กลยุทธ์การเทรดด้วยโมเมนตัม

อ่านบทความบนเว็บไซต์ของ FBS

ในโลกของการเทรด Forex ที่ศักยภาพในการทำกำไรนั้นเป็นเป้าหมายสูงสุด เทรดเดอร์มักจะแสวงหากลยุทธ์เพื่อให้ได้เปรียบอยู่เสมอ การผสมผสานระหว่างตัวบ่งชี้ Moving Average Convergence Divergence (MACD) และ Relative Strength Index (RSI) ได้กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมท่ามกลางเทคนิคที่มีอยู่มากมาย บทความนี้จะสำรวจกลยุทธ์การเทรด MACD + RSI และวิธีการนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อระบุโอกาสในการเปิดคำสั่งซื้อขายในตลาด Forex

การตั้งค่ากลยุทธ์

ตราสาร: ตราสารใดก็ได้

ตัวบ่งชี้: Relative Strength Index (RSI), Moving Average Convergence Divergence (MACD) พร้อมการตั้งค่าเริ่มต้น

MACD เป็นออสซิลเลเตอร์โมเมนตัมที่ประกอบด้วยเส้นสัญญาณและฮิสโตแกรม ฮิสโตแกรมจะแสดงถึงความแตกต่างระหว่าง EMA ที่เร็วและช้า ในขณะที่เส้นสัญญาณก็คือเส้นฮิสโตแกรมแบบเรียบ เมื่อเส้นสัญญาณอยู่ต่ำกว่าเส้นฮิสโตแกรม แนวโน้มจะเป็นขาขึ้น มิฉะนั้นมันจะเป็นขาลง จุดตัดของเส้นทั้งสองจะให้สัญญาณซื้อหรือขาย

Relative Strength Index (RSI) เป็นออสซิลเลเตอร์โมเมนตัมที่ประเมินความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคา การคำนวณ RSI เกี่ยวข้องกับการเปรียบเทียบขนาดของกำไรล่าสุดกับการขาดทุนล่าสุด ซึ่งจะให้ค่าระหว่าง 0 ถึง 100 ระดับ RSI ที่สูงกว่า 70 มักจะบ่งบอกถึงสภาวะการซื้อมากเกินไป ซึ่งบ่งบอกถึงการกลับตัวหรือการปรับฐานของราคาที่อาจเกิดขึ้น ในทางกลับกัน ระดับ RSI ที่ต่ำกว่า 30 มักจะบ่งบอกถึงสภาวะการขายมากเกินไป ซึ่งบ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวขาขึ้นของราคาที่อาจเกิดขึ้น

กรอบเวลา: H1 - H4

กฎการจัดการความเสี่ยง: 2-5% เป็นมาร์จิ้นจากยอดคงเหลือทั้งหมด

กฏการเปิด Long (ซื้อ)

  1. มองหาช่วงเวลาที่ RSI อยู่ต่ำกว่า 30 และเส้นสัญญาณ MACD อยู่เหนือเส้นฮิสโตแกรม
  2. รอจนกระทั่ง RSI พุ่งขึ้นเหนือ 30 และเส้นสัญญาณ MACD ตกลงต่ำกว่าเส้นฮิสโตแกรม
  3. เปิดคำสั่ง Buy
  4. ตั้ง Take Profit ที่ระดับแนวต้านหรือเมื่อมี “สัญญาณขาย” เกิดขึ้น
  5. ตั้งจุด Stop Loss ตามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนของคุณ (แนะนำ 1:3 - 1:5) หรือใต้ระดับต่ำสุดล่าสุด

long entry.png

กฏการเปิด Short (ขาย)

  1. มองหาช่วงเวลาที่ RSI อยู่เหนือกว่า 70 และเส้นสัญญาณ MACD อยู่ใต้เส้นฮิสโตแกรม
  2. รอจนกระทั่ง RSI ร่วงลงต่ำกว่า 70 และเส้นสัญญาณ MACD พุ่งขึ้นสูงกว่าเส้นฮิสโตแกรม
  3. เปิดคำสั่ง Sell
  4. ตั้ง Take Profit ที่ระดับแนวรับหรือเมื่อมี “สัญญาณซื้อ” เกิดขึ้น
  5. ตั้งจุด Stop Loss ตามอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนของคุณ (แนะนำ 1:3 - 1:5) หรือเหนือระดับสูงสุดล่าสุด

Short entry.png

ข้อมูลสำคัญ

เช่นเดียวกับกลยุทธ์อื่น ๆ การใช้ MACD และ RSI ร่วมกันก็ไม่อาจรับประกันผลลัพธ์ได้ 100% อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์

  1. ขอแนะนำให้เปิดคำสั่งซื้อขายตามแนวโน้ม ในการทำเช่นนี้ คุณต้องขยายกรอบเวลาให้ใหญ่ขึ้นแล้วกำหนดทิศทางทั่วไป
  2. แนะนำให้ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit มากกว่า 1:2 อัตราส่วน 1:3 ถึง 1:5 ถือว่าเหมาะสมที่สุด

เทรดกับ FBS โดยใช้ MACD และออสซิลเลเตอร์ RSI แล้วกลายเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง!

ลองเทรดตอนนี้

FBS Analyst Team

แบ่งปันกับเพื่อน:

คล้ายกัน

เปิดทันที

FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา