ซื้อขายด้วยระบบ volatility breakout

ซื้อขายด้วยระบบ volatility breakout

อัปเดทแล้ว • 2023-04-03

บางครั้งราคาในตลาดมีความผันผวนค่อนข้างมาก และบางครั้งตลาดก็สงบโดยสิ้นเชิง ผู้เชี่ยวชาญบางคนเปรียบเทียบตลาดกับทะเล พอทะเลเงียบ มันก็แทบไม่มีคลื่นเลย อย่างไรก็ตาม หากเกิดพายุ คลื่นอาจก็สูงหลายเมตร

ความผันผวนคืออะไร?

ความผันผวนจะสะท้อนถึงโมเมนตัมในตลาด ตลาดที่ผันผวนมากๆจะมีการเคลื่อนไหวมากมาย เทรดเดอร์สามารถแยกแยะช่วงเวลาที่ตลาดที่มีความผันผวนสูงได้ง่ายๆโดยดูที่แผนภูมิ ถ้ามีการแกว่งตัวใหญ่ๆ นั่นก็จะเป็นตลาดที่ผันผวน ในทางกลับกัน ความผันผวนจะต่ำหากราคาซื้อขายอยู่ในช่วงที่มีการแกว่งน้อยๆ 

วิธีหนึ่งในการวัดความผันผวนของสินทรัพย์คือการคำนวณผลตอบแทนรายวัน (การเคลื่อนไหวรายวันเป็นเปอร์เซ็นต์) ความผันผวนในอดีตจะขึ้นอยู่กับราคาในอดีตและจะแสดงถึงระดับความแปรปรวนของผลตอบแทน

ทุกตลาดจะต้องผ่านหลากหลายระดับความผันผวน ตัวอย่างเช่น เราจะสังเกตเห็นว่าราคามีปฏิกิริยาแตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาบนแผนภูมิด้านล่าง บางครั้งมันก็ทำให้เกิดหลายการเคลื่อนไหวที่สำคัญ บางครั้งความผันผวนจะลดลง และราคาจะซื้อขายอยู่ในช่วงแคบๆ

โดยการดูที่แผนภูมิใดๆ เทรดเดอร์จะสามารถค้นหาช่วงเวลาที่ตราสารผ่านช่วงความผันผวนสูงและต่ำได้ ซึ่งมันจะสร้างโอกาสให้เราได้ใช้วิธี volatility breakout

การเทรด Volatility breakout โดยใช้แนวรับและแนวต้าน

เป้าหมายหลักของเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ volatility breakout คือการจับช่วงเวลาที่ความผันผวนกำลังเพิ่มขึ้น เทรดเดอร์ต้องสังเกตช่วงเวลาที่ตลาดเปลี่ยนจากไซด์เวย์ เป็นเทรนด์ เทรดเดอร์สามารถใช้ระบบนี้ในกรอบเวลาใดก็ได้ และใช้ได้กับทุกตลาด มีหลากหลายแนวทาง, เครื่องมือที่เป็นประโยชน์, และตัวชี้วัด 

moment-of-rising-volatility 1.png

แผนภูมิด้านบนจะแสดงตัวอย่างของประเภทการเทรด volatility breakout แบบพื้นฐาน เราจะเห็นว่าราคาช่วงแรกมีแนวโน้มสูงขึ้นและมีความผันผวนมากมายในตลาด อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางของแผนภูมิ ราคาก็ได้วิ่งเป็นกรอบเนื่องจากความผันผวนลดลง

volatility-dried-up 2.png

พอเทรดเดอร์สังเกตเห็นว่าราคาหยุดนิ่งแบบนี้ เขา/เธอก็จะลากเส้นแนวรับและแนวต้าน, ทำเครื่องหมายที่ swing high และราคาปรับฐานต่ำสุดของตลาดที่หยุดนิ่งนี้ หลังจากนั้น เทรดเดอร์จะต้องคอยติดตามตลาด รอให้ราคาทะลุกรอบนี้ แล้ววิ่งไปตามแนวโน้ม

การเทรด Volatility breakout โดยใช้แนวโน้ม

สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าระบบ volatility breakout จะทำงานได้ดีขึ้นในกรณีที่ แนวโน้ม ยังคงดำเนินต่อไป ในรูปด้านบน ราคาได้เกิดแนวโน้มขาขึ้นก่อนเริ่มวิ่งเป็นกรอบ ถ้าราคาทะลุแนวต้าน เทรดเดอร์ค่อยเข้าตลาด ถ้าราคาทะลุด้านล่างของกรอบ มันจะเป็นการเทรดแบบสวนแนวโน้มซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เทรดเดอร์อยากจะเทรดด้วยระบบนี้

