จิตวิทยาการซื้อขาย: มองให้ถูกต้อง, ท่อนที่ 1
หากเราวางเรื่องการซื้อขายเอาไว้ก่อน ลองคิดดูว่าเราจะดูแผนภูมิราคายังไง, อะไรที่อาจเป็นจริง และอะไรที่อาจเป็นภาพลวงตา บทสนทนาด้านล่างนี้จะช่วยให้คุณมีกระบวนการพิจารณาสนุกขึ้นและรับรู้ได้ง่ายขึ้นในขณะที่ส่งมอบแนวคิดหลักให้คุณอย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สนุกและจำไว้ว่านี่เป็นเพียงท่อนแรกของการสนทนา ส่วนท่อนที่สองจะถูกนำเสนอให้คุณในไม่ช้า
ฉันอยู่ที่นี่ทำไม?
ฉันจะแสดงให้คุณเห็น คุณเป็นเทรดเดอร์ใช่ป่ะ? แน่นอนถ้าคุณเป็นอย่างอื่นแล้วคุณจะมาที่นี่ทำไม สมมติว่าคุณอยากเทรดทองคำ และมันเป็นเวลาที่ดีในการเทรดทองคำ ...
ใช่รึ?
ใช่สิ แต่ฉันไม่ใช่ที่ปรึกษาส่วนตัวของคุณ อย่างน้อยๆก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ อย่างไรก็ตามคุณอยากเทรดทองคำและรู้สึกว่าคุณอยากเทรดในระหว่างวัน ...
ฉันเทรดในช่วงระหว่างวัน!
เยี่ยมไปเลย งั้นไปที่ H1 เลย
โอเค แล้วคุณจะให้ฉันดูอะไร?
ดูที่กราฟสิ คุณเห็นอะไร?
คุณหมายความว่ายังไง? ฉันเห็นแค่ราคาทองวิ่่งไปวิ่งมาบนพื้นหลังสีดำๆ กราฟเปล่าๆ มีแค่ราคาไม่มีอย่างอื่น
มีอะไรหายไปมั้ย?
ก็มีนะ อย่างพวกแนวรับ แนวต้าน ตัวบ่งชี้ก็ไม่รู้อยู่ตรงไหน ก็ฉันไม่ได้เป็นเทรดเดอร์อัจฉริยะนิจะได้เห็นทุกสิ่งได้ด้วยตาเปล่า! ฉันต้องการระดับต่างๆเพื่อช่วยในการตัดสินใจ ทำให้ทุกสิ่งมองเห็นได้ง่ายขึ้น
ไม่มีปัญหา การซื้อขายของคุณ คุณก็ทำเองสิ วางระดับต่างๆไว้เลยสิ
อะไรนะ คุณทำไม่เป็นเหรอ?
ฉันทำได้ แต่ความงามอยู่ในสายตาของผู้ทำนาย บางทีฉันอาจวางระดับต่างๆในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องและต่อมาคุณจะบอกฉันว่าคุณให้สัญญาณผิด ฯลฯ ดังนั้นจงใส่ด้วยตัวคุณเอง ถ้าคุณไม่มีปัญหาในการรับผิดชอบนะ ...
แน่นอนฉันไม่มีปัญหา! เนี่ยตัวอย่างนี้ก็ชัดเจนเลย: ทุกคนสามารถเห็นการรวมที่ $1,650 เหนือการแนวรับ $1,642 ง่ายจะตาย มันยังได้รับการยืนยันจากความจริงที่ว่าก่อนหน้านี้ราคาทองคำพุ่งลงจากระดับนั้นในตอนที่มันทำหน้าที่เป็นแนวต้านในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม
เยี่ยม เห็นป่ะ? มันง่ายมากๆเลย คุณแค่วางระดับนั้นไว้ที่กราฟ แต่ทำไมมันไม่ต่ำกว่า $1,642? อย่างเช่นที่ $1,640? หรือตรงกันข้ามทำไมมันไม่สูงกว่า อย่างเช่นที่ $1,643?
คุณจะตัดสินความแม่นยำของฉันเหรอ? หากนั่นคือคำถามของคุณ มันก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างอย่างมากกับเงินดอลลาร์เลย ใช่มันจะส่งผลกระทบต่อกำไรลอยตัว ฯลฯ แต่มันก็สมเหตุสมผลที่จะให้วางแนวรับตรงไหนซักที่ในช่วงราคา $1,642
เข้าใจ แต่ทำไมถึงเป็นตรงนั้นโดยเฉพาะล่ะ? คุณสังเกตเห็นอะไรที่ทำให้คุณต้องวางแนวรับในระดับนั้นล่ะ?
คุณเป็นผู้สอบสวนหรือไง? ฉันสังเกตเห็นราคาลงมาที่ระดับ $1,642 และอยู่ที่นั่นซักพักและแม้จะอยู่เหนือมันเล็กน้อยแต่นั่นก็หมายความว่ามันมีการต่อต้านการเคลื่อนไหวลงต่อที่ระดับนั้น
โอเคฉันเข้าใจว่าพวกหมีจะปรากฏตัวเมื่อราคามาถึง $1,642 แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงคิดว่าราคา 1,642 ดอลลาร์ทำให้กระทิงดีดตลาดกลับขึ้นไป สิ่งที่ฉันเห็นนะ: ด้วยเหตุผลบางอย่าง (บางคนอาจจะรู้ แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้แน่ๆ) มีช่วงเวลาหนึ่งที่ความต้องการซื้อทองคำโดยรวมทั้งหมดท่วมท้นความต้องการที่จะขาย และในขณะนั้นราคาอยู่ที่ประมาณ $1,642 ดังนั้นฉันจึงหมายความว่ามันเกิดขึ้นเพราะตัวขับเคลื่อนภายในของตลาดปรากฏตัวที่ราคา $1,642 แต่ราคา $1,642 เองไม่ได้เป็นหนึ่งในเหตุผลนั้น
ฉันไม่เข้าใจ
โอเค ลองนึกภาพดูนะว่าคุณออกจากบ้านไปทำงาน ตอนนั้นคุณกำลังเดินทางไปยังสถานีรถไฟใต้ดินหรือสถานีขนส่ง แต่พอเดินถึงต้นไม้ต้นหนึ่งคุณก็นึกขึ้นได้ว่าคุณลืมปิดเตาอบ คุณก็เลยเดินย้อนกลับบ้านทันทีเพื่อไปปิดเตาอบ อีกฝั่งของถนนมีชายชราคนหนึ่งที่มองเห็นคุณทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคนทั่วไปและคิดว่า: “แปลกมากคนๆนี้หันหลังกลับเพราะต้นโอ๊ก” …
คุณสนุกกับการพูดคุยแบบปริศนามั้ย?
ใช่ แต่ด้วยสิ่งนี้ ฉันแค่ต้องการแสดงให้คุณเห็นว่าในสถานการณ์นี้ต้นไม้ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเหตุผลที่คุณเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของคุณ มันเพิ่งเกิดขึ้นที่นั่นเมื่อคุณจำบางสิ่งบางอย่างได้และตัดสินใจหยุดตรงนั้นและย้อนกลับ เหตุผลที่แท้จริงนั้นอยู่ภายในตัวคุณ - ความจริงที่ว่าคุณจำได้และตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางของคุณ ในขณะเดียวกัน ส่วนสถานการณ์ภายนอกก็เป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นแบบสุ่มซึ่งในกรณีนี้มันเป็นต้นไม้ แต่คุณสามารถย้อนกลับช่วงเวลาอื่นใดได้ในรถไฟใต้ดิน, ในรถบัส, ที่อื่นๆ และสิ่งภายนอกเหล่านั้นจะเป็นเพียงสถานการณ์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเวลา, ตำแหน่ง และเหตุผลที่คุณย้าย
ก็จริง แล้วไงต่อ?
นี่คือวิธีที่มันเกิดขึ้น: มีผู้สังเกตการณ์, มีปรากฏการณ์ และมีสถานการณ์ ในสถานการณ์สมมติของเรา ชายชราคือผู้สังเกตการณ์ - ที่เฝ้าดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การที่คุณเดินย้อนกลับ - นั้นเป็นปรากฏการณ์,เหตุการณ์ที่ถูกจับตามองโดยชายชรา และต้นไม้เป็นสถานการณ์ - มันแค่อยู่แถวๆนั้นในตอนที่คุณย้อนกลับ
ทีนี้คุณได้อะไรจากมัน?
จะบอกว่ามนุษย์อย่างเราๆมักจะเชื่อมโยงปรากฏการณ์ต่างๆเข้ากับสถานการณ์ของตัวเอง เช่น สร้างความสัมพันธ์ของสองสิ่ง ในขณะที่ในความเป็นจริงอาจไม่มีความสัมพันธ์ใดๆเลยก็ได้ ในกรณีของเรา ต้นไม้ที่อยู่ตรงนั้นมันไม่ได้บังคับให้คุณหยุด มันเป็นเพียงของตกแต่งบนเวที
พอก่อนเรื่องปรัชญา คุณจะเอามันมาใช้กับกราฟยังไง?
คุณกำลังดูราคาทองคำ - ถือว่าเป็นผู้สังเกตการณ์ ราคาหยุดที่ $1,642 - นั่นเป็นปรากฏการณ์ และ $1,642...
…เป็นแค่ของประดับบนเวทีป่ะ?
ถูกต้องนะคร๊าบ ระดับ $1,642 ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ราคาหยุดลง ราคามันแต่หยุดลงตรงนั้นเฉยๆแต่มันอาจเป็นระดับอื่นๆก็ได้ ดังนั้นจึงไม่มีแนวรับที่ $1,642 ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆระหว่างระดับนั้นกับการเคลื่อนไหวของราคา $1,642 ไม่ส่งผลต่อแรงกระตุ้นของกระทิงหรือหมี พูดง่ายๆก็คือมันเป็นแค่เรื่องบังเอิญที่กราฟกระทิงของคุณเอาชนะหมีได้ในตอนที่ราคาอยู่ที่ $1,642 ดังนั้นระดับนี้ไม่ได้สนับสนุนอะไรหรือใครทั้งนั้น มันไม่มีอยู่จริง
เดี๋ยวนะ แต่เทรดเดอร์ทุกคนก็ดูกราฟเดียวกัน พวกเขาเห็นผลของการกระทำโดยรวมทันทีหรืออย่างน้อยพวกเขาก็เห็นว่าราคาเคลื่อนไหวไปไหนในขณะที่พวกเขาทำการซื้อขาย
จริง แต่ให้เรามาดูกันตามความจริง คุณคิดจริงๆหรือว่าเทรดเดอร์หลายล้านคนทั่วโลกนั่งดูหน้าจอแล้วคิดว่า “โอเคตอนนี้ราคากำลังมาถึง $1,642 - ไม่มีทาง! ฉันจะไม่ปล่อยให้ราคาร่วงลงไปต่ำกว่านี้! แก…จะ…ผ่านไป…ไม่ได้!”
โอเค เช่นนั้นคุณกำลังบอกว่าในความเป็นจริงมันไม่มีระดับแนวรับหรือแนวต้าน และเทรดเดอร์เพียงแค่เห็นสิ่งที่ดูเหมือนเป็นธรรมกับพวกเขาและวางระดับของพวกเขาตามลักษณะที่ปรากฏงั้นหรือ?
เดี๋ยวเราหยุดตรงนี้ก่อนนะ แล้วพิจารณาสิ่งที่เราได้ผ่านมาแล้วโดยไม่คาดการณ์ผลสรุปล่วงหน้า ความต่อเนื่องของบทสนทนานี้จะถูกนำเสนอในท่อนที่สองเร็วๆนี้