สหสัมพันธ์ของตลาด: เคล็ดลับ & ข้อมูลเชิงลึก
เหตุใดสหสัมพันธ์ของตลาดจึงมีความสำคัญ?
ค่าสหสัมพันธ์เป็นการวัดทางสถิติที่กำหนดว่าสินทรัพย์ต่างๆนั้นมีการเคลื่อนไหวที่สัมพันธ์กันอย่างไร มันใช้ได้กับทุกหลักทรัพย์อย่างเช่น หุ้น หรือสหสัมพันธ์ของตลาดทั่วไป เช่น การจัดกลุ่มสินทรัพย์ที่มีลักษณะและพื้นฐานคล้ายคลึงกันมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรือตลาดกว้าง
ค่าสหสัมพันธ์จะถูกวัดในมาตราส่วน -1 ถึง +1 ซึ่งค่า +1 นั้นจะหมายถึงสหสัมพันธ์เชิงบวกสัมบูรณ์ ส่วน -1 จะหมายถึงสหสัมพันธ์เชิงลบสัมบูรณ์
สหสัมพันธ์เชิงบวกหมายความว่าสินทรัพย์เคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน ในทางกลับกัน สหสัมพันธ์เชิงลบหมายความว่าสินทรัพย์เคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงข้ามกัน
ค่าสหสัมพันธ์มักถูกใช้ในการจัดการพอร์ตเพื่อวัดปริมาณการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ต่างๆ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการนำเอาค่าสหสัมพันธ์ไปใช้ในกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
สหสัมพันธ์ยอดนิยม
สินค้าโภคภัณฑ์ - สกุลเงิน (USD/CAD และ XBR/USD)
ราคาน้ำมันส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงินในประเทศผู้ผลิต
ตัวอย่างเช่น แคนาดา ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีน้ำมันสำรองในปริมาณมาก แถมยังส่งออกน้ำมันส่วนใหญ่ไปยังสหรัฐอเมริกา
อุตสาหกรรมน้ำมันของแคนาดามีขนาดใหญ่มากจนส่งผลกระทบต่อ GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) การเมือง และความมั่งคั่งทั้งหมดของแคนาดา นอกจากนี้ ประชากรส่วนใหญ่ยังถูกจ้างงานทั้งในบริษัทแท่นขุดเจาะน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมัน ดังนั้นอำนาจทางเศรษฐกิจจึงขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมน้ำมัน
คู่เงินที่สำคัญของ CAD ใน Forex คือ USD/CAD ดังนั้น สหสัมพันธ์โดยตรงระหว่างน้ำมันกับดอลลาร์แคนาดาจึงให้ผลตรงกันข้ามกับคู่ USD/CAD ดังนั้นราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจึงส่งผลให้ USD/CAD ร่วงลง ส่วนการลดลงของราคาน้ำมันจะทำให้ USD/CAD พุ่งขึ้น
สหสัมพันธ์ระหว่าง CAD/USD กับ XBR/USD
มาดูอีกสหสัมพันธ์ยระหว่างสินค้าโภคภัณฑ์และคู่สกุลเงินที่ผู้คนนิยมดูกัน
ราคาทองคำพุ่งขึ้น, USD ร่วงลง วิกฤตเศรษฐกิจทำให้นักลงทุนแปลงเงินดอลลาร์ของตนเป็นทองคำ
ราคาทองคำพุ่งขึ้น, AUD/USD ก็พุ่งขึ้น. ออสเตรเลียเป็นผู้จัดหาทองคำรายใหญ่อันดับสามของโลก ดังนั้น ดอลลาร์ออสเตรเลียจึงเชื่อมโยงกับความต้องการทองคำ
ราคาทองคำพุ่งขึ้น, NZD/USD ก็พุ่งขึ้นนิวซีแลนด์ก็ผลิตทองคำออกมาเป็นจำนวนมาก
ราคาทองคำพุ่งขึ้น, USD/CAD ร่วงลง แคนาดาเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก ดังนั้น USD/CAD จะร่วงลงหากราคาทองคำสูงขึ้น
ราคาทองคำพุ่งขึ้น, EUR/USD ก็พุ่งขึ้น. ทองคำและสกุลเงินยูโรถูกมองว่าเป็นฝั่งตรงข้ามของสกุลเงินดอลลาร์ ดังนั้น การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำก็มักจะทำให้อัตราแลกเปลี่ยน EUR/USD สูงขึ้น
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น, USD/RUB ร่วงลง รัสเซียก็เป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ถ้าราคาน้ำมันแพงขึ้น คู่เงินนี้ก็จะร่วงลง
สินทรัพย์เสี่ยง (US500 และ Bitcoin)