ระบบนี้ตรงไปตรงมาและอาศัยเพียงความสามารถของเทรดเดอร์ในการลากเส้นแนวรับและแนวต้าน เทรดเดอร์สามารถตั้งราคาเข้าซื้อล่วงหน้าไว้เหนือแนวต้านเพื่อที่ว่าหากไม่ได้อยู่หน้าแผนภูมิแล้วเทรดเดอร์จะยังสามารถจับการทะลุกรอบของราคาได้ คำสั่งซื้อดังกล่าวนั้นเรียกว่า "Buy Stop"

ในสถานการณ์นี้ เทรดเดอร์จะเปิด buy หลังจากที่ราคาทะลุแนวต้านเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดการความเสี่ยง พวกเขาต้องวางคำสั่ง Stop Loss ไว้ใต้เส้นแนวรับของกรอบ ในกรณีนี้ เป้าหมายควรให้ผลกำไรอย่างน้อยสองเท่าของความเสี่ยง วิธีนี้จะช่วยให้ได้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่เป็นบวก

การเทรด Volatility breakout โดยใช้ตัวบ่งชี้

เทรดเดอร์หลายคนก็ชอบปรับปรุงกลยุทธ์นี้ด้วย ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค ซึ่งอาจมีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อสำหรับการซื้อขายการขยายตัวของความผันผวน Bollinger Bands เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว

Bollinger Bands เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการวัดความผันผวนและทิศทางของแนวโน้ม ตัวบ่งชี้จะประกอบด้วย moving average period 20 (เส้นที่อยู่ตรงกลางของแถบ) และแถบบนและล่างที่มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานสองค่าที่ด้านบนและด้านล่างของค่าเฉลี่ย จุดประสงค์ของตัวบ่งชี้คือเพื่อวัดความผันผวนในตลาดและระบุแนวโน้ม ช่วงกว้างระหว่างแถบจะบ่งบอกว่าตลาดมีความผันผวนสูง ในทางกลับกัน ช่วงของแถบที่แคบๆจะหมายความว่าความผันผวนได้ลดลงและตลาดมีการซื้อขายอยู่ในกรอบ นอกจากนี้ ทิศทางของ BB จะช่วยเทรดเดอร์สามารถระบุได้ว่ามีแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง

chart-spots-with-high-volatility 3.png

แผนภูมิด้านบนจะแสดงให้เห็นว่าตัวบ่งชี้นี้มีประโยชน์มากแค่ไหน อย่างแรก มันเน้นย้ำให้เห็นแนวโน้ม นอกจากนี้ ตัวบ่งชี้จะแสดงจุดที่กราฟมีความผันผวนสูง ตลอดจนตำแหน่งที่มีการสะสมราคา

ตัวบ่งชี้ BB จะบีบแคบลงเมื่อราคาหยุดและรวมตัวกันเนื่องจากตลาดสูญเสียความผันผวน อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาทะลุเหนือแถบบน ความผันผวนก็กลับมาและแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงดำเนินต่อไป

ตามกลยุทธ์นี้ เทรดเดอร์ควรเปิดการคำสั่งซื้อทันทีที่ราคาทะลุขึ้นเหนือแถบบน ในกรณีนี้ จำเป็นต้องวาง Stop Loss ไว้ใต้แถบล่าง

มีสองทางเลือกในการจัดการการซื้อขายนี้ ทางเลือกแรก คุณสามารถทำตามการตั้งค่าก่อนหน้านี้และตั้งค่าคำสั่ง Take Profit ให้มากกว่าความเสี่ยงสองเท่า กล่าวคือมากกว่า Stop Loss สองเท่า หรืออาจใช้ตัวบ่งชี้ Bollinger Bands เพื่อจัดการคำสั่งซื้อ

ดังที่คุณทราบ เส้นกลางของตัวบ่งชี้ Bollinger Bands คือเส้น moving average ดังนั้น เทรดเดอร์สามารถจัดการคำสั่งซื้อนี้ได้ในลักษณะเดียวกันกับตอนที่ทำการซื้อขายด้วย moving average: เปิดคำสั่งซื้อไว้จนกว่าราคาจะแตะเส้น moving average เพราะนั่นจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแนวโน้มสูญเสียโมเมนตัม

อีกวิธีหนึ่งในการใช้ Bollinger Bands คือให้เทรดเดอร์เปิดคำสั่งซื้อไว้จนกว่าราคาจะแตะแถบล่าง สมมติว่าราคากลับลงมาและแตะแถบล่างของ Bollinger Bands นี่หมายความว่าราคากำลังปรับตัวเข้าสู่กรอบใหม่ ซึ่งเทรดเดอร์สามารถเก็บกำไรแล้วรอโอกาสใหม่ในการเปิดคำสั่ง buy หรือราคามีโอกาสกลับตัว

สรุป

กลยุทธ์ volatility breakout เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การซื้อขายที่ทำกำไรได้สูงที่สุด มันใช้ได้กับทุกตลาดและทุกกรอบเวลา นอกจากนี้มันยังง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งานง่าย เนื่องจากมันไม่ต้องใช้อะไรมากไปกว่าความรู้เรื่องระดับ แนวรับและแนวต้าน และความรู้เรื่องแนวโน้ม กลยุทธ์นี้เหมาะกับทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และที่มีประสบการณ์เนื่องจากมันใช้งานได้หลากหลายและปรับแต่งได้ไม่จำกัด 

คล้ายกัน

วิธีการหา Short Squeeze
วิธีการหา Short Squeeze

คุณยังจำการเติบโตของหุ้น Tesla ในปี 2020 ได้มั้ย? หรือเรื่อง GameStop ที่หุ้นพุ่งขึ้น 10 เท่าในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์? นี่มันไม่ใช่ทั้งการเติบโตแบบยั่งยืนหรือการปั่นตลาด เหตุการณ์ถูกเรียกว่า Short squeezes และฉันจะแสดงให้คุณเห็น ถึงวิธีการมองหาและทำกำไรจากมัน!

กลยุทธ์การซื้อขายสุดมหัศจรรย์ด้วย Ichimoku
กลยุทธ์การซื้อขายสุดมหัศจรรย์ด้วย Ichimoku

แม้ว่าตัวบ่งชี้ Ichimoku อาจดูแปลกๆสำหรับนักเทรดมือใหม่ แต่มันก็สามารถถูกนำมาใช้ในกลยุทธ์การซื้อขายที่ดีมากๆ อยากรู้ใช่ป่ะ? อ่านบทความดูสิ!

คำถามที่พบบ่อย

  • จะเริ่มเทรดอย่างไร?

    หากคุณอายุ 18 ปีขึ้นไปคุณสามารถเข้าร่วม FBS ได้และเริ่มต้นการเดินทาง FX ของคุณ ในการซื้อขายคุณจะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และมีความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน เริ่มด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย สื่อการเรียนรู้ฟรี และ สร้างบัญชี FBS คุณอาจต้องการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยเงินเสมือนจริงผ่านบัญชีทดลอง เมื่อคุณพร้อมเข้าสู่ตลาดจริงแล้ว ก็เริ่มทำการซื้อขายเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ  

  • จะเปิดบัญชี FBS ได้อย่างไร?

    คลิกที่ปุ่ม 'เปิดบัญชี' บนเว็บไซต์ของเราแล้วไปที่ Trader Area ก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อขายได้ โปรไฟล์ของคุณจะต้องได้รับการยืนยันเสียก่อน ยืนยันอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ของคุณ จากนั้นให้ทำการยืนยันตัวตนของคุณ ขั้นตอนนี้จะช่วยรับประกันความปลอดภัยของเงินและตัวตนของคุณ เมื่อคุณผ่านการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ให้ไปที่แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการ แล้วเริ่มซื้อขายได้เลย

  • จะถอนเงินที่ทำได้กับ FBS ได้อย่างไร?

    กระบวนการนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ไปที่หน้า การถอนเงิน บนเว็บไซต์หรือส่วนการเงินของ FBS Trader Area และเข้าไปที่การถอนเงิน คุณจะได้รับเงินที่ทำได้รับผ่านระบบการชำระเงินเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงิน ในกรณีที่คุณฝากเงินเข้าบัญชีผ่านหลายวิธี ให้ถอนกำไรของคุณผ่านวิธีเดียวกันในอัตราส่วนตามยอดเงินที่ฝากเข้ามา

ฝากเงินกับระบบการชำระเงินในประเทศของคุณ

ประกาศการเก็บรวบรวมข้อมูล

FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา

โทรกลับ

ผู้จัดการของเราจะโทรหาคุณในเร็ว ๆ นี้

เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

เราได้รับคำร้องของคุณแล้ว

ผู้จัดการของเราจะโทรหาคุณในเร็ว ๆ นี้

คำขอโทรกลับครั้งต่อไปสำหรับหมายเลขโทรศัพท์นี้
จะพร้อมใช้งานใน

หากคุณมีปัญหาเร่งด่วนโปรดติดต่อเราผ่านทาง
สนทนาออนไลน์

เกิดข้อผิดพลาดภายใน กรุณาลองใหม่อีกครั้งในภายหลัง

อย่ามัวเสียเวลา - ติดตามดูว่า NFP ส่งผลกระทบอย่างไร ต่อ USD แล้วทำกำไรเลยสิ!

คุณกำลังใช้เบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่ากว่านี้

อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือลองใช้เพื่อการเทรดที่สะดวกสบายและมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น

Safari Chrome Firefox Opera