-
จะเริ่มเทรดอย่างไร?
หากคุณอายุ 18 ปีขึ้นไปคุณสามารถเข้าร่วม FBS ได้และเริ่มต้นการเดินทาง FX ของคุณ ในการซื้อขายคุณจะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และมีความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน เริ่มด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย สื่อการเรียนรู้ฟรี และ สร้างบัญชี FBS คุณอาจต้องการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยเงินเสมือนจริงผ่านบัญชีทดลอง เมื่อคุณพร้อมเข้าสู่ตลาดจริงแล้ว ก็เริ่มทำการซื้อขายเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ
-
จะเปิดบัญชี FBS ได้อย่างไร?
คลิกที่ปุ่ม 'เปิดบัญชี' บนเว็บไซต์ของเราแล้วไปที่ Trader Area ก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อขายได้ โปรไฟล์ของคุณจะต้องได้รับการยืนยันเสียก่อน ยืนยันอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ของคุณ จากนั้นให้ทำการยืนยันตัวตนของคุณ ขั้นตอนนี้จะช่วยรับประกันความปลอดภัยของเงินและตัวตนของคุณ เมื่อคุณผ่านการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ให้ไปที่แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการ แล้วเริ่มซื้อขายได้เลย
-
จะถอนเงินที่ทำได้กับ FBS ได้อย่างไร?
กระบวนการนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ไปที่หน้า การถอนเงิน บนเว็บไซต์หรือส่วนการเงินของ FBS Trader Area และเข้าไปที่การถอนเงิน คุณจะได้รับเงินที่ทำได้รับผ่านระบบการชำระเงินเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงิน ในกรณีที่คุณฝากเงินเข้าบัญชีผ่านหลายวิธี ให้ถอนกำไรของคุณผ่านวิธีเดียวกันในอัตราส่วนตามยอดเงินที่ฝากเข้ามา
Leverage และ Margin: คุณจะใช้มันในการซื้อขาย Forex ได้อย่างไร?
มีสองสิ่งที่เทรดเดอร์จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับกลไกการทำงานของ Forex ก่อนที่จะเริ่มทำการซื้อขาย ซึ่งก็คือเลเวอเรจและมาร์จิ้น
เลเวอเรจใน Forex คืออะไร?
เลเวอเรจ (Leverage) คือเงินที่ยืมมา มันเป็นจำนวนเงินที่โบรกเกอร์ของคุณให้คุณยืมเพื่อที่คุณจะได้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในตอนที่ซื้อขาย Forex เนื่องจากตลาด Forex นั้นมีขนาดใหญ่มาก ล็อตจึงอาจมีขนาดใหญ่มหาศาล เลเวอเรจทำให้คุณสามารถซื้อขายล็อตที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและเปิดตำแหน่งได้มากขึ้นโดยไม่ต้องลงเงินทุนทั้งหมดของคุณในการซื้อขายครั้งใหญ่เพียงครั้งเดียว
ตัวอย่างของเลเวอเรจ
นี่คือตัวอย่าง สมมติว่าคุณตัดสินใจใช้เลเวอเรจขนาด 1:100 ในการซื้อขาย ซึ่งหมายความว่าจากเงิน 100% คุณใช้เงินลงทุนเพียง 1% ในขณะที่โบรกเกอร์ของคุณให้ยืมอีก 99% ที่เหลือ