สินทรัพย์มีสองประเภทหลักๆ - สินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ปลอดภัย นักลงทุนจะเลือกแต่ละประเภทตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก หากเศรษฐกิจไม่มีความเสถียร พวกเขาจะเลือกป้องกันความเสี่ยงของเงินโดยลงทุนในสกุล USD, JPY หรือโลหะ
ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจโลกเติบโตขึ้น นักลงทุนก็จะเลือกโอนเงินของตนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้นหรือคริปโต ด้วยเหตุผลดังกล่าว สินทรัพย์เสี่ยงจึงมีสหสัมพันธ์ต่อกันสูง ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้ในกลยุทธ์การซื้อขายของคุณได้
ตัวอย่างเช่น ดัชนี S&P500 (US500) มีสหสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับ Bitcoin ครั้งเดียวที่สหสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ทั้งสองนี้ลดลงต่ำกว่าศูนย์คือหลังจากที่จีนห้ามการทำการซื้อายและขุดสกุลเงินดิจิทัล เทรดเดอร์สามารถใช้คุณลักษณะนี้เพื่อทำนายการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป US500 โดยดูที่แผนภูมิ Bitcoin และในทำนองกลับกัน
สหสัมพันธ์ระหว่าง US500 และ Bitcoin
ตลาดหุ้น และ สกุลเงินประจำชาติ
หากตลาดหุ้นของประเทศหนึ่งมีผลประกอบการที่ดีกว่าตลาดของประเทศอื่นๆ เงินทุนจากประเทศแรกจะไหลไปยังประเทศที่สอง ข้อเท็จจริงนี้จะส่งผลทันทีต่อสกุลเงินประขำชาติของทั้งสองประเทศ การไหลเข้าของการลงทุนจะเสริมความแข็งแกร่งของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นสองประการ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นญี่ปุ่น นักลงทุนมักจะพิจารณา USD และ JPY ว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และจะลงทุนในช่วงสถานการณ์ในตลาดโลกไม่มีเสถียรภาพ ดังนั้น ในช่วงที่เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ นักลงทุนจึงต้องการขาย USD และ JPY แล้วโอนเงินทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ในทางกลับกัน ทุกคนจะกำจัดสินทรัพย์เสี่ยงและกลับเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความกังวลเพิ่มขึ้นหรือหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ "The Black Swan"
ดังในตัวอย่าง ให้ดูที่การร่วงลงในเดือนมีนาคม 2020 อย่างที่คุณเห็น พอดัชนี US500 ได้ร่วงลงไปแล้ว ดัชนีดอลลาร์สหรัฐก็ได้แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 มันเกิดขึ้นเพราะนักลงทุนโอนเงินทั้งหมดจากหุ้นและคริปโตไปยังดอลลาร์สหรัฐฯ
จะใช้สหสัมพันธ์ในการเทรดได้อย่างไร?
- เทรดเดอร์ควรกระจายกลยุทธ์การซื้อขายระหว่างตราสารต่างๆที่มีค่าสหสัมพันธ์ต่ำ (เท่ากับศูนย์) หากเทรดเดอร์เปิดหลายคำสั่งซื้อกับตราสารต่างๆที่มีค่าสหสัมพันธ์สูง ความผิดพลาดอาจจะแพงสุดๆไปเลย
- เทรดเดอร์สามารถมองหาสัญญาณและรูปแบบบนแผนภูมิของตราสารหนึ่งเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตราสารอื่นที่มีสหสัมพันธ์เชิงบวกหรือเชิงลบสูง ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์ต้องการเปิดคำสั่งซื้อคู่สกุลเงิน USD/CAD เขา/เธอสามารถไปวิเคราะห์กราฟ XBR/USD ด้วยได้ นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังสามารถค้นหาข่าวปัจจัยพื้นฐานของน้ำมันที่จะช่วยกำหนดแนวโน้มในอนาคตของ USD/CAD
- อาจมีความล่าช้าในการเคลื่อนไหวระหว่างสินทรัพย์ที่มีสหสัมพันธ์เชิงบวกหรือเชิงลบสูง ตัวอย่างเช่น บางครั้ง Bitcoin เคลื่อนไหวนำ US500 ไปก่อน เทรดเดอร์สามารถใช้ความล่าช้าเหล่านี้แล้วเปิดคำสั่งซื้อที่ทำกำไรได้มากที่สุด