หากคุณคิดจะทำการซื้อขายเต็มเวลา คุณต้องเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับหลายความท้าทาย เทรดเดอร์จำนวนมากไม่สามารถรับมือกับแรงกดดันทางจิตใจและเตรียมพร้อมสำหรับความล้มเหลว
การซื้อขาย: เร็วและช้า
อัปเดทแล้ว • 2023-01-25
กี่ครั้งแล้วล่ะที่คุณได้ตัดสินใจโดยไม่คิดให้รอบคอบ? บ่อยมากสินะ - ไปเผชิญหน้ากับมันกัน ในบรรดาการตัดสินใจเหล่านั้น คงมีหลายครั้งที่คุณรู้สึกเสียใจ ในทางตรงกันข้ามการคิดวิเคราะห์อย่างละเอียดนั้น ใช้เวลามากกว่า แต่ช่วยให้คุณเข้าใจงานที่ซับซ้อน ความแตกต่างระหว่างการตัดสินใจง่ายๆและที่ต้องผ่าน การวิเคราะห์ก่อนนั้นเป็นหัวข้อหลักของ "Thinking, Fast and Slow" หนังสือที่เขียนโดย Daniel Kahneman นักเศรษฐศาสตร์ ชื่อดังและผู้ชนะรางวัลโนเบล หนังสือเล่มนี้อธิบายถึงวิธีการที่ผู้คนตัดสินใจ และทำไมจึงมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ในบทความนี้เราจะพยายามที่จะประยุกต์ใช้สิ่งที่ได้ จากประเด็นหลักเข้ากับกิจกรรมการเทรด
2 ระบบการคิด
ตามหนังสือแล้ว เรามี 2 ระบบการคิด - ระบบที่ 1 และ ระบบที่ 2 ระบบแรกเป็นแบบอัตโนมัติ ซึ่งคุณใช้มันแทบจะทันที นี่เป็นวิธีการทำงานของสมองของคุณ: มันจะเห็น ปัญหา, เปรียบเทียบกับประสบการณ์ในอดีต, แล้วนำเสนอวิธีแก้ไขปัญหา ในบางสถานการณ์ชีวิต การตัดสินใจก็ใข้เวลาเพียงแค่ กระพริบตาครั้งเดียว ตัวอย่างเช่น คุณใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะรู้ว่ากลิ่นที่ คุณสัมผัสได้นั้นเป็นกลิ่นของโดนัทสุดโปรดของคุณ? ให้เราเดานะ คงแค่ไม่กี่วินาที ส่วนระบบที่ 2 ต้องใช้การวิเคราะห์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ระบบนี้คุณต้องใช้ทักษะ, ความรู้ และการทำงานของ สมองของคุณให้ลึกลงไปอีก
ไปดูกันว่าทั้งสองระบบนี้ทำงานอย่างไรในการเทรด ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์จะคิดถึงอะไร หากเขาอ่านข่าวด้านล่างนี้?
ความคิดแว๊บแรกที่เข้ามาในหัวของเทรดเดอร์ทุกคนคือ ได้เวลาเข้าซื้อสินทรัพย์แล้วล่ะสิ! จิตใจของคุณจะทำ การคัดเลือกสินทรัพย์เสี่ยงที่คุณรู้จัก (รวมถึงหุ้น, สกุลเงิน, สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี ฯลฯ )
แต่คุณควรจะซื้ออะไรล่ะถึงจะไม่มีความผิดพลาด? เพื่อที่จะตอบคำถามนี้ ระบบที่ 2 ก็จะทำงานแล้วคุณก็เริ่ม ทำการวิเคราะห์ว่าตอนนี้สินทรัพย์ตัวไหนที่คุ้มค่าแก่การเทรด คุณมองหาการยืนยันต่างๆเช่นรูปแบบแท่งเทียน, รูปแบบแผนภูมิ, และระดับสำคัญต่างๆ หลังการวิเคราะห์เป็นอย่างดีผ่านระบบ 2 เท่านั้นคุณถึงจะทำการตัดสินใจ
การทำให้เข้าใจง่ายนั้นขึ้นอยู่กับระบบ 1
แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วระบบ 1 จะมีความแม่นยำ แต่ก็มีหลายสถานการณ์ที่มันช้าไป ในความเป็นจริง ระบบที่ 1 บางครั้งก็หาคำตอบที่ง่ายกว่า คำถามที่ถูกถาม
ตัวอย่างเช่น หลังจากได้ยินเรื่องว่าตลาดกำลังพุ่งขึ้น คุณอาจกระโดดเข้าไปเทรดโดยไม่คิดให้ดีก่อน มันเกิดขึ้นด้วยอารมณ์ล้วนๆและกลัวจะตกรถ ถึงแม้คุณจะคาดหวังความสำเร็จ แต่ตลาดก็หันไป ในทิศทางที่แตกต่าง นั่นเป็นเพราะว่าคุณได้มองข้ามสัญญาณสำคัญที่บ่งชี้ ถึงการเปลี่ยนแนวโน้ม
WYSIATI: What you see is all there is หรือสิ่งที่คุณเห็นคือทั้งหมดที่มี
อีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจที่ Mr. Kahneman ให้ความสนใจคือ WYSIATI - what you see is all there is วลีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปรากฏการณ์ของการสรุป ตามข้อมูลที่จำกัด ผลของ WYSIATI ก็คือเทรดเดอร์อาจสรุปเรื่องตลาด ไปแบบผิดๆตามข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัด ด้วยความอัตโนมัติของระบบ 1 จิตใจของเราก็จะระบุ การเชื่อมโยงระหว่างเหตุการณ์ต่างๆที่ดูเหมือนจะเป็นไปได้ หลังจากนั้นการตัดสินหรือความประทับใจที่เกิดขึ้น จะได้รับการยืนยันโดยระบบ 2
ผลลัพธ์ของ WYSIATI ก็คือความผิดพลาดต่อไปนี้ ก็จะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง
- กฏของตัวเลขน้อยๆ บางครั้งเทรดเดอร์ทุกคนก็ต้องดู ที่ผลลัพธ์ของตัวอย่างเล็กๆ (เช่น 3 คน) เพื่อกระโดดเข้าไปสู่ ผลสรุปในตอนท้าย ตัวอย่างเช่น คุณเห็นพาดหัวข่าว "ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ภาวะถดถอยกำลังมา " คุณด่วนสรุปทันทีว่าภาวะถดถอยกำลังมาจริงๆแม้ว่ามัน เป็นเพียงแค่ความเห็นของผู้เขียนแค่ 3 คนที่แทบจะ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเศรษฐกิจเลย คุณน่าจะรู้ว่าถ้าคุณเปิดบทความและให้ความสนใจกับข้อความ คุณก็จะแตกตื่นทันทีแล้วรีบจรลีไปถอนเงิน ฉะนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดนี้ คุณต้องตรวจสอบ ข้อเท็จจริงก่อนทุกครั้ง ขอแนะนำเป็นอย่างสูงว่าจะต้องอ่านข่าวและบทความต่างๆ อย่างระมัดระวังและต้องมีความคุ้นเคยกับแหล่งข่าว
- ความเชื่อมโยงระหว่างโอกาสแบบสุ่มและสาเหตุที่แท้จริง พนันได้เลยว่านี่เป็นข้อผิดพลาดที่คุณต้องเผชิญอยู่บ่อยๆใน การเทรดของคุณ
ยังจำระดับแนวรับและแนวต้านที่คุณคิดว่ามันทะลุยาก แล้วน่าจะเด้งกลับได้มั้ย? ทันใดนั้นเอง ระดับที่คิดว่าแกร่งนั้นก็ถูกทำลายซะงั้น แล้วคุณก็สูญเสียความเชื่อมั่นในสถิติไป อย่างที่ Kahneman ได้เขียนเอาไว้ ความจริงหลายประการ ของโลกใบนี้ล้วนเกิดขึ้นจากโอกาสและอุบัติเหตุ ดังนั้นคุณควรเห็นภาพรวมที่ใหญ่ขึ้นและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ในตลาด, เหตุการณ์อะไรที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้, และติดตามอารมณ์ความเชื่อมั่นความเสี่ยง หากคุณอยากอ่านเพิ่มเติมให้ตรวจสอบที่ปฏิทินเศรษฐกิจ และเคล็ดลับในการทำความเข้าใจความเชื่อมั่นความเสี่ยงของเรา
- การเข้าใจเรื่องราวแบบผิดๆ ผู้คนมักจะสร้างคำอธิบาย ที่ผิดพลาดสำหรับเหตุการณ์ในอดีต จำเรื่องราวโดยทั่วไปของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้มั้ย? ตอนที่คุณอ่านมัน คุณก็จะคิดว่า "โอ้โห คนๆนี้ต้อง เกิดมาเพื่อเทรดแน่ๆเลย!" สิ่งที่ไม่ได้เข้ามาในใจของคุณคือภูมิหลังซึ่งมีเหตุการณ์ ที่เป็นอุบัติเหตุ, การสูญเสีย และข่าวโคมลอยอื่นๆที่ นักเขียนหลีกเลี่ยงที่จะบอกเล่าเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของคดี หากคุณไม่คุ้นเคยกับการเข้าใจเรื่องราวแบบผิดๆ คุณเริ่มจะเชื่อว่าคนเล่าเรื่องนั้นเป็น "กูรูด้านการเทรด", "ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความสำเร็จ" และอื่นๆ นั่นเป็นเหตุผลที่เราแนะนำให้คุณรับแรงบันดาลใจ จากเรื่องราวเหล่านี้ แต่จำไว้ว่าเราทุกคนเป็นมนุษย์ คุณอาจไม่สามารถเป็นเทรดเดอร์ได้จากหนังสือ แต่บางที คุณอาจสร้างเรื่องราวที่ดีกว่านั้นได้จริงมะ?
- มั่นใจมากเกินไป ความผิดพลาดของเทรดเดอร์คนนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการไม่ทราบเบื้องหลัง ลองนึกภาพดูว่าคุณเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ที่เพิ่งได้ เรียนรู้เรื่องช่องว่างของกราฟราคา บางโพสท์บน Facebook กล่าวว่าช่องว่างของกราฟราคา จะต้องถูกปิด
คุณเปิดกราฟของ S&P 500, รอให้เกิดช่องว่าง ของกราฟราคา, แล้วก็เปิด sell คุณคงลืมไปว่าช่องว่างของกราฟราคามีหลายประเภท ซึ่งรวมถึง continuation และ common gaps ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปิดช่องว่างนั้นเกี่ยวข้องกับ common gaps ขณะที่ continuation gaps เกิดขึ้น ระหว่างที่เกิดแนวโน้มขาขึ้น/ขาลงที่แข็งแกร่ง ขณะที่คุณเทรด S&P 500 ที่กำลังเคลื่อนที่เป็นขาขึ้น คุณกลับเจอ continuation gaps แล้วก็สูญเสียเงิน ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณทำความคุ้นเคยกับข้อเท็จที่ เป็นไปได้ทุกประการก่อนเข้าเทรด
สรุปบทความการศึกษาของ Kahneman โปรดจำเคล็ดลับ สำคัญ 5 ข้อเพื่อหลีกเลี่ยงกลอุบายทางจิตใจที่เกิดจากระบบ 1
- ต้องมีการยืนยันเสมอ;
- ห้ามสรุปความด้วยข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัด;
- รู้ไว้เลยทุกเรื่องของกูรูนั้นถูกออกแบบมาเพื่อทำให้คุณ เชื่อในความเหนือกว่าของพวกเขา;
- แท้ว่าคุณจะได้สัญญาณเทรดดีๆจากคนอื่นๆ - จงอธิบาย ให้ได้ว่าทำไมคุณถึงต้องเปิดออเดอร์ตรงนี้ ทำไมถึงไม่ วางสูง/ต่ำกว่านั้นอีก 100 pips
- พยามขุดข้อเท็จจริงที่คุณรู้ให้ลึกลงไปอีก เรียนรู้ทุกสัญญาณที่มีศักยภาพที่จะทำให้เกิด การกลับตัวและอย่าหลอกตัวเอง
คล้ายกัน
ในการซื้อขาย เราสามารถพึ่งพาสัญญาณเข้าที่แตกต่างกันมากมายได้
รูปแบบกรอบสามเหลี่ยมเป็นรูปแบบการสะสมราคาของราคาสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวภายในช่วงที่แคบลงเรื่อย
-
จะเริ่มเทรดอย่างไร?
หากคุณอายุ 18 ปีขึ้นไปคุณสามารถเข้าร่วม FBS ได้และเริ่มต้นการเดินทาง FX ของคุณ ในการซื้อขายคุณจะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และมีความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน เริ่มด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย สื่อการเรียนรู้ฟรี และ สร้างบัญชี FBS คุณอาจต้องการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยเงินเสมือนจริงผ่านบัญชีทดลอง เมื่อคุณพร้อมเข้าสู่ตลาดจริงแล้ว ก็เริ่มทำการซื้อขายเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ
-
จะเปิดบัญชี FBS ได้อย่างไร?
คลิกที่ปุ่ม 'เปิดบัญชี' บนเว็บไซต์ของเราแล้วไปที่ Trader Area ก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อขายได้ โปรไฟล์ของคุณจะต้องได้รับการยืนยันเสียก่อน ยืนยันอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ของคุณ จากนั้นให้ทำการยืนยันตัวตนของคุณ ขั้นตอนนี้จะช่วยรับประกันความปลอดภัยของเงินและตัวตนของคุณ เมื่อคุณผ่านการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ให้ไปที่แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการ แล้วเริ่มซื้อขายได้เลย
-
จะถอนเงินที่ทำได้กับ FBS ได้อย่างไร?
กระบวนการนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ไปที่หน้า การถอนเงิน บนเว็บไซต์หรือส่วนการเงินของ FBS Trader Area และเข้าไปที่การถอนเงิน คุณจะได้รับเงินที่ทำได้รับผ่านระบบการชำระเงินเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงิน ในกรณีที่คุณฝากเงินเข้าบัญชีผ่านหลายวิธี ให้ถอนกำไรของคุณผ่านวิธีเดียวกันในอัตราส่วนตามยอดเงินที่ฝากเข้ามา