัญชีผ่านหลายวิธี ให้ถอนกำไรของคุณผ่านวิธีเดียวกันในอัตราส่วนตามยอดเงินที่ฝากเข้ามา
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน vs การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค
มีบางหัวข้อที่จุดประกายการโต้เถียงที่ไม่มีวันจบสิ้น และสร้างความขัดแย้งกันในหมู่ผู้คน จะซื้ออะไรดี – iPhone หรือ Android? ทีมฟุตบอลทีมใดที่ควรสนับสนุน – แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดหรือลิเวอร์พูล? คุณอาจสังเกตเห็นว่ามันไม่มีคำตอบที่แน่ชัดสำหรับคำถามเหล่านี้ ตามคำพูดเดิมที่เขาว่ากัน: รสนิยมแตกต่างกัน มนุษย์ทุกคนต่างก็มีความชอบเป็นของตัวเอง: เนื้อของคนหนึ่งเป็นยาพิษของอีกคนหนึ่ง (แต่ละคนมีความชอบแตกต่างกัน สิ่งที่คนหนึ่งชอบ อาจเป็นสิ่งที่คนอื่นเกลียดก็ได้) เอาละ คำพูดนี้มีอีกหลายรูปแบบที่จะนำมาพูดได้ เรามาเข้าเรื่องที่เรากำลังจะศึกษาต่อกันดีกว่า สิ่งที่เราต้องการจะพูดถึงนั่นก็คือ เทรดเดอร์นั้นจะต้องโต้เถียงกับตัวเองตลอดเวลา เพื่อที่จะหาคำตอบว่า วิธีการใดที่สามารถทำให้ได้กำไรมากที่สุดในตลาดการเงิน การวิเคราะห์ใดดีกว่ากัน: ปัจจัยพื้นฐานหรือปัจจัยทางเทคนิค?
การวิเคราะห์ทางการซื้อขายคืออะไร?
ก่อนอื่น เรามาหาคำตอบกันก่อนว่า การวิเคราะห์ทางการซื้อขายหมายถึงอะไร การวิเคราะห์ทางการซื้อขาย เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่เทรดเดอร์ใช้ในการตัดสินใจลงทุน เขาว่ากันว่า การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจะบอกคุณว่าจะซื้อขายอะไร และการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะบอกคุณว่าควรซื้อขายเมื่อใด ขั้นตอนของการซื้อขายมักประกอบด้วยสามส่วน: การเตรียมการสำหรับการซื้อขาย การวางและการตรวจสอบการซื้อขาย และการประเมินการซื้อขาย เห็นได้ชัดว่าเทรดเดอร์จะทำการวิเคราะห์มากที่สุดในส่วนแรก ดังนั้นความสำเร็จของเทรดเดอร์จึงขึ้นอยู่กับ คุณภาพของการวิเคราะห์ แม้ว่าจะเป็นความรู้ทั่วไปที่ว่าเทรดเดอร์ควรพึ่งทั้ง การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่เทรดเดอร์บางรายก็ยังคงชอบอย่างใดอย่างหนึ่งมากกว่า ลองมาดูทั้งสองอย่างนี้แล้วคุณจะมั่นใจว่า มันมีความสำคัญเท่ากันทั้งคู่!
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
เทรดเดอร์บางคนก็คิดว่าตัวเองเป็น “เทรดเดอร์ทางเทคนิค” พวกเขาอาศัยรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา และเครื่องมือทางเทคนิคในการวิเคราะห์ และไม่ได้ใส่ใจกับกระแสข่าวเศรษฐกิจมากนัก สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาก็คือ ราคาของสกุลเงิน / สินทรัพย์ทางการเงิน สิ่งอื่นๆ นั้นเป็นเพียงแค่สิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขา
การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรด Forex และการเทรดหุ้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรด Forex และการเทรดหุ้น โดยทั่วไปแล้วเทรดเดอร์จะเปิดกราฟ และติดตามการเคลื่อนไหวของราคา เพื่อคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดต่อไป เขา/เธอมักใช้เครื่องมือทางเทคนิคที่แตกต่างกัน เพื่อหาแนวโน้มและการกลับตัวของแนวโน้ม และยังพยายามระบุรูปแบบบางอย่างของกราฟ เครื่องมือเหล่านี้ใช้สูตรทางคณิตศาสตร์ แต่เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องเข้าใจสูตรเหล่านั้น เพราะว่ามันได้นำมาแสดงในรูปแบบของกราฟ เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย เมื่ออินดิเคเตอร์ทางเทคนิคบางตัวกลายเป็นที่ชื่นชอบสำหรับเทรดเดอร์ เขา/เธอสามารถสรรค์สร้างกลยุทธ์การลงทุนของตัวเองได้! หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การวิเคราะห์ทางเทคนิคคุณสามารถอ่าน หนังสือการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคของเราได้
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ทีมเทรดเดอร์อีกทีมไม่เห็นด้วยกับ “นักเทคนิค” เหล่านี้ และสนับสนุนวิธีการวิเคราะห์ตลาดด้วยปัจจัยพื้นฐาน พวกเขาจะพินิจพิเคราะห์และกลั่นกรองข่าวเศรษฐกิจมหภาค เขาจะให้ความสนใจกับข่าว เพื่อที่จะได้คิดวางแผนและแก้ไขแนวทางในอนาคตของตลาด พวกเขาคือคนที่ยึดมั่นในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
กลุ่มแรกนั้นโดยทั่วโปแล้วก็คือ เทรดเดอร์ที่เก็งกำไรตามแรงเหวี่ยงของราคา และ เทรดเดอร์ที่ใช้เวลาเทรดในระยะเวลาสั้นๆ หรือ เปิดและปิดตำแหน่งภายโดยใช้เวลา ภายในหนึ่งวัน เป็นชั่วโมง เป็นนาที หรือแม้กระทั่งวินาที ส่วนอีกกลุ่มนั้นเป็นนักเทรดที่เน้นไปในเชิงกลยุทธ์มากกว่า นั่นก็คือพวกเขาชอบที่จะถือตำแหน่งไว้หลายวัน หลายสัปดาห์ หรือกระทั่งหลายเดือน พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่งและมีความอดทนสูง
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการเทรด Forex และการเทรดหุ้น
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานสำหรับเทรด Forex นั้นต่างจากการเทรดหุ้น เมื่อคนคนหนึ่งซื้อขายคู่สกุลเงิน เขา/เธอจะคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของ ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจและเหตุการณ์ข่าว ที่รวบรวมไว้ในปฏิทินเศรษฐกิจ เมื่อคนคนหนึ่งซื้อขายหุ้น เขา/เธอจะวางเดิมพันของตนตามรายงานผลประกอบการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทมีผลการดำเนินงานอย่างไรในไตรมาสก่อนหน้า หากต้องการทราบวิธีการเทรดตามข่าว และวิธีการเทรดตามรายงานผลประกอบการ ไปอ่านบทความ “การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานสำหรับการเทรด Forex และการเทรดหุ้น” ของเราได้เลย
การเปรียบเทียบระหว่าง การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน vs การวิเคราะห์ทางเทคนิค
การวิเคราะห์ทางเทคนิค | การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน | |
คำอธิบาย | ใช้การเคลื่อนไหวของราคาเพื่อทำนายทิศทางของราคาในอนาคต | อธิบายว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจใดที่เป็นสาเหตุของ การเคลื่อนไหวของราคาบนแผนภูมิ และปัจจัยอะไรที่เป็นตัวบ่งบอกการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต |
แหล่งที่มาของข้อมูล | กราฟราคา | ข่าวเศรษฐกิจต่างๆ ข่าวเหตุการณ์ต่างๆ |
สัญญาณการเข้า | การเกิดขึ้นของราคาและสัญญาณตัวบ่งชี้ทางเทคนิค | ซื้อ (ขาย) เมื่อสินทรัพย์มีมูลค่าต่ำกว่า (สูงกว่า) |
ประเภทของเทรดเดอร์ | เทรดเดอร์ที่เทรดระยะสั้น | มักจะเป็นเทรดเดอร์ที่เทรดระยะยาว |
ระยะเวลาในการลงทุน | ตำแหน่งจะถูกถือไว้เป็นวัน เป็นชั่วโมง เป็นนาที หรือเป็นวินาที | ตำแหน่งจะถูกถือไว้เป็นวัน เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน |
แนวคิดหลัก | ทฤษฎี Dow, แนวรับและแนวต้าน, รูปแบบราคา | การเปรียบเทียบตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เป็นค่าจริง กับตัวเลขที่คาดการณ์หรือตัวเลขในอดีต |
ทั้งการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค ต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นจึงควรประยุกต์ใช้ 2 วิธีนี้เข้าด้วยกัน ด้วยวิธีนี้คุณจะได้ทราบถึงมุมมองที่ครบถ้วนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาด ขณะที่ซื้อขายในระหว่างวันก็ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคก่อน เพื่อพิจารณาสถานะของตลาด, ระดับของจุดเข้าและออกของการเทรด จากนั้นใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพื่อปรับกลยุทธ์ของคุณ โดยคำนึงถึงเหตุการณ์ในปฏิทินเศรษฐกิจ ในการเทรดระยะยาว อันดับแรกให้กำหนดแนวโน้มด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน แล้วมองหาจุดเข้าและออกโดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค
คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพิ่มมากขึ้นจากคอร์สนี้
อัปเดทแล้ว • 2022-01-28
บทความอื่นๆ ในส่วนนี้
- McClellan Oscillator
- กลยุทธ์การซื้อขายด้วยตัวบ่งชี้ Aroon
- ความแข็งแกร่งของสกุลเงิน
- กรอบเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด
- Renko chart
- ประเภทของแผนภูมิ
- จะใช้ Heikin-Ashi อย่างไร?
- นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
- Pivot Points
- ตัวบ่งชี้ ZigZag คืออะไร?
- Moving Average: วิธีง่ายๆในการหาเทรนด์
- Williams’ Percent Range (%R)
- Relative Vigor Index (ตัวบ่งชี้ RVI) คืออะไร?
- โมเมนตัม
- Force index
- ตัวบ่งชี้ Envelopes คืออะไร?
- Bulls Power และ Bears Power
- Average True Range
- จะเทรดจากการตัดสินใจของธนาคารกลางอย่างไร?
- CCI (Commodity Channel Index)
- Standard deviation
- Parabolic SAR
- การซื้อขายด้วย Stochastic Oscillator
- Relative Strength Index (RSI)
- MACD (Moving Average Convergence/Divergence)
- ออสซิลเลเตอร์
- ตัวบ่งชี้ ADX: วิธีใช้สำหรับการวิเคราะห์แนวโน้ม Forex อย่างมีประสิทธิภาพ
- Bollinger bands
- ตัวบ่งชี้เทรนด์
- การแนะนำตัวชี้วัดทางเทคนิค
- แนวรับและแนวต้าน
- แนวโน้ม
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- ธนาคารกลาง: นโยบายและผลกระทบ
- ปัจจัยพื้นฐาน
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการเทรด Forex และการเทรดหุ้น