คุณคงทราบดีอยู่แล้วว่าเมื่อทำการซื้อขาย Forex คุณกำลังซื้อขายเป็นล็อต หนึ่งล็อตจะเท่ากับเงิน 100,000 หน่วยในสกุลเงินหลักที่คุณซื้อขาย ปริมาณการซื้อขายขั้นต่ำมักจะเท่ากับ 0.01 ล็อตหรือ 1,000 หน่วยในสกุลเงินหลัก
หากคุณกำลังจะเข้าซื้อ EURUSD จำนวนขั้นต่ำที่ซื้อได้คือ $1,000 สำหรับเทรดเดอร์แล้วมันอาจเป็นเงินจำนวนมาก และพวกเขาคงเปิดได้เพียงแค่ตำแหน่งเดียวด้วยเงินก้อนนี้ อย่างไรก็ตาม หากเทรดเดอร์ใช้เลเวอเรจ 1:100 พวกเขาจำเป็นต้องใช้เงิน 1% หรือ $10 (แล้วโบรกเกอร์จะให้ยืมเงินที่เหลืออีก $990) อย่างไรก็ตาม ผลกำไรหรือขาดทุนจะถูกคำนวณจากยอดรวมของเลเวอเรจทั้งหมด
การเปลี่ยนแปลงมูลค่าของสกุลเงินจะถูกวัดเป็นจุด แต่ละคู่สกุลเงินอาจมีมูลค่าจุดที่แตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับสกุลเงิน ความผันผวน และสภาพคล่อง ซึ่งสำหรับ EURUSD 1 จุด จะเท่ากับ 0.00001
สมมติว่าเหตุการณ์สำคัญทางการเงินได้ส่งผลกระทบต่อราคา USD และทำให้ร่วงลง 500 จุด หากเทรดเดอร์เข้าซื้อ EURUSD 0.01 ล็อต ($1,000) กำไรของพวกเขาจะเท่ากับขนาดตำแหน่ง (0.01) คูณด้วยจำนวนจุด (500) กำไรจากการซื้อขายจะอยู่ที่ $5 หรือ 0.5% (0.01 * 500 = 5)
หากเทรดเดอร์ไม่ได้ใช้เลเวอเรจ พวกเขาต้องใช้เงิน $1,000 ในการซื้อขายและได้กำไร $5 หรือ 0.5% หากเทรดเดอร์ใช้เลเวอเรจ 1:100 และทำการซื้อขายเดียวกันนี้ พวกเขาจะลงทุนเพียง $10 แต่กำไรจะยังคงอยู่ที่ $5 ซึ่งเป็นกำไรมากถึง 50% ในเวลาเดียวกัน การใช้เลเวอเรจทั้งหมดของคุณ (1:100) และเปิดการซื้อขาย 1 ล็อตเต็ม ๆ จะทำให้ได้กำไรมูลค่า $500
โบรกเกอร์ Forex มีขนาดเลเวอเรจที่หลากหลายและมีกฎการใช้เลเวอเรจที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ข้อเสนอของ FBS ที่เสนอเลเวอเรจให้ 1:50, 1:100, 1:200, 1:500, 1:1000, 1:2000 และ 1:3000 ที่ FBS เลเวอเรจอาจแตกต่างกันไปสำหรับบัญชีต่าง ๆ และสามารถเข้าถึงได้ผ่าน Personal Area และเปลี่ยนแปลงได้ในการตั้งค่าบัญชี คุณต้องเลือกเลเวอเรจที่เหมาะสมกับทักษะของคุณมากที่สุด
ความเสี่ยงของเลเวอเรจ
เลเวอเรจจะเพิ่มความผันผวนให้กับพอร์ตโฟลิโอของคุณ พูดง่าย ๆ ก็คือ ด้วยเลเวอเรจ คุณสามารถทำเงินได้มากขึ้นด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน อย่างไรก็ดี คุณจะสูญเสียเงินได้มากขึ้นเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น ด้วยเลเวอเรจ 1:100 คุณอาจเปิดการซื้อขาย $10,000 ด้วยเงินเพียง $100 ในบัญชีของคุณ หากการซื้อขายขยับ 1% ในทิศทางที่คุณต้องการ คุณจะได้รับกำไร $100 ในทางกลับกัน การขยับ 1% ในทิศทางตรงกันข้ามจะส่งผลให้คุณสูญเสีย $100
มาร์จิ้นใน Forex คืออะไร?
ตอนนี้คุณทราบแล้วว่าเลเวอเรจคืออะไร มาร์จิ้นก็เป็นเรื่องง่าย ๆ โดยในการเทรด Forex มาร์จิ้น (Margin) หรือ หลักประกัน คือจำนวนเงินที่ต้องใช้ในการเปิดคำสั่งซื้อขาย ในตัวอย่างด้านล่าง $111.50 คือจำนวนมาร์จิ้นหรือหลักประกันที่เทรดเดอร์ต้องใช้ในกรณีที่ใช้เลเวอเรจ 1:100
เงินทุนที่คุณมีอยู่ในบัญชีซื้อขายคือเงินที่คุณใช้เป็นหลักประกันเมื่อทำการซื้อขาย Forex หากคุณคาดหวังว่าอยากจะได้กำไรติดไม้ติดมือบ้าง คุณสามารถใช้อัตราส่วนเลเวอเรจขนาดใหญ่ขึ้นและมาร์จิ้นที่น้อยลงเพื่อควบคุมขนาดการซื้อขายที่ใหญ่ขึ้น
มาร์จิ้นที่กำหนด
จำนวนมาร์จิ้นที่กำหนด (Margin requirement) ของ Forex ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนเลเวอเรจที่เทรดเดอร์เลือก รวมถึงขนาดล็อตและตราสาร ตัวอย่างดังต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของเลเวอเรจและมาร์จิ้นของ FBS ที่จำเป็นต้องใช้:
เลเวอเรจ |
มาร์จิ้นที่กำหนด |
มาร์จิ้นที่กำหนดสำหรับ EURUSD หนึ่งล็อต (หรือ $100,000) |
1:50 |
2% |
$2,000.00 |
1:100 |
1% |
$1,000.00 |
1:200 |
0.5% |
$500.00 |
1:500 |
0.2% |
$200.00 |
1:1000 |
0.01% |
$10.00 |
1:2000 |
0.05% |
$50.0 |
1:3000 |
0.033333333% หรือ 1/30% |
$33.33333 หรือ $3 และ 1/30 |
แพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณแสดงตัวเลขฟรีมาร์จิ้น (Free margin) (หรือมาร์จิ้นที่ใช้งานได้) และระดับมาร์จิ้น (Margin level) โดยฟรีมาร์จิ้น คือเงินในบัญชีของคุณที่สามารถใช้เพื่อรักษาตำแหน่งที่เปิดอยู่หรือใช้เพื่อเปิดตำแหน่งใหม่ ส่วนระดับมาร์จิ้น คือเปอร์เซ็นต์ที่แสดงให้เทรดเดอร์เห็นว่าเงินทุนที่ยังไม่ได้ใช้งานของพวกเขามีอยู่เท่าไรในขณะนี้
การเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call)
หากหนึ่งในคำสั่งซื้อขายที่เปิดอยู่ของคุณขาดทุน ระดับมาร์จิ้นของคุณจะลดลง และเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเงินทั้งหมด โบรกเกอร์ใช้สิ่งที่เรียกว่า Margin Call หรือ การเรียกหลักประกันเพิ่ม โดย Margin call คือระดับของมาร์จิ้นที่เฉพาะเจาะจง (ที่ FBS คือ 40%) ซึ่งเมื่อเทรดเดอร์ไปถึงระดับนี้แล้ว มันจะเริ่มเตือนเพื่อให้แน่ใจว่าเทรดเดอร์ปิดคำสั่งซื้อขายที่ขาดทุนหรือฝากเงินเข้าบัญชีเพิ่ม อ่านเกี่ยวกับคำจำกัดความของ Margin Call ได้ในอภิธานศัพท์ FBS
ระดับ Stop out
เมื่อระดับมาร์จิ้นลดลงถึงระดับต่ำสุดที่อนุญาตหรือระดับ Stop out (ที่ FBS คือ 20%) คำสั่งซื้อขายบางรายการ โดยเริ่มจากคำสั่งซื้อขายที่ขาดทุนมากที่สุดจะถูกปิดโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันยอดเงินคงเหลือติดลบ (negative balance)
อิควิตี้ ระดับมาร์จิ้น และฟรีมาร์จิ้นเปลี่ยนแปลงตามเวลาจริง ดังนั้นคุณจึงควรให้ความสนใจกับตัวเลขเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้อัตราส่วนเลเวอเรจที่ใหญ่ขึ้น เลเวอเรจอาจทำให้ได้กำไรก้อนโตด้วยการลงทุนเพียงเล็กน้อย แต่ก็อาจทำให้ขาดทุนจำนวนมากได้เช่นกัน ดังนั้นโปรดใช้ความระมัดระวังในการเลือกใช้เลเวอเรจ แน่นอนว่าถ้าได้กำไร ผลกำไรของคุณก็จะทวีคูณ แต่ถ้าขาดทุน ผลขาดทุนก็จะทวีคูณเช่นกัน
ความแตกต่างระหว่างมาร์จิ้นและเลเวอเรจ
เลเวอเรจใน Forex เป็นเงินทุนที่ยืมมาซึ่งช่วยให้คุณเพิ่มปริมาณการซื้อขายและผลตอบแทนที่เป็นไปได้ โดยเป็นจำนวนเงินที่โบรกเกอร์ให้เทรดเดอร์ยืม เพื่อทำให้เทรดเดอร์มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อซื้อขายใน Forex
ในทางกลับกัน มาร์จิ้นคือจำนวนเงินที่เทรดเดอร์ต้องการเพื่อใช้เปิดตำแหน่ง จำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของเทรดเดอร์คือเงินที่ใช้เป็นหลักประกัน ซึ่งจำเป็นต้องเพียงพอเพื่อรองรับการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการซื้อขาย โดยมาร์จิ้นที่กำหนดขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของเลเวอเรจ ขนาดล็อต และตราสาร และสามารถดูได้ในบัญชีของเทรดเดอร์
ทั้งเลเวอเรจและมาร์จิ้นนั้นต่างก็มีความสำคัญ เลเวอเรจช่วยให้คุณมีอำนาจในการซื้อขายมากขึ้น และมาร์จิ้นจะปกป้องยอดเงินคงเหลือของคุณไม่ให้ต่ำกว่าศูนย์ โปรดนำความรู้ที่ได้รับนี้ไปใช้เพื่อการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จและขอให้โชคดี!
อัปเดทแล้ว • 2023-05-03
บทความอื่นๆ ในส่วนนี้
- จะเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์ได้อย่างไร?
- วิธีการทำเงินจากตลาดฟอเร็กซ์
- ปฏิทินเศรษฐกิจ: วิธีการอ่านและใช้งาน
- จะเปิดและปิดคำสั่งซื้อขายใน MetaTrader ได้อย่างไร?
- เริ่มต้นการซื้อขายฟอเร็กซ์
- บัญชีทดลอง Forex
- จะกำหนดขนาดของออเดอร์ได้อย่างไร?
- Rollover และ Swap คืออะไร และจะใช้มันในการเทรดได้อย่างไร?
- ประเภทของคำสั่งซื้อขาย: Market, Limit, Stop, Trailing Stop, Stop Limit
- ตลาด Forex เปิดเมื่อไหร่?
- ค่าสเปรด Bid-Ask
- การคำนวณผลกำไร
- ล็อต, จุด และเลเวอเรจ คืออะไร
- จะทำการซื้อขายอย่างไร?
- คู่สกุลเงินในการซื้อขาย Forex
- ซอฟต์แวร์ใดที่คุณต้องการสำหรับการซื้อขาย?
- ข้อดีและความเสี่ยงของการซื้อขาย Forex
- การเทรด Forex คืออะไร?