Stop Loss ในการเทรดคืออะไร: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับมือใหม่

อ่านบทความบนเว็บไซต์ของ FBS

cover.png

การทำความเข้าใจและจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพเป็นส่วนสำคัญของการเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จ ในบรรดาหลากหลายเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่พร้อมใช้งานสำหรับเทรดเดอร์ คำสั่ง Stop Loss ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดวิธีหนึ่งในการปกป้องเงินทุนของคุณในตลาดสกุลเงินที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและคาดเดาไม่ได้ หากคุณยังใหม่กับโลกแห่งการเทรด Forex และต้องการเรียนรู้เรื่องพื้นฐาน บทความนี้จะให้คำแนะนำอย่างครอบคลุมแก่คุณ

พื้นฐานเรื่องคำสั่ง Stop Loss

สิ่งแรกที่เทรดเดอร์ทุกคนควรตระหนักคือการสูญเสียนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในการเทรด หากคุณสูญเสียเงินทุนจากคำสั่งซื้อขายที่ล้มเหลว คงไม่มีใครสามารถที่จะกู้คืนยอดเงินนั้นในบัญชีที่คุณเคยมีได้ นี่คือจุดที่การจัดการความเสี่ยงนั้นมีความสำคัญ โดยมันจะทำหน้าที่เป็นเสาหลักที่สนับสนุนอาชีพการซื้อขายของคุณทั้งหมด การใช้เทคนิคการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้คำสั่ง Stop Loss กลายเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องเงินทุนของคุณและรักษายอดเงินในบัญชีซื้อขายของคุณ

คำจำกัดความของคำสั่ง Stop Loss

คำสั่ง Stop Loss เป็นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่จะปิดสถานะโดยอัตโนมัติที่ระดับราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น คำสั่ง Stop Loss เปรียบเสมือนตาข่ายนิรภัยของเทรดเดอร์ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถกำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ จากการกำหนดระดับราคาเฉพาะที่สถานะของพวกเขาจะถูกชำระบัญชีโดยอัตโนมัติ

คำสั่ง Stop Loss ทำงานอย่างไร

เทรดเดอร์ที่มีแนวทางจัดการความเสี่ยงที่ได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดีจะรู้ดีว่าคำสั่งซื้อขายอาจเคลื่อนไหวสวนทางกับพวกเขาได้โดยไม่คาดคิด และพวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียที่ไม่พึงประสงค์นี้ได้ด้วยการใช้คำสั่ง Stop Loss

คำสั่ง Stop Loss เป็นเทคนิคการป้องกันของเทรดเดอร์ โดยจะส่งสัญญาณให้โบรกเกอร์ดำเนินการคำสั่งเมื่อตลาดไปถึงราคา Stop Loss ที่กำหนดหรือลดลงต่ำกว่านั้น

เมื่อคุณวางคำสั่ง Stop Loss คุณจะกำหนดระดับราคาที่คุณต้องการให้สถานะถูกปิดโดยอัตโนมัติ หากตลาดแตะถึงหรือลดลงต่ำกว่าระดับราคานั้น มันจะเปิดคำสั่ง Stop Loss และปิดสถานะของคุณในราคาที่ดีที่สุดที่มีอยู่

สมมติว่าคุณได้เข้าซื้อ EURUSD ที่ราคา 1.0800 และวางคำสั่ง Stop Loss ที่ราคา 1.0750 หากตลาดตกลงไปที่ระดับ 1.0750 หรือต่ำกว่า คำสั่ง Stop Loss ของคุณจะถูกดำเนินการ ซึ่งจะปิดคำสั่งซื้อขาย คำสั่ง Stop Loss นี้จำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นให้อยู่ที่ระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่ 50 pip

เทรดเดอร์กำหนดคำสั่ง Stop Loss ในระดับราคาที่แตกต่างกันตามกลยุทธ์การซื้อขายของพวกเขา การยอมรับความเสี่ยง และแผนการจัดการความเสี่ยงโดยรวม สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความผันผวนของตลาด ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อระบุระดับจุด Stop Loss ที่ดีที่สุด

ประโยชน์ของการใช้คำสั่ง Stop Loss ในการเทรด Forex

การใช้คำสั่ง Stop Loss ในการเทรด Forex นั้นมีประโยชน์มากซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพและผลการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จโดยรวม ต่อไปนี้คือข้อดีหลัก ๆ ของคำสั่ง Stop Loss

ปกป้องไม่ให้สูญเสียมากเกินไป

วัตถุประสงค์หลักและข้อดีของคำสั่ง Stop Loss ในการเทรด Forex คือการปกป้องเงินทุน ด้วยการวางระดับ Stop Loss เทรดเดอร์จะกำหนดจำนวนเงินสูงสุดที่พวกเขายินดีเสี่ยงในคำสั่งซื้อขาย ในกรณีที่ตลาดเปลี่ยนแปลงสวนทางไปจนถึงระดับ Stop Loss ที่กำหนดไว้ คำสั่งซื้อขายจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ เพื่อจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น สิ่งนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถปกป้องเงินทุนในการซื้อขายของตนและหลีกเลี่ยงการขาดทุนสะสมจำนวนมากได้

ลดความเครียด

คำสั่ง Stop Loss จะช่วยลดความเครียดที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย เมื่อเทรดเดอร์ตั้งคำสั่ง Stop Loss มันจะช่วยให้พวกเขาอุ่นใจเนื่องจากความเสี่ยงด้านลบจะถูกจำกัดเอาไว้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคำสั่ง Stop Loss นั้นลดความวิตกกังวลได้ ซึ่งจะช่วยให้เทรดเดอร์มุ่งเน้นไปที่การดำเนินการตามกลยุทธ์การซื้อขายและการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล

เทรดอัตโนมัติ

คำสั่ง Stop Loss จะทำให้กระบวนการปิดสถานะเป็นไปโดยอัตโนมัติเมื่อถึงระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ดังนั้นเทรดเดอร์จึงไม่จำเป็นต้องติดตามสถานะของตนอย่างต่อเนื่องโดยไม่ละสายตาจากหน้าจอ การใช้คำสั่ง Stop Loss เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่สามารถทุ่มเทเวลาได้มากนักในการซื้อขายและไม่สามารถคอยติดตามสถานะของตนในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายได้บ่อย ๆ

ข้อเสียของการใช้คำสั่ง Stop Loss ในการเทรด Forex

แม้ว่าคำสั่ง Stop Loss จะถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการเทรด Forex ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่ดีที่สุด แต่เทรดเดอร์ก็ควรตระหนักถึงข้อเสียบางประการที่อาจเกิดขึ้น นี่คือข้อควรพิจารณาบางส่วน

คำสั่ง Stop Loss ถูกเรียกใช้งานก่อนกำหนดเนื่องจากความผันผวนของตลาดในระยะสั้น

คำสั่ง Stop Loss อาจทำให้คำสั่งซื้อขายถูกปิดก่อนเวลาอันควรเนื่องจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น ซึ