กลยุทธ์การเทรด Pin Bar
บางครั้งแผนภูมิหรือรูปแบบแท่งเทียนอาจให้สัญญาณเข้าที่ดีหากมันอยู่ที่ระดับที่แน่นอน pin bar เป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนที่น่าเชื่อถือและมีชื่อเสียงที่สุด และเมื่อเทรดเดอร์เห็นมันบนแผนภูมิ พวกเขาก็คาดว่าราคาคงจะเปลี่ยนแปลงทิศทางในไม่ช้า หากคุณเข้าใจวิธีจำแนกรูปแบบนี้และวิธีใช้ในกลยุทธ์การซื้อขาย มันจะทำหน้าที่เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผล
Pin bar คืออะไร?
Pin bar เป็นรูปแบบแท่งเทียนที่ส่งสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้มราคา มันจะประกอบไปด้วยไส้เทียนยาวๆ, ไส้เทียนสั้นๆ, และเนื้อเทียนอยู่ตรงกลาง เกร็ดน่ารู้: รูปแบบนี้ย่อมาจาก Pinocchio เนื่องจากมันมีไส้เทียนยาวคล้ายกับจมูกของ Pinocchio
อย่างไรก็ตาม นอกจากไส้เทียนยาวๆแล้วยังมีเงื่อนไขพิเศษของตลาดเพื่อเรียกรูปแบบแท่งเทียนว่า Pin bar
ในภาพด้านบน คุณจะเห็น pin bar สองประเภท: ขาลงและขาขึ้น
Pin bar ขาลง จะเกิดขึ้นหลังการเคลื่อนไหวขาขึ้นที่แข็งแกร่งหรือที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้น เนื้อเทียนทั้งหมดของมันจะถูกบรรจุอยู่ภายในเนื้อเทียนของแท่งเทียนขาขึ้นแท่งก่อนหน้า มันมีไส้ด้านบนยาวๆซึ่งอาจยาวกว่าขนาดเนื้อเทียนประมาณสามเท่าหรือมากกว่า อาจเป็นขาลงหรือขาขึ้นก็ได้ แต่เชื่อว่าขาลงจะให้สัญญาณที่แรงกว่า รูปแบบควรได้รับการยืนยันโดยแท่งเทียนขาลงที่เปิดใต้เนื้อเทียนของแท่ง pin bar สัญญาณนี้แสดงให้เห็นว่ากระทิงพยายามที่จะดันราคาให้สูงขึ้น แต่ความพยายามของพวกเขาได้ถูกปฏิเสธ
A Pin bar ขาขึ้น จะปรากฏที่จุดสิ้นสุดของการคเลื่อนไหวขาลงหรือแนวโน้มขาลง มันจะเปิดแท่งภายในเนื้อของแท่งเทียนขาลงแท่งก่อนหน้าและมีไส้ด้านล่างยาวๆแต่มีเนื้อเล็กๆ รูปแบบควรได้รับการยืนยันโดยแท่งเทียนขาขึ้นที่เปิดเหนือเนื้อเทียนของแท่ง pin bar
ตอนนี้คุณคงทราบองค์ประกอบหลักๆของกลยุทธ์แล้ว งั้นเดี๋ยวเราไปดูที่การตั้งค่ากัน
ข้อกำหนดของกลยุทธ์
ตราสาร: คู่สกุลเงินหลักที่มีค่าสเปรดต่ำและมีสภาพคล่องสูงพร้อมให้บริการแล้วในบัญชี Standard เนื่องจากเราจะพูดถึงกลยุทธ์การเทรด scalping เราจึงต้องใส่ใจในรายละเอียดนี้ให้ดี
กรอบเวลา: M15 หรือ M30
การตั้งค่าทางเทคนิค: ระดับสำคัญ, เส้นแนวโน้ม, การก่อตัวของพินบาร์
กฏการเปิด short
- ระบุระดับสำคัญและลากเส้นแนวโน้มเอาไว้
- เมื่อแท่ง pin bar ก่อตัวขึ้นที่ระดับแนวต้านสำคัญ ให้เปิดคำสั่ง Sell ใต้ระดับต่ำสุดของแท่ง pin bar ประมาณ 10-20 จุด
- วาง stop loss ไว้เหนือเส้นแนวต้านที่เป็นต้นเหตุของการปฏิเสธราคาประมาณ 20-30 จุด
- วาง take profit เมื่อราคาวิ่งไปถูกทางเป็นระยะทางประมาณ 2 ถึง 3 เท่าของความเสี่ยงของคำสั่งซื้อนี้ หรือปิดที่ระดับแนวรับสำคัญ
ตัวอย่าง
กราฟด้านบนแสดงให้เห็นว่า EURUSD ได้พยายามที่จะพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่มันมาถึงเส้นแนวโน้มย่อยบนกราฟ M15 แต่แล้วเหล่ากระทิงก็ไม่สามารถถือตำแหน่งเอาไว้ได้นานนัก มันจึงทำให้เกิดแท่ง pin bar ขึ้นมา หลังจากที่ยืนยันแล้ว เราได้วางคำสั่ง sell ไว้ใต้ระดับต่ำสุดของแท่ง pin bar ที่ราคา 1.03497 และวาง stop loss ที่ระดับแนวต้านล่าสุดที่ราคา 1.03598 เราได้วางระดับ Take profit ไว้ที่ 1.03194 ผลก็คือเราได้กำไรไป 302 pips
กฏการเปิด long
- ระบุระดับสำคัญและลากเส้นแนวโน้มเอาไว้
- เมื่อแท่ง pin bar ก่อตัวขึ้นที่ระดับแนวรับสำคัญ ให้เปิดคำสั่ง Buy เหนือระดับสูงสุดของแท่ง pin bar ประมาณ 10-20 จุด
- วาง stop loss ไว้ใต้เส้นแนวรับที่เป็นต้นเหตุของการปฏิเสธราคาประมาณ 20-30 จุด
- วาง take profit เมื่อราคาวิ่งไปถูกทางเป็นระยะทางประมาณ 2 ถึง 3 เท่าของความเสี่ยงของคำสั่งซื้อนี้ หรือปิดที่ระดับแนวต้านสำคัญ
ตัวอย่าง
ในกราฟเดียวกันของ EURUSD เราได้พิจารณาสถานการณ์เปิด buy หลังจากที่ราคาได้ร่วงลงต่ำกว่าระดับจิตวิทยาที่ 1.2000 และได้ทดสอบพื้นที่ใกล้กับโซนแนวรับ 1.1900 รูปแบบ pin bar ก็เกิดขึ้น เราได้เปิดคำสั่งซื้อเหนือระดับสูงสุดของ pin bar ที่ 1.20058 และวาง Stop Loss ที่ 1.19870 ด้วยอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน 1:3 เราได้ตั้ง Take Profit ไว้ที่ 1.20619 ด้วยกลยุทธ์นี้ เราได้กำไรไปถึง 560 จุด
สรุป
ตอนนี้คุณก็ได้รู้กลยุทธ์การเทรด scalping ใหม่แล้ว เพื่อทดสอบกลยุทธ์ก่อนใช้งานจริง คุณสามารถลองใช้งานได้กับบัญชี Demo