เทรดตามแนวโน้ม vs. เทรดสวนแนวโน้ม

อ่านบทความบนเว็บไซต์ของ FBS

หนึ่งในหลักการของการวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการเคลื่อนไหวของราคาในแนวโน้ม ทุกแนวโน้มประกอบด้วยช่วงเวลาที่ราคาเคลื่อนไหวไปตามทิศทางของแนวโน้มนี้และช่วงเวลาสั้น ๆ ของการปรับฐานของแนวโน้มที่สวนทางกัน

กลยุทธ์การเทรดตามแนวโน้มบ่งบอกว่าเทรดเดอร์เปิดตำแหน่งตามทิศทางของแนวโน้มหลัก กล่าวอีกนัยหนึ่งคือพวกเขาซื้อในแนวโน้มขาขึ้นและขายในแนวโน้มขาลง เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเข้าสู่ตลาดโดยใช้แนวทางนี้คือเมื่อการปรับฐานสิ้นสุดลงและแนวโน้มหลักกลับมาดำเนินต่อ คาถาสุดโปรดของเทรดเดอร์คือ “ซื้อต่ำและขายสูง”

เทรดเดอร์ที่เทรดสวนแนวโน้มไม่อยากรอให้การปรับฐานเสร็จสิ้นไปก่อน หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น พวกเขาก็สามารถเข้าขายเมื่อราคากลับตัวจากแนวต้านและตั้งเป้าหมายไว้ใกล้กับแนวรับ แรงจูงใจของพวกเขาคือราคาต้องพุ่งสูงเกินไปมาก ๆ แล้วจนมีแนวโน้มว่ามันจะต้องร่วงลง อย่างน้อยก็ในช่วงหนึ่ง ๆ

วิธีการเหล่านี้มีความเสี่ยงเหมือนกันหรือไม่? วิธีไหนที่สามารถสร้างผลกำไรให้กับเทรดเดอร์ได้มากกว่ากัน? มาดูกันเลย

การเทรดตามแนวโน้ม

การเทรดตามแนวโน้มคือความพยายามที่จะทำกำไรโดยการวิเคราะห์โมเมนตัมของสินทรัพย์ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เมื่อราคาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียว เช่น ขึ้นหรือลง สิ่งนั้นเรียกว่า แนวโน้ม

เทรดเดอร์ตามแนวโน้มจะเข้าซื้อเมื่อสินทรัพย์มีแนวโน้มสูงขึ้น จุดต่ำสุดของการแกว่งตัวที่สูงขึ้นและจุดสูงสุดของการแกว่งตัวที่สูงขึ้นบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น ในทำนองเดียวกัน เทรดเดอร์ตามแนวโน้มสามารถเข้าขายได้เมื่อราคาสินทรัพย์เคลื่อนตัวลง จุดต่ำสุดของการแกว่งตัวที่ต่ำลงและจุดต่ำสุดของการแกว่งตัวที่สูงขึ้นบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง

กลยุทธ์การซื้อขายตามแนวโน้มถือว่าสินทรัพย์จะยังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับที่แนวโน้มที่ดำเนินอยู่ กลยุทธ์ดังกล่าวมักจะมีการกำหนดจุด Take Profit หรือ Stop Loss เพื่อล็อกกำไรหรือหลีกเลี่ยงการขาดทุนจำนวนมากในกรณีที่แนวโน้มกลับตัว การเทรดตามแนวโน้มมักจะใช้โดยเทรดเดอร์ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

เทรดเดอร์ส่วนใหญ่สามารถระบุแนวโน้มปัจจุบันได้ ความยุ่งยากของพาร์ตนี้ก็คือการตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร มาดูตัวอย่างแนวโน้มขาขึ้นกันต่อเลย การเทรดตามแนวโน้มหมายความว่าคุณจะเข้าซื้อที่แนวรับหรือแนวต้านที่ถูกทำลาย ในกรณีแรก คุณจะใช้เครื่องมือ เช่น เส้นแนวโน้มและ Fibonacci retracement ในกรณีที่สอง คุณสามารถใช้รูปแบบของกราฟที่ต่อเนื่อง เช่น สามเหลี่ยม ธง และลิ่ม

trend trading EURUSD.png

เทรดเดอร์บางรายจะเข้าซื้อที่จุดที่ 1 (เส้นแนวรับและระดับ Fibonacci retracement) หรือจุดที่ 2 (การพุ่งทะลุของรูปแบบ "ธง") เทรดเดอร์บางรายจะรอให้ถึงจุดที่ 3 (การพุ่งทะลุเหนือระดับสูงสุดก่อนหน้า) แน่นอนว่า ยิ่งคุณซื้อที่ราคาถูกมากเท่าไร คุณก็ยิ่งได้กำไรมากขึ้นเท่านั้น

Take profit

คุณสามารถกำหนดเป้าหมายกำไรของคุณที่จุดสูงสุดก่อนหน้าของแนวโน้มขาขึ้น (จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง) หรือแม้แต่ระดับที่สูงกว่านั้นหากคุณมั่นใจในการซื้อขายของคุณมาก ๆ

Stop Loss

โปรดทราบว่าเมื่อคุณเคลื่อนไหวไปตามแนวโน้ม คุณสามารถใช้ Trailing Stop ที่ขยับตามแนวโน้มได้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจขยับตำแหน่ง Stop Loss อาจไม่ง่ายนัก ความเสี่ยงคือการกลับตัวของราคาจะทำให้ตลาดวิ่งมาชนกับ Stop Loss ของคุณและปิดคำสั่งซื้อขายของคุณได้

Scaling in

มันอนุญาตให้คุณเปิดตำแหน่งเพิ่มได้ขณะที่คุณติดตามแนวโน้ม หากตลาดเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่คุณต้องการแล้ว และคำสั่งซื้อขายของคุณได้กำไรแล้ว การทำเช่นนี้จะเป็นการเพิ่มผลกำไรที่เป็นไปได้ของคุณ อย่าลืมปรับการจัดการความเสี่ยงของคุณด้วยหากคุณทำใช้คำสั่งนี้ คุณอาจวางแผนที่จะเริ่มต้นด้วยการซื้อขายในขนาดที่เล็กกว่าปกติ (เช่น ซื้อที่จุดที่ 1) แล้วจึงเพิ่มขนาดขึ้นเมื่อราคาอยู่เหนือจุดที่ 2 กลยุทธ์นี้จะช่วยลดความเสี่ยงของคุณได้

การเทรดสวนแนวโน้ม

แนวโน้มที่สวนทางคือการปรับฐานราคาของสินทรัพย์เมื่อเทียบกับแนวโน้มหลัก พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและมีการดึงกลับ การดึงกลับไปสู่ขาลงถือเป็นแนวโน้มที่สวนทาง เพราะมันสวนทางกับแนวโน้มของตลาดเดิม

กลยุทธ์การซื้อขายสวนทางกับแนวโน้มคือความพยายามในการทำกำไรเล็กน้อยโดยการเปิดการซื้อขายสวนกับแนวโน้มหลัก การเทรดสวนแนวโน้มเป็นรูปแบบหนึ่งของการเทรดแบบ Swing ซึ่งอนุมานว่าแนวโน้มของตลาดในปัจจุบันจะมีการกลับตัวหรือดึงกลับ จากนั้นจึงพยายามทำกำไรจากการดึงกลับเมื่อแนวโน้มปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป กลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์ระยะกลาง โดยจะถือตำแหน่งไว้สองสามวันหรือสองสามสัปดาห์

เทรดเดอร์บางรายที่ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อผลกำไรก็ใช้การดึงกลับขณะที่รักษาตำแหน่งหลักตามทิศทางของแนวโน้ม กลยุทธ์การเทรดสวนแนวโน้มใช้ตัวบ่งชี้โมเมนตัม ระดับแนวรับและแนวต้าน และรูปแบบแท่งเทียนเพื่อระบุจุดเข้าสู่ตลาดที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ที่ใช้วิธีนี้จำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องการดำเนินต่อของแนวโน้มปัจจุบันที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า ดังนั้น เมื่อเทรดด้วยกลยุทธ์นี้ ควรใช้เทคนิคการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่น คำสั่ง Stop Loss และขนาดตำแหน่งขั้นต่ำ เพื่อจำกัดการขาดทุน

เทรดเดอร์ที่ใช้แนวทางนี้รับสัญญาณจากรูปแบบแท่งเทียนที่กลับตัว (แท่งเทียน Pin bar, รูปแบบ Morning star หรือ Evening star ฯลฯ) พวกเขายังใช้ออสซิลเลเตอร์อย่างเช่น MACD หรือ RSI เพื่อดูว่าตลาดอยู่ในช่วงซื้อมากเกินไป (overbought) หรือขายมากเกินไป (oversold) หรือไม่ และมีความแตกต่างระหว่างราคาและตัวบ่งชี้หรือไม่ หากสัญญาณเหล่านี้ปรากฏขึ้น แสดงว่าเทรดเดอร์เปิดตำแหน่งสวนทางกับแนวโน้มก่อนหน้า

USDCADH1_counter_trading.png

เทรดเดอร์อาจตัดสินใจเข้าขายที่จุดที่ 1 เนื่องจากมีการก่อตัวของแท่งเทียนที่มีไส้เทียนยาว ๆ ด้านบน (สัญญาณลบ) และ MACD ไม่ได้ยืนยันการเพิ่มขึ้นของราคา

Take profit

มันไม่ง่ายเลยที่จะหาตำแหน่งที่จะเก็บกำไรเมื่อคุณเทรดสวนทางกับแนวโน้ม ความท้าทายคือต้องไม่โลภมากเกินไป จำไว้ให้ดีว่าคุณเดิมพันกับตลาด บางแนวโน้มก็อาจกลายเป็นตลาดแบบไซด์เวย์ที่จำกัดกำไรของตำแหน่งที่เทรดสวนแนวโน้ม แนวโน้มเริ่มต้นอาจกลับมาดำเนินต่อได้อย่างรวดเร็วและไม่ปล่อยให้ราคาได้ปรับฐานมากนัก ดังนั้นจึงควรระมัดระวังและจัดการความเสี่ยงให้ดี

Stop Loss

การวางคำสั่ง Stop Loss ในการเทรดสวนแนวโน้มถือเป็นเรื่องปกติ เทรดเดอร์วาง Stop Loss ไว้หลังจุดสูงสุดของราคาที่เริ่มมีการปรับฐาน โดย Stop Loss มีแนวโน้มที่จะมีขนาดเล็กกว่าที่คุณใช้เวลาที่คุณเทรดตามแนวโน้ม

Scaling in

มันไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะเข้าไปยุ่งกับขนาดตำแหน่งของคุณเมื่อคุณเทรดสวนแนวโน้ม คำสั่งซื้อขายนั้นอาจเป็นระยะที่สั้นมาก ๆ ดังนั้นคุณจึงเสี่ยงที่จะทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สบายใจหากคุณพยายามเพิ่มคำสั่งซื้อขายเข้าไป และอย่าได้เพิ่มตำแหน่งที่สูญเสียเข้าไปเชียวล่ะ เพราะอาจทำให้ขาดทุนมากยิ่งขึ้น

ในวิดีโอใหม่ของเรา เราจะพูดถึงการเทรดตามแนวโน้มและการเทรดสวนแนวโน้มอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้นกัน

สรุป

ดังที่คุณเห็น วิธีการเทรดทั้งสองแบบมีลักษณะเฉพาะตัว ทั้งสองวิธีสามารถสร้างสัญญาณการเทรดที่ดี ถึงอย่างนั้นแต่ละวิธีก็ต้องมีกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงของตนเอง ความรู้ทั่วไปของเทรดเดอร์คือการเทรดสวนแนวโน้มนั้นต้องใช้ประสบการณ์มากพอสมควร และเทรดเดอร์มือใหม่ควรเริ่มต้นจากการเทรดตามแนวโน้มก่อน ฝึกเทรดนะและดูว่าวิธีไหนเหมาะกับคุณ!

FBS Analyst Team

แบ่งปันกับเพื่อน:

คล้ายกัน

เปิดทันที

FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา