-
จะเริ่มเทรดอย่างไร?
หากคุณอายุ 18 ปีขึ้นไปคุณสามารถเข้าร่วม FBS ได้และเริ่มต้นการเดินทาง FX ของคุณ ในการซื้อขายคุณจะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และมีความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน เริ่มด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย สื่อการเรียนรู้ฟรี และ สร้างบัญชี FBS คุณอาจต้องการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยเงินเสมือนจริงผ่านบัญชีทดลอง เมื่อคุณพร้อมเข้าสู่ตลาดจริงแล้ว ก็เริ่มทำการซื้อขายเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ
-
จะเปิดบัญชี FBS ได้อย่างไร?
คลิกที่ปุ่ม 'เปิดบัญชี' บนเว็บไซต์ของเราแล้วไปที่ Trader Area ก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อขายได้ โปรไฟล์ของคุณจะต้องได้รับการยืนยันเสียก่อน ยืนยันอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ของคุณ จากนั้นให้ทำการยืนยันตัวตนของคุณ ขั้นตอนนี้จะช่วยรับประกันความปลอดภัยของเงินและตัวตนของคุณ เมื่อคุณผ่านการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ให้ไปที่แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการ แล้วเริ่มซื้อขายได้เลย
-
จะถอนเงินที่ทำได้กับ FBS ได้อย่างไร?
กระบวนการนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ไปที่หน้า การถอนเงิน บนเว็บไซต์หรือส่วนการเงินของ FBS Trader Area และเข้าไปที่การถอนเงิน คุณจะได้รับเงินที่ทำได้รับผ่านระบบการชำระเงินเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงิน ในกรณีที่คุณฝากเงินเข้าบัญชีผ่านหลายวิธี ให้ถอนกำไรของคุณผ่านวิธีเดียวกันในอัตราส่วนตามยอดเงินที่ฝากเข้ามา
Pivot Points
คุณเปิดการเทรดไปแล้วแต่ไม่แน่ใจว่าจะปิดการเทรดที่ระดับไหนดี มันฟังดูคุ้นๆ ไหม?
โดยปกติแล้ว การเลือกระดับเป้าหมายจะเกี่ยวข้องกับตัวปัจเจกบุคคลเป็นอย่างมาก นั่นคือเหตุผลที่เทรดเดอร์จำนวนมากถึงใช้ตัวบ่งชี้เพื่อกำหนดระดับเป้าหมายที่เป็นสากลกันมากขึ้น หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการทำเช่นนั้นคือการใช้ Pivot Points บทความนี้จะแนะนำให้คุณรู้จักเกี่ยวกับ Pivot Points และการนำไปใช้ในการเทรด ในตอนท้ายของบทความ คุณสามารถดาวน์โหลด ตัวบ่งชี้ Pivot Points ที่ใช้งานได้จริง สำหรับ MT5 ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับเทรดเดอร์ของ FBS โดยเฉพาะได้
Pivot Points คืออะไร?
Pivot Points เป็นระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญที่สร้างขึ้นด้วยการคำนวณเฉพาะ สิ่งนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยเทรดเดอร์มืออาชีพใน Wall Street (สมาชิกตลาดหลักทรัพย์ที่ทำธุรกรรมโดยตรงจากสำนักงานใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์ในบัญชีของตนเองเท่านั้น) เพื่อกำหนดระดับที่สำคัญ เทรดเดอร์เหล่านี้เคยชินกับการปรับตัวอย่างรวดเร็วกับการเปลี่ยนแปลงระยะสั้นในตลาด
ในช่วงเริ่มต้นของเซสชันการเทรด พวกเขาดูที่ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิดของวันก่อนหน้าเพื่อคำนวณ Pivot Point สำหรับวันที่ทำการเทรดปัจจุบัน หลังจากนั้น พวกเขาก็คำนวณระดับแนวรับสองระดับและแนวต้านสองระดับ ระดับนี้ใช้สำหรับการเทรดระหว่างวัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อระบบ 5 จุด
จะคำนวณ Pivot Points ได้อย่างไร?
เราจะมาดูสูตรคลาสสิกสำหรับการคำนวณ Pivot Points กัน Pivot Point (PP) หลัก คือ Pivot กลาง โดย Pivot กลาง คือแนวรับ/แนวต้านหลัก มันหมายความว่ามีการคาดว่าราคาจะลอยตัวในระดับนี้เกือบตลอดเวลา นี่คือฐานสำหรับระดับ Pivot อื่นๆ ทั้งหมด
Pivot Point มีวิธีการคำนวณดังนี้:
Pivot Point (PP) = (ราคาสูงสุด + ราคาต่ำสุด + ราคาปิด)/3
กฎที่อยู่เบื้องหลังการคำนวณนี้ก็เข้าใจได้ง่ายมาก: เรานำราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิดของเมื่อวานมาหารด้วยสาม
แนวรับ 1 (S1) = (PP x 2) – ราคาสูงสุดก่อนหน้า
แนวรับ 2 (S2) = PP – ( ราคาสูงสุดก่อนหน้า – ราคาต่ำสุดก่อนหน้า)
แนวต้าน 1 (R1) = (PP x2) – ราคาต่ำสุดก่อนหน้า
แนวต้าน 2 (R2) = PP + (ราคาสูงสุดก่อนหน้า – ราคาต่ำสุดก่อนหน้า)
ระบบ 5 จุดแบบคลาสสิกเป็นเพียงวิธีหนึ่งในการคำนวณ Pivot Points นอกจากนี้ก็ยังมี Woodie, Camarilla และ Fibonacci Pivot Points อีกด้วย โดยวิธีเหล่านี้ใช้สูตรที่แตกต่างออกไปในการคำนวณระดับ
การเลือกช่วงเวลา
ระดับของ Pivot Points จะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาที่คุณเลือก ประกอบด้วย Pivot Points รายวัน, รายสัปดาห์, รายเดือน และรายปี
โดยปกติแล้ว เราใช้ Pivot รายวันสำหรับการเทรดใน M30 และกรอบเวลาระหว่างวันที่สั้นกว่า โดยใช้ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิดของวันก่อนหน้า ตัวเลขเหล่านี้จะอัปเดตทุกวัน
เราใช้ Pivot Points รายสัปดาห์ในแผนภูมิ H1, H4 และ D1 ในการคำนวณระดับเหล่านี้ ให้ใช้ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า โปรดทราบว่าราคาเหล่านี้จะไม่เปลี่ยนแปลงจนกว่าสัปดาห์ถัดไปจะเริ่มขึ้น
ในแผนภูมิรายสัปดาห์ เราขอแนะนำให้คุณใช้ Pivot รายเดือน เพราะ Pivot นี้จะรวบรวมข้อมูลจากเดือนก่อนหน้า
หากคุณวิเคราะห์แผนภูมิรายเดือน คุณสามารถใช้ Pivot รายปีได้ โดยใช้ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด และราคาปิดของปีก่อนหน้า
การใช้ Pivot Point
มีกลยุทธ์มากมายสำหรับเทรดเดอร์ในการใช้ Pivot Points มาดูกลยุทธ์ที่ใช้บ่อยที่สุดกัน
แนวรับและแนวต้าน
Pivot Points สามารถใช้เป็นแนวรับและแนวต้านแบบดั้งเดิมได้ เทรดเดอร์ Forex ที่เทรดตามกรอบ วางออเดอร์ Buy ใกล้กับระดับแนวรับที่ระบุและออเดอร์ Sell ใกล้กับแนวต้าน
- หากราคาเคลื่อนเข้าหาแนวต้าน คุณสามารถวางคำสั่ง Sell Limit และ Stop Loss ไว้เหนือแนวต้านได้
- หากราคาเคลื่อนเข้าหาแนวรับ คุณสามารถวาง Buy Limit และ Stop Loss ใต้แนวรับได้
โปรดจำไว้ว่าระดับแนวรับจะกลายเป็นระดับแนวต้านหากราคาอยู่ต่ำกว่า และระดับแนวต้านจะกลายเป็นระดับแนวรับหากราคาอยู่เหนือกว่า
ระดับสำคัญ
เทรดเดอร์ Forex สายพุ่งทะลุใช้ Pivot Points เพื่อระบุระดับวิกฤตสำหรับการพุ่งทะลุที่อาจเกิดขึ้น หากราคาข้ามระดับเหล่านี้ไป เทรดเดอร์จะตั้งตารอทิศทางของราคาที่จะเกิดขึ้น
- หากคุณเห็นแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง คุณสามารถรอจนกว่าคู่สกุลเงินนี้จะทะลุแนวต้านแรกไปได้ คุณสามารถเปิดตำแหน่ง Buy และวาง Take Profit ที่ระดับแนวต้านถัดไปไว้ได้ แล้วก็อย่าลืม Stop Loss ล่ะ Stop Loss ควรวางไว้ใต้แนวต้านแรก อย่างไรก็ตาม หากราคายังคงเพิ่มขึ้น คุณสามารถขยับ Stop Loss ด้วยตนเองได้
- หากคุณเห็นว่าราคาทะลุแนวรับไปแล้ว คุณก็เริ่ม Sell คู่สกุลเงินนี้ได้ จุด Take Profit ควรวางไว้ที่ระดับของแนวรับถัดไป และควรวาง Stop Loss ไว้เหนือแนวรับที่คู่สกุลเงินนี้พุ่งทะลุไป คุณสามารถขยับ Stop Loss ของคุณได้เช่นกัน หากคุณเห็นว่าการเคลื่อนไหวเป็นไปในขาลงอย่างต่อเนื่อง
จงใช้กลยุทธ์นี้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากมันเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าสิ่งนั้นเป็นการพุ่งทะลุจริงหรือพุ่งทะลุหลอก การพุ่งสูงขึ้นมักเกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์สำคัญ ดังนั้นให้คอยอัปเดตข่าวด่วนและติดตามปฏิทินเศรษฐกิจสำหรับของวันหรือสัปดาห์นั้นๆ ไว้ให้ดี
แนวโน้มของตลาด
Pivots สามารถช่วยในการระบุแนวโน้มของตลาดโดยรวมได้
หากราคาทะลุ Pivot Point ขึ้นไปด้านบน มันเป็นสัญญาณว่ามีผู้ซื้อจำนวนมากในตลาด และคุณควรเริ่มซื้อคู่สกุลเงินนั้น ราคาที่ต่ำกว่า Pivot Point จะส่งสัญญาณถึงอารมณ์ของตลาดที่เป็นขาลงและผู้ขายอาจได้เปรียบในช่วงการซื้อขาย
เซสชันของตลาด
สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ต้องรู้คือเวลาเปิดทำการของตลาด
ดังที่เราทราบกัน ตลาด Forex ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เวลาทำการของตลาดมีสี่เซสชันด้วยกัน: ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา คุณสามารถค้นหาเวลาโดยประมาณของแต่ละช่วงได้ในหน้าเว็บไซต์ เวลาของเซสชันการซื้อขาย
เมื่อตลาดใดตลาดหนึ่งเปิดขึ้น มีความเป็นไปได้สูงที่จะทำลายระดับ Pivot เนื่องจากเทรดเดอร์จำนวนมากเข้าสู่ตลาดพร้อมๆ กัน เมื่อตลาดสหรัฐฯ ปิดและตลาดเอเชียเปิด ราคาอาจทรงตัวอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงระหว่าง Pivot Point และแนวรับหรือแนวต้าน สิ่งนี้เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์ที่เทรดตามกรอบ
ดาวน์โหลด Pivot Points สำหรับ MT5
ชุดตัวบ่งชี้มาตรฐานของ MetaTrader ไม่มีตัวบ่งชี้ Pivot Points ดังนั้น FBS จึงพัฒนาเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมเพื่อช่วยเทรดเดอร์ของ FBS อย่าง Pivot Points สำหรับ MT5
คุณสามารถดาวน์โหลด Pivot Points สำหรับ MT5 ได้ที่นี่ รหัสผ่านสำหรับการดาวน์โหลดคือ yBQAEq9tem
ในการติดตั้ง Pivot Points บนแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณ ให้เปิด MetaTrader แล้วคลิก File – Open a Data Folder
วางไฟล์ mq5 ของคุณลงในโฟลเดอร์นี้และรีโหลด MetaTrader ใหม่อีกครั้ง คุณสามารถแทรกตัวบ่งชี้ใหม่ลงในแผนภูมิได้โดยคลิก Insert – Indicators – Custom
เท่านี้ก็เรียบร้อย! ตอนนี้ คุณสามารถใช้ประโยชน์จากตัวบ่งชี้ใน MetaTrader 5 ได้อย่างเต็มที่แล้ว
ในแถบ "Inputs" คุณสามารถกำหนดกรอบเวลาสำหรับ Pivot Points ได้ คุณสามารถปรับตัวแปรนี้ได้ภายหลังในการตั้งค่า
เราสามารถสรุปได้ว่า Pivot Points มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ในรูปแบบต่างๆ คุณสามารถใช้มันเพียงอย่างเดียวหรือใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้อื่นๆ ได้ ตัวเลือกที่สองช่วยให้คุณสร้างและฝึกฝนกลยุทธ์การเทรดเฉพาะของคุณได้
อัปเดทแล้ว • 2023-05-09
บทความอื่นๆ ในส่วนนี้
- McClellan Oscillator
- กลยุทธ์การซื้อขายด้วยตัวบ่งชี้ Aroon
- ความแข็งแกร่งของสกุลเงิน
- กรอบเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด
- Renko chart
- ประเภทของแผนภูมิ
- จะใช้ Heikin-Ashi อย่างไร?
- นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
- ตัวบ่งชี้ ZigZag คืออะไร?
- Moving Average: วิธีง่ายๆในการหาเทรนด์
- Williams’ Percent Range (%R)
- Relative Vigor Index (ตัวบ่งชี้ RVI) คืออะไร?
- โมเมนตัม
- Force index
- ตัวบ่งชี้ Envelopes คืออะไร?
- Bulls Power และ Bears Power
- Average True Range
- จะเทรดจากการตัดสินใจของธนาคารกลางอย่างไร?
- CCI (Commodity Channel Index)
- Standard deviation
- Parabolic SAR
- การซื้อขายด้วย Stochastic Oscillator
- Relative Strength Index (RSI)
- MACD (Moving Average Convergence/Divergence)
- ออสซิลเลเตอร์
- ตัวบ่งชี้ ADX: วิธีใช้สำหรับการวิเคราะห์แนวโน้ม Forex อย่างมีประสิทธิภาพ
- Bollinger bands
- ตัวบ่งชี้เทรนด์
- การแนะนำตัวชี้วัดทางเทคนิค
- แนวรับและแนวต้าน
- แนวโน้ม
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- ธนาคารกลาง: นโยบายและผลกระทบ
- ปัจจัยพื้นฐาน
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการเทรด Forex และการเทรดหุ้น
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน vs การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค