กลยุทธ์การซื้อขายสุดมหัศจรรย์ด้วย Ichimoku
เมื่อคุณเหลือบมองไปที่ตัวบ่งชี้ Ichimoku เป็นครั้งแรก มันอาจทำให้คุณตาลาย เพียงแค่ดูที่ภาพด้านล่าง
อย่าปล่อยให้เส้นและลายเส้นที่คมชัดพวกนี้ มาทำให้คุณกลัว! ในบทความนี้ เราจะสอนวิธีใช้เครื่องมือที่ซับซ้อนนี้ เพื่อการตัดสินใจซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ
Ichimoku คืออะไร?
Ichimoku Kinko Hyo (IKH) เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิค ที่ซับซ้อนและมีข้อมูลเยอะมาก ในภาษาญี่ปุ่น มันหมายถึงการมองกราฟแบบดุยภาพ ในบทความนี้ เราจะให้คำอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับ วัตถุประสงค์และองค์ประกอบของตัวบ่งชี้ ที่จำเป็นสำหรับกลยุทธ์ของเรา หากคุณต้องการเจาะลึกเรื่องการซื้อขายด้วย Ichimoku เราขอแนะนำให้คุณไปที่ คู่มือ FBS
Ichimoku ประกอบด้วยส่วนใดบ้าง?
ตัวบ่งชี้ Ichimoku ประกอบไปด้วย 5 ส่วนหลักๆ
- Kumo (เมฆ) - องค์ประกอบที่สำคัญของตัวบ่งชี้ ซึ่งเกิดจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 2 ตัวที่ชื่อว่า Senkou Span A และ Senkou Span B ส่วนของเมฆที่อยู่ทางขวาของ ราคาปัจจุบัน (ใน "อนาคต") แสดงให้เห็นถึงดุลอำนาจของตลาด ส่วนของเมฆที่สอดคล้องกับราคาปัจจุบัน จะทำหน้าที่เป็นแนวรับและแนวต้านของราคา
- Kijun-sen (เส้นฐาน) -ระยะยาว 26-period MA
- Tenkan-sen (เส้นเลี้ยว) - ระยะสั้น 9-period MA
- Chinkou Span (เส้นช้า) - ราคาปิดของแท่งเทียนปัจจุบันซึ่งถูกย้ายกลับไป 26 periods
Ichimoku มีประโยชน์อะไร?
Ichimoku มันดีมากๆในตอนที่คุณอยากระบุทิศทาง และความแข็งแกร่งของเทรนด์ นอกจากนี้มันยังช่วยในการตั้งระดับแนวรับและแนวต้าน ที่สำคัญที่สุดสำหรับเราก็คือ Ichimoku สามารถถูกนำไปใช้ ในการสร้างระบบเทรดที่มีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์การซื้อขายรายวันด้วย Ichimoku และ Stochastic Oscillator
สำหรับกลยุทธ์ที่เราจะอธิบายด้านล่างนี้ เราจะใช้ Stochastic Oscillator พร้อมการตั้งค่าที่กำหนดเอง ซึ่งจะใช้เป็นตัวกรอง
กาตั้งค่าพื้นฐานสำหรับการนำกลยุทธ์นี้ไปใช้
กรอบเวลา - D1
คู่เงิน: คู่หลักทั้งหมด
ตัวบ่งชี้: Ichimoku (ค่าเริ่มต้น);
Stochastic Oscillator พร้อมการตั้งค่าต่อไปนี้:
%K period = 5; %D period = 3; Slowing = 3.
กฏในการเปิด long
- รอให้ราคาทะลุขึ้นเหนือเมฆและ Kijun-sen (เส้นสีน้ำเงิน) ราคาควรปิดเหนือองค์ประกอบต่างๆของ Ichimoku ในขณะเดียวกันStochastic oscillator ควรข้ามเข้าไป ในโซนซื้อมากเกินไป
- เปิด buy stop ที่ราคาเปิดของแท่งเทียนแท่งถัดไป
- วาง Stop Loss เริ่มต้นไว้ใต้จุดเข้า 30 pip หลังจากที่ได้กำไร 60-80 pips ให้ย้าย Stop Loss มาไว้ที่จุดเข้า
- วาง Take Profit ไว้ประมาณ 2 เท่าของระยะทาง ระหว่างจุดเข้าและ Stop Loss
ตัวอย่าง: ในกราฟ D1 ของ EUR/USD ราคาถูกซื้อขายอยู่เหนือ Kijun-sen และก้อนเมฆ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน stochastic oscillator ตัดข้ามเข้าไป ในเขตซื้อมากเกินไป เราเปิด long ที่ราคาเปิดของแท่งเทียนแท่งถัดไปที่ 1.1927 วาง Stop Loss ไว้ที่ 1.1897 ซึ่งต่ำกว่าราคาเปิด ประมาณ 30 pip Take Profit อยู่ที่ 1.1987 (เหนือออเดอร์ 60 pip)
กฎสำหรับการเปิดตำแหน่ง short
- ในกรณีนี้ ราคาควรเคลื่อนไหวต่ำกว่าเมฆ และ Kijun-sen (เส้นสีน้ำเงิน) หลังจากที่ราคาปิดต่ำกว่าเส้นเหล่านี้ ให้ดูที่ stochastic oscillator - เส้นของมันควรข้ามเข้าไปในโซนขายมากเกินไป
- เปิด sell ที่ราคาเปิดของแท่งเทียนแท่งถัดไป
- วาง Stop loss เริ่มต้นไว้ต่ำกว่าจุดเข้า 30 pips หลังจากที่ราคาร่วงไป 60-80 pips ให้ย้าย Stop Loss มาไว้ที่จุดเข้า
- วาง Take Profit ไว้ประมาณ 2 เท่าของระยะทาง ระหว่างจุดเข้าและ Stop Loss
ตัวอย่าง: ในกราฟ D1 ของ EUR/USD ราคาเคลื่อนไหว ลงต่ำกว่าเส้นสีน้ำเงินของ Ichimoku และเมฆ ในวันที่ 25 กรกฎาคม stochastic oscillator ข้ามไปในเขตขายมากเกินไป เราวางคำสั่ง sell ที่ราคาเปิดของแท่งเทียนแท่งถัดไป นี่คือระดับ 1.1145 เราวาง Stop Loss ไว้ที่ 1.1175 (เหนือจุดเข้า 30 pips) ส่วน Take Profit วางไว้ที่ 1.1085 (ใต้จุดเข้า 60 pips)
สรุป
ด้วยกลยุทธ์ด้านบนนี้ เทรดเดอร์มือใหม่ก็จะกลัวตัวบ่งชี้ Ichimoku น้อยลง เส้นต่างๆจะแสดงให้คุณเห็นถึงทิศทางของแนวโน้ม และจริงๆแล้วช่วย "ทำนาย" โมเมนตัมถัดไป