จะทำการซื้อขายตามรายงานผลประกอบการได้อย่างไร?
ช่วงเวลาแสดงผลประกอบการมอบโอกาสพิเศษให้กับเทรดเดอร์ มันเป็นช่วงเวลาที่บริษัทขนาดยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันจะประกาศรายงานผลประกอบการของช่วงไตรมาสที่ผ่านมา หลังการประกาศราคาอาจกระโดขึ้นหรือดิ่งลงประมาณ 10% ดังนั้นเทรดเดอร์จะมีเวลาสั้นมากที่จะทำกำไร
สิ่งที่ดีที่สุดคือผลประกอบการนั้นไม่เพียงมีผลกระทบต่อราคาหุ้นแต่ยังทำให้ราคาของตลาดสกุลเงินมีความผันผวนสูงอีกด้วย ส่งผลให้ตลาดการเงินทั้งหมดมีการเคลื่อนไหว และนี่ก็เป็นจังหวะที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่จะเข้าทำการซื้อขาย
คุณสนใจมั้ย? ด้านล่างนี้คุณจะได้เห็นข้อมูลเพิ่มเติมของการซื้อขายตามผลประกอบการ
คุณรู้หรือไม่ว่าคุณสามารถซื้อขายหุ้นของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกกับ FBS ได้ เปิดบัญชี MT5 ใน Trader Area ของคุณ ดาวน์โหลดเทอร์มินัลการซื้อขาย และรับประโยชน์จากช่วงเวลาประกาศผลประกอบการของสหรัฐฯ!
ช่วงเวลาของการประกาศผลประกอบการมี 4 ช่วงต่อปี แต่ละช่วงอาจยาวนานหลายสัปดาห์ ผลประกอบการจะถูกประกาศเป็นไตรมาส (มกราคม, เมษายน, กรกฏาคม และ ตุลาคม) นี่เป็นเหตุผลที่คุณควรตรวจสอบปฏิทินผลประกอบการเพื่อจะได้รู้ว่าควรจะทำการซื้อขาขในเวลาใด
- หากรายงานทางการเงิน (รายไตรมาส หรือ รายปี) แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีผลกำไรหรือยอดขายเพิ่มขึ้น, นักลงทุนจะให้ความสนใจ อุปสงค์ต่อหุ้นของบริษัทจะมีมากขึ้นส่งผลให้ราคาหุ้นสูงขึ้น
- หากบริษัทประกาศว่าผลกำไรลดลง จะส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงตามข่าว
เคล็ดลับของการซื้อขายตามผลประกอบการ
ในทางปฏิบัติ อาจมีความแตกต่างเล็กน้อย คุณอาจพบว่ามีความคล้ายคลึงกันระหว่างการซื้อขายตามผลประกอบการของบริษัท และการซื้อขายตามข่าวจากปกฺทินเศรษฐกิจของ Forex
นักวิเคราะห์ทำการคาดการณ์ตัวเลขที่รอคอยอยู่หลายสัปดาห์ก่อนที่จะมีการประกาศผลประกอบการ ปกติแล้วพวกเขาทำนายกำไรต่อหุ้น (EPS) และรายได้ ข้อมูลนี้พบได้ในว็บไซท์ของ FBSล่วงหน้าก่อนการประกาศผลประกอบการ หลังจากการคาดการณ์ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ราคาก็จะเคลื่อนไหวไปตามการคาดการณ์นี้และการคาดการณ์ของนักลงทุน หากการคาดการณ์ออกมาดี ราคาหุ้นจะพุ่งขึ้น แต่ถ้าหากการคาดกาณ์ออกมาไม่ดี ราคาหุ้นก็จะดิ่งลง
เคล็ดลับที่ 1 หากคุณต้องการทำการวิเคราะห์รายงานของบริษัทแบบเจาะลึกเพื่อเพิ่มผลกำไรของคุณ คุณควรเข้าไปตรวจสอบในเว็บไซท์ของบริษัทที่คุณวางแผนจะทำการซื้อขายหุ้นของพวกเขา เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว ใช้ google หา "[ชื่อบริษัท] นักลงทุนสัมพันธ์" แล้วคุณจะได้ข้อมูลของเวลาที่จะมีการประกาศ, รายงานฉบับก่อนหน้า และรายงานของจริงฉบับเต็มเมื่อมันถูกประกาศ
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเริ่มต้นเมื่อมีการประกาศรายงานผลประกอบการ อะไรจะทำให้เซอร์ไพรส์นั้นมีความสำคัญมาก: ยิ่งมีความแตกต่างระหว่างตัวเลขจริงและจากที่คาดการณ์มากเท่าไหร่ การเคลื่อนไหวของตลาดก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้สถานการณ์ที่เรียกว่า "ซื้อตามข่าวลือ, ขายตามความจริง" อาจเกิดขึ้น: ราคาอาจลดลงแม้ว่าตัวเลขจะมีความแข็งแกร่ง หากตลาดมีราคาดีตามผลลัพธ์ที่ออกมาดี นักลงทุนที่ซื้อหุ้นไปก่อนที่หน้าที่จะมีการประกาศก็จะเริ่มเทขายหลังจากที่มีการประกาศ
นี่คือตัวอย่างของการเคลื่อนไหวของราคาตามรายงานผลประกอบการ หุ้น Facebook ลดลงประมาณ 25% ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2018 รายได้ของบริษัทเป็นที่น่าผิดหวัง (13.23 พันล้านเหรียญสหรัฐ ต่อ 13.36 พันล้านเหรียญสหรัฐตามการคาดการณ์ของ Thomson Reuters) และจำนวนผู้ใช้งานรายวันทั่วโลกต่ำกว่าคาด (1.47 พันล้าน ต่อ 1.49 พันล้านตามประมาณการ StreetAccount และ FactSet) โปรดสังเกตว่าราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะมีการประกาศและได้เข้าสู่โซนซื้อมากเกินไป
เทรดเดอร์ที่ฉลาดให้ความสนใจไม่เพียงแต่กับกำไรต่อหุ้นและผลประกอบการของบริษัท แต่ยังทำการวิเคราะห์ในภาพใหญ่อีกด้วย นี่เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยคุณประสบความสำเร็จในการซื้อขายตามผลประกอบการ
- ดูว่ามีการซื้อขายหุ้นอย่างไรในระหว่างสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เปรียบเทียบการเปลียนแปลงของราคากับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในปฏิทินผลประกอบการ หากราคาพุ่งขึ้นสูง คุณอาจเตรียมพร้อมที่จะทำการขายหุ้นตามข่าว หากราคาลดลงต่ำเกินไป คุณอาจเตรียมตัวเพื่อเข้าซื้อ
- ตรวจสอบวิธีการตอบสนองของตลาดหลังการประกาศก่อนหน้า แต่ละหุ้นจะมีลักษณะเฉพาะตัวและคุณอาจได้รับข้อมูลเชิงลึกจากการศึกษาข้อมูลในอดีต
- ไปดูที่ RSI อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคตัวนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดเข้าสู่โซนซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป หาก RSI สูงเกิน หุ้นจะเข้าสู่โซนซื้อมากเกินไปและอาจร่วงลงได้ในทุกกรณี ในทางตรงข้ามคือเมื่อ RSI นั้นต่ำเกินไป หุ้นที่ถูกขายมากเกินไปจะถูกมองว่ามีความน่าสนใจที่จะเข้าซื้อ
- อ่านบทความให้จบ หากทุกคนหมกมุ่นอยู่กับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง และคาดหวังกำไรมหาศาล ราคาหุ้นดูเหมือนจะสูงเกินไปและเสี่ยงต่อการที่จะขายไม่ออก หากทุกคนตำหนิบริษัท หุ้นของบริษัทนั้นอาจมีมูลค่าต่ำกว่าที่ควร
เคล็ดลับที่ 2. ข่าวจากบริษัทขนาดใหญ่มีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดหุ้นอเมริกันทั้งหมด ดังนั้นหากหุ้นของ Microsoft หรือ Amazon กระโดดสูงขึ้น S&P 500 ก็น่าจะเพิ่มขึ้นตามมาเช่นกัน นอกจากนี้หุ้นสามารถมีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของสกลุเงิน USD เช่นกัน หุ้นที่เพิ่มขึ้นอาจเพิ่มความต้องการถือครองเงินดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนจะรอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐหรือกระตุ้นความเสี่ยงที่ยอมรับได้และความต้องการสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงเช่น AUD และ NZD ปฏิกิริยาของตลาด Forex จะขึ้นอยู่กับตัวขับเคลื่อนล่าสุดของ USD
สรุป หากผลประกอบการถูกประกาศเป็นไปตามที่คาดการณ์ ราคาของหุ้นน่าจะกลับตัวในทิศทางตรงกันข้ามเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา หากผลการประกาศเกิน/ต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์มากๆ ตลาดที่ซื้อมากเกินไป/ขายมากเกินไปจะปรับตัวขึ้นหากผลที่ออกมาเป็นบวกหรือลดลงหากข้อมูลไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ทีนี้คุณก็พร้อมที่จะทำกำไรจากรายงานผลประกอบการ! ขอให้แน่ใจว่าคุณได้ติดตั้ง MT5 แล้วเริ่มวางการซื้อขายของคุณ!