-
จะเริ่มเทรดอย่างไร?
หากคุณอายุ 18 ปีขึ้นไปคุณสามารถเข้าร่วม FBS ได้และเริ่มต้นการเดินทาง FX ของคุณ ในการซื้อขายคุณจะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และมีความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน เริ่มด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย สื่อการเรียนรู้ฟรี และ สร้างบัญชี FBS คุณอาจต้องการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยเงินเสมือนจริงผ่านบัญชีทดลอง เมื่อคุณพร้อมเข้าสู่ตลาดจริงแล้ว ก็เริ่มทำการซื้อขายเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ
-
จะเปิดบัญชี FBS ได้อย่างไร?
คลิกที่ปุ่ม 'เปิดบัญชี' บนเว็บไซต์ของเราแล้วไปที่ Trader Area ก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อขายได้ โปรไฟล์ของคุณจะต้องได้รับการยืนยันเสียก่อน ยืนยันอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ของคุณ จากนั้นให้ทำการยืนยันตัวตนของคุณ ขั้นตอนนี้จะช่วยรับประกันความปลอดภัยของเงินและตัวตนของคุณ เมื่อคุณผ่านการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ให้ไปที่แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการ แล้วเริ่มซื้อขายได้เลย
-
จะถอนเงินที่ทำได้กับ FBS ได้อย่างไร?
กระบวนการนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ไปที่หน้า การถอนเงิน บนเว็บไซต์หรือส่วนการเงินของ FBS Trader Area และเข้าไปที่การถอนเงิน คุณจะได้รับเงินที่ทำได้รับผ่านระบบการชำระเงินเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงิน ในกรณีที่คุณฝากเงินเข้าบัญชีผ่านหลายวิธี ให้ถอนกำไรของคุณผ่านวิธีเดียวกันในอัตราส่วนตามยอดเงินที่ฝากเข้ามา
แนวรับและแนวต้าน
แนวคิดของแนวรับและแนวต้านเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเทรดเดอร์ โดยพื้นฐานแล้วแนวรับและแนวต้านเป็นพื้นที่ที่คาดว่าราคาจะเผชิญกับอุปสรรค มาศึกษาในรายละเอียดกันดีกว่า
แนวรับเป็นระดับราคาที่ราคาที่กำลังปรับตัวลงมีแนวโน้มชะลอตัวหรือกลับตัว ซึ่งหมายความว่าราคามีแนวโน้มที่จะ "เด้ง" ออกจากระดับนี้แทนที่จะเจาะทะลุ อย่างไรก็ตามเมื่อราคาผ่านระดับนี้ไปแล้วก็มีแนวโน้มที่จะลดลงต่อไปจนกว่าจะพบระดับแนวรับอื่น
แนวต้านเป็นระดับราคาที่ราคาที่กำลังปรับตัวสูงขึ้นมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวหรือกลับตัว ราคามีแนวโน้มที่จะย้อนกลับจากระดับนี้มากกว่าที่จะทะลุผ่าน อย่างไรก็ตามการหยุดพักเหนือระดับนี้เป็นการเปิดทางสำหรับการเติบโตของราคาต่อไปจนกว่าจะพบแนวต้านอีกระดับ
เทรดอย่างไร?
แนวรับและแนวต้านช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจตลาด เมื่อคุณระบุระดับเหล่านี้บนแผนภูมิคุณได้ คุณจะเห็นโครงสร้างของตลาดและสามารถทำนายทิศทางต่อไปของราคาและขนาดของพวกมันได้
แนวคิดก็คือระดับเหล่านี้มักจะหยุดการเคลื่อนไหวของราคาและทำให้มันกลับตัว ด้วยเหตุนี้จึงเป็นวิธีการทั่วไปในการเข้าซื้อที่แนวรับ และเข้าขายที่แนวต้าน หากคุณต้องการได้รับประโยชน์จากการซื้อขายตามแนวโน้ม คุณจะต้องเข้าซื้อที่แนวรับในขาขึ้น หรือเข้าขายที่แนวต้านในแนวโน้มขาลง หากคุณไม่ได้ทำการซื้อขายตามแนวโน้มคุณยังสามารถใช้แนวรับและแนวต้านเป็นจุดเริ่มต้นและจุดปิดตำแหน่งที่ระดับแนวรับ / แนวต้านถัดไป
ที่จริงแล้วระดับแนวรับและแนวต้าน ก็ให้สัญญาณแก่เทรดเดอร์ว่าจะปิดการซื้อขายตรงไหน ดังนั้นหากคุณมีเปิด sell และราคาอยู่ใกล้ระดับแนวรับ คุณอาจต้องพิจารณาปิดการซื้อขายนั้น ในออเดอร์ buy ก็เช่นกัน ต่างกันเพียงหลังจากที่คุณเปิดตำแหน่ง buy คุณต้องใส่ใจกับระดับแนวต้าน
แนวรับและแนวต้านสามารถพบได้ในทุกกรอบเวลา ฉะนั้นโปรดจำไว้ว่ายิ่งกรอบเวลาใหญ่ขึ้นเท่าไหร่ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือแนวรับ/แนวต้าน แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะพูดเรื่องระดับต่างๆที่นี่ก็ตาม การซื้อขายมันก็ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่แม่นยำ ดังนั้นคุณต้องคิดเรื่องแนวรับและปแนวต้านเป็นเพียงพื้นที่ เมื่อคุณระบุแนวรับหรือแนวต้าน คุณต้องนับรวมเอาสองสาม pip ใกล้ๆนั้นด้วย สิ่งนี้จะช่วยให้การซื้อขายของคุณแม่นยำยิ่งขึ้น
วิธีการระบุแนวรับและแนวต้าน
แนวรับและแนวต้านมีหลายรูปแบบ ประการแรกมีเส้นแนวโน้มทแยงมุมที่เราได้ อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ เส้นแนวโน้มสามารถเชื่อมโยงจุดสูงสุดของราคาและจำกัดแนวโน้มในขาขึ้น ในกรณีนี้เส้นแนวโน้มนี้เรียกว่าแนวต้าน เส้นแนวโน้มยังสามารถวาดผ่านจุดต่ำสุดของกราฟราคาและจำกัดการเคลื่อนไหวของราคาในขาลง เส้นดังกล่าวเรียกว่าแนวรับ เส้นแนวรับและแนวต้านสามารถถูกลากได้ทั้งในขาขึ้นและขาลง คุณต้องการอย่างน้อย 2 จุดสูงสุดหรือ 2 จุดต่ำสุด เพื่อวาดเส้นแนวโน้มผ่านจุดเหล่านั้น คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวาดเส้นแนวโน้มได้ ที่นี่
โปรดสังเกตว่าในช่วงขาขึ้นเส้นแนวรับเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะหากราคาพักตัวลงต่ำกว่าเส้นแนวรับ แนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นขาลง ส่วนในช่วงขาลง แนวต้านเป็นกุญแจสำคัญที่ เพราะการพุ่งทะลุเหนือแนวต้านจะหมายถึงการกลับตัวเป็นขาขึ้น
ด้วยความที่ตลาดมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา มันเป็นไปได้ว่าเส้นแนวรับและแนวต้านและระดับต่างๆเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา แต่อย่างที่คุณเห็นจากภาพด้านบน หลังจากราคาร่วงลงมาต่ำกว่าแนวรับ มันก็เริ่มเปลี่ยนเป็นแนวต้านนอกจาก
ระดับแนวรับและแนวต้าน
นี้ยังมีเส้นแนวนอนที่เป็นแนวรับและแนวต้าน หนึ่งในวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการลากเส้นผ่านจุดสูงสุดและต่ำสุดก่อนหน้าของกราฟราคา:
เทคนิคอื่นๆที่เทรดเดอร์ใช้ในการระบุแนวรับและแนวต้านคือ moving averages, Fibonacci levels, pivot points, และอื่นๆ
อัปเดทแล้ว • 2023-05-25
บทความอื่นๆ ในส่วนนี้
- McClellan Oscillator
- กลยุทธ์การซื้อขายด้วยตัวบ่งชี้ Aroon
- ความแข็งแกร่งของสกุลเงิน
- กรอบเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด
- Renko chart
- ประเภทของแผนภูมิ
- จะใช้ Heikin-Ashi อย่างไร?
- นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
- Pivot Points
- ตัวบ่งชี้ ZigZag คืออะไร?
- Moving Average: วิธีง่ายๆในการหาเทรนด์
- Williams’ Percent Range (%R)
- Relative Vigor Index (ตัวบ่งชี้ RVI) คืออะไร?
- โมเมนตัม
- Force index
- ตัวบ่งชี้ Envelopes คืออะไร?
- Bulls Power และ Bears Power
- Average True Range
- จะเทรดจากการตัดสินใจของธนาคารกลางอย่างไร?
- CCI (Commodity Channel Index)
- Standard deviation
- Parabolic SAR
- การซื้อขายด้วย Stochastic Oscillator
- Relative Strength Index (RSI)
- MACD (Moving Average Convergence/Divergence)
- ออสซิลเลเตอร์
- ตัวบ่งชี้ ADX: วิธีใช้สำหรับการวิเคราะห์แนวโน้ม Forex อย่างมีประสิทธิภาพ
- Bollinger bands
- ตัวบ่งชี้เทรนด์
- การแนะนำตัวชี้วัดทางเทคนิค
- แนวโน้ม
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- ธนาคารกลาง: นโยบายและผลกระทบ
- ปัจจัยพื้นฐาน
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการเทรด Forex และการเทรดหุ้น
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน vs การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค