-
จะเริ่มเทรดอย่างไร?
หากคุณอายุ 18 ปีขึ้นไปคุณสามารถเข้าร่วม FBS ได้และเริ่มต้นการเดินทาง FX ของคุณ ในการซื้อขายคุณจะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และมีความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน เริ่มด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย สื่อการเรียนรู้ฟรี และ สร้างบัญชี FBS คุณอาจต้องการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยเงินเสมือนจริงผ่านบัญชีทดลอง เมื่อคุณพร้อมเข้าสู่ตลาดจริงแล้ว ก็เริ่มทำการซื้อขายเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ
-
จะเปิดบัญชี FBS ได้อย่างไร?
คลิกปุ่ม ‘เปิดบัญชี’ บนเว็บไซต์ของเราแล้วไปที่ Personal area ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขายได้ คุณจะต้องผ่านการตรวจสอบโปรไฟล์, ยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ, และผ่านการยืนยัน ID ของคุณ ขั้นตอนนี้มีไว้เพื่อรับประกันความปลอดภัยของเงินทุนและตัวตนของคุณ เมื่อคุณตรวจสอบทั้งหมดเสร็จแล้วให้ไปที่แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการแล้วเริ่มทำการซื้อขาย
-
จะถอนเงินที่ทำได้กับ FBS ได้อย่างไร?
ขั้นตอนนั้นตรงไปตรงมามาก ไปที่หน้า การถอนเงิน บนเว็บไซต์หรือส่วนการเงินของ FBS Personal area แล้วถอนเงิน คุณจะรับเงินที่ถอนผ่านระบบการชำระเงินเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงิน ในกรณีที่คุณฝากเงินเข้าบัญชีด้วยวิธีการอื่น คุณต้องถอนกำไรของคุณผ่านวิธีเดียวกันในยอดเดียวกันกับจำนวนเงินที่ฝาก
การวิเคราะห์ตลาดด้วยตัวบ่งชี้ Advance/Decline Line
อัปเดทแล้ว • 2023-01-27
การซื้อขายดัชนีอาจเป็นทางเลือกที่ไม่ธรรมดา ถึงกระนั้น มันก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดหุ้นและดูอิทธิพลของหุ้นต่าง ๆ ที่มีต่อดัชนี บทความนี้จะบรรยายให้คุณได้อ่านเกี่ยวกับตัวบ่งชี้ Advance/Decline Line ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการซื้อขายดัชนีโดยเฉพาะ
ตัวบ่งชี้ Advance/Decline Line เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมน้อยกว่าตัวบ่งชี้การซื้อขายอื่น ๆ อย่างเช่น RSI Stohastics และ MACD แม้ว่าตัวบ่งชี้อื่น ๆ ดังกล่าวจะอิงตามโมเมนตัม ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อระบุความแข็งแกร่งหรือความอ่อนแรงของหุ้น แต่ตัวบ่งชี้ A/D Line จะมีลักษณะเฉพาะตรงที่มันเป็นตัวบ่งชี้ภาวะตลาดแบบกว้าง ๆ ที่จะแสดงจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายที่มีส่วนร่วมในการปรับตัวขึ้นหรือปรับตัวลงของตลาดหุ้น
บทความนี้จะพูดคุยถึงเรื่องราวของตัวบ่งชี้ A/D และการนำมันไปประยุกต์ใช้ในตลาดหุ้น คุณสามารถเพิ่มตัวบ่งชี้นี้เข้าไปใน Metatrader ได้และสามารถนำมันไปใช้กับสินทรัพย์ได้ทุกประเภทโดยไม่จำกัดแค่ที่หุ้นและดัชนี
Advance/Decline Line คืออะไร?
Advance/Decline Line (ADL) เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่จะแสดงความแตกต่างระหว่างจำนวนหุ้นที่ขึ้นและลงในแต่ละวัน ส่วนใหญ่แล้วตัวบ่งชี้นี้จะถูกนำไปใช้ในการซื้อขายหุ้นและดัชนี มันจะแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของหุ้นในการปรับตัวขึ้นหรือปรับตัวลงของตลาด
ดัชนีที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาด ดัชนีประเภทนี้จะถูกเรียกอีกอย่างว่าดัชนีถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด น้ำหนักของหุ้นตัวใดตัวหนึ่งจะถูกกำหนดโดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดทั้งหมด ในดัชนีดังกล่าว หุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่าจะมีน้ำหนักมากกว่า และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ของราคาหุ้นจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของดัชนีมากกว่า ตัวอย่างเช่น ใน S&P 500 หุ้น Apple จะมีน้ำหนักมากที่สุด
เนื่องจากมีดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาดอยู่หลายตัวมาก เช่น S&P 500, DJIA และ NASDAQ Composite ดังนั้นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงกว่าก็จะมีอิทธิพลอย่างไม่สมส่วนต่อผลประกอบการของดัชนี ด้วยเหตุนี้ ADL จึงแสดงให้เห็นว่าหุ้นตัวใดของดัชนีของหุ้นที่มีส่วนร่วมในทิศทางตลาด
ตัวอย่างเช่น หากดัชนีหุ้นที่ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น 3% เทรดเดอร์จะต้องรู้เรื่องสำคัญสองประการด้วยกัน ประการแรก มันสำคัญมากที่ต้องเข้าใจว่าการปรับตัวขึ้นของดัชนีนั้นเกิดจากการที่หุ้นส่วนใหญ่พุ่งขึ้นหรือไม่ ประการที่สอง เทรดเดอร์ต้องรู้ว่าการเพิ่มขึ้นของดัชนีเป็นผลมาจากผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมของบริษัทที่มีน้ำหนักมากในดัชนีหรือไม่ ซึ่ง A/D Line สามารถให้ข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นได้
สูตรการคำนวณของ Advance/Decline Line
A/D Line นั้นคำนวณและทำความเข้าใจได้ไม่ยาก โดยหลักการแล้ว A/D Line จะมีสามองค์ประกอบ องค์ประกอบแรกคือหุ้นที่พุ่งขึ้น องค์ประกอบที่สองคือหุ้นที่ร่วงลง และองค์ประกอบที่สามคือหุ้นที่พุ่งขึ้นสุทธิก่อนหน้า
หุ้นที่พุ่งขึ้นหมายถึงจำนวนหุ้นทั้งหมดภายในดัชนีตลาดที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในวันที่ผ่านมา หุ้นที่ร่วงลงหมายถึงจำนวนหุ้นทั้งหมดภายในดัชนีตลาดที่มีมูลค่าลดลงในวันที่ผ่านมา และสุดท้าย หุ้นที่พุ่งขึ้นสุทธิก่อนหน้าหมายถึงผลรวมสุทธิของหุ้นที่พุ่งขึ้นและร่วงลงในวันที่ผ่านมา
มาสรุปกัน:
โดยที่:
หุ้นที่พุ่งขึ้น หมายถึง จำนวนหุ้นที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกวัน
หุ้นที่ร่วงลง หมายถึง จำนวนหุ้นที่มีมูลค่าลดลงทุกวัน
หุ้นที่พุ่งขึ้นสุทธิก่อนหน้า หมายถึง ผลรวมสุทธิของหุ้นที่พุ่งขึ้นและร่วงลงในแต่ละวัน
Advance/Decline Line ใน MetaTrader
ตัวบ่งชี้ A/D Line จะไม่มีอยู่ในรายการตัวบ่งชี้มาตรฐาน คุณต้องติดตั้งมันด้วยตัวเอง ซึ่งคุณสามารถทำได้ดังต่อไปนี้:
- ก่อนอื่น ให้ดาวน์โหลด Advance Decline Line สำหรับ MT5 ในรูปแบบ .mq5 แต่สำหรับ MT4 คุณต้องใช้ .mq4
- จากนั้น ให้เปิดแพลตฟอร์ม MT4 หรือ MT5 แล้วไปที่ File - Open Data Folder จากนั้นเลือก MQL4/5 - Experts หรือ Indicators แล้วถ่ายโอนไฟล์ตัวบ่งชี้ในรูปแบบ MQL4/EX4 หรือ MQL5/EX5 ไปยังโฟลเดอร์นี้
- เริ่มต้นหรือรีสตาร์ต Metatrader 4/5 ของคุณ
- เลือกกราฟและกรอบเวลาที่คุณต้องการทดสอบตัวบ่งชี้ MT5 ของคุณ
- คลิกที่ “Insert” จากนั้นเลือก “Indicators” แล้วคุณจะเห็น “Advance/decline Line” ในเซกชัน “Custom Indicators”
- หลังจากแก้ไขการตั้งค่าแล้ว ให้กดตกลง แล้ว Advance/Decline Line จะพร้อมใช้งานบนกราฟของคุณ
สัญญาณของ Advance/Decline Line
A/D Line จะให้สองสัญญาณหลัก ๆ เดี๋ยวเราไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
ความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
สัญญาณแรก เทรดเดอร์สามารถนำมาใช้เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มได้ เราได้พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เดี๋ยวเรามาย้ำกันอีกครั้ง: เมื่อ A/D Line เคลื่อนตัวขึ้นพร้อม ๆ กับการเคลื่อนที่ของราคา มันจะบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแรง
มีหุ้นจำนวนมากเข้าร่วมในแนวโน้มขาขึ้น และคาดว่าการเคลื่อนไหวของราคาจะปรับตัวสูงขึ้นต่อ ส่วนในตอนที่เส้นเคลื่อนตัวลงพร้อม ๆ กับที่ราคาเคลื่อนที่เป็นขาลง มันจะเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลงที่แข็งแรง จึงคาดว่าราคาจะปรับตัวลงต่อ
ด้านล่างนี้ เราจะเห็นตัวอย่างกราฟราคาของ S&P 500 ที่ใช้ A/D Line ในการยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มของราคา ณ ปัจจุบัน
ราคาของ S&P 500 และเส้น Advance/Decline Line ต่างเคลื่อนตัวไปในทิศทางของแนวโน้มขาขึ้นเหมือนกัน A/D Line จะยืนยันการเคลื่อนไหวของราคาด้วยการพุ่งขึ้น สิ่งนี้จะบ่งชี้ถึงการมีส่วนร่วมในวงกว้างของหุ้นในแนวโน้มขาขึ้นนี้ และให้การยืนยันแนวโน้มราคาได้ในระดับหนึ่ง
การกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น
สัญญาณที่สอง เทรดเดอร์สามารถใช้ A/D Line เพื่อระบุจุดหมุนที่เป็นไปได้ ในจังหวะที่อาจเกิดการกลับตัวในแนวโน้มขาขึ้น ณ ปัจจุบัน เราควรคาดว่าการเคลื่อนไหวของราคาจะทำจุดสูงสุดที่ยกตัวขึ้น ส่วนเส้น A/D Line จะทำจุดสูงสุดที่กดตัวลง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะถูกเรียกว่า Bearish Divergence ระหว่างราคาและ A/D Line
ในทางกลับกัน เราสามารถระบุการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง ณ ปัจจุบันโดยการศึกษากราฟราคาและมองหาจุดต่ำสุดของการแกว่งตัวที่กดตัวลงเรื่อย ๆ ในขณะที่เส้น A/D Line กำลังทำจุดต่ำสุดที่ยกตัวขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะถูกเรียกว่า Bullish Divergence ระหว่างราคาและ A/D Line
ด้านล่างนี้ คุณจะเห็นตัวอย่างของกราฟราคา NASDAQ ที่ใช้ A/D Line ในการระบุการเกิด Divergence ระหว่างราคาและ A/D Line
การเคลื่อนไหวของราคา NASDAQ ได้สร้างจุดต่ำสุดที่สำคัญสองจุด โดยจุดต่ำสุดที่สองจะต่ำกว่าจุดต่ำสุดจุดแรก ในขณะเดียวกัน เส้น A/D Line ได้สร้างรูปแบบที่จุดต่ำสุดที่สองสูงกว่าจุดต่ำสุดจุดแรก สิ่งที่เกิดขึ้นได้สร้าง Bullish Divergence ระหว่างราคาและ A/D Line
ตัวอย่างของการใช้งาน Advance/Decline Line
กราฟด้านล่างนี้จะแสดงเส้น A/D Line ของดัชนี S&P 500 กราฟนี้แสดงให้เห็นราคาที่ร่วงลงอย่างรวดเร็วในตอนที่มีการประกาศการระบาดของโควิดในปี 2020 สิ่งนี้ได้เกิดขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนของหุ้นที่ร่วงลง และปริมาณการซื้อขายที่ลดลงในดัชนี S&P 500
หลังจากนั้นไม่นาน ตัวบ่งชี้ก็ได้พุ่งขึ้นตามจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น และปริมาณการซื้อขายของพวกมันที่เพิ่มขึ้น
อุปสรรคในการใช้งาน Advance/Decline Line
A/D Line ไม่ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเสมอไปสำหรับหุ้นต่าง ๆ ใน NASDAQ เนื่องจาก NASDAQ มักจะแสดงรายชื่อบริษัทขนาดเล็กที่มีผลตอบแทนและความเสี่ยงสูง ซึ่งหลายบริษัทก็จบลงด้วยความล้มเหลวหรือถูกเพิกถอน แม้ว่าหุ้นหลายตัวจะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ แต่หุ้นเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ในค่าของ A/D Line ที่ถูกคำนวณไว้ก่อนหน้านี้ สิ่งนี้จะส่งผลต่อการคำนวณในอนาคตที่จะถูกเพิ่มเข้าไปยังมูลค่าสะสมก่อนหน้า ด้วยเหตุนี้ บางครั้งเส้น A/D Line จะดิ่งลงเป็นระยะเวลานาน แม้ว่าราคาดัชนี NASDAQ จะกำลังปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างคือดัชนีบางตัวจะถูกถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาด ซึ่งหมายความว่ายิ่งบริษัทมีขนาดใหญ่เท่าไร มันก็ยิ่งมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีมากขึ้นเท่านั้น แต่ A/D Line จะให้น้ำหนักหุ้นทุกตัวเท่ากัน ดังนั้น มันจึงเป็นตัวบ่งชี้ที่เหมาะสมกับหุ้นของบริษัทขนาดกลาง ๆ ที่มีมูลค่าตลาดน้อยถึงปานกลาง แต่ไม่เหมาะกับหุ้นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงหรือมหาศาล
สรุป
Advance/Decline Line เป็นตัวบ่งชี้ที่ยอดเยี่ยมที่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาภายในดัชนีตลาดที่สำคัญ สัญญาณการซื้อขายที่น่าเชื่อถือที่สุดที่ได้จาก A/D Line คือสัญญาณการเกิด Divergence เทรดเดอร์ควรให้ความสนใจกับสัญญาณ Bullish หรือ Bearish Divergence ระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาและ A/D Line เหตุการณ์เหล่านี้มักจะนำไปสู่การกลับตัวของตลาด ซึ่งสามารถทำกำไรได้พอสมควร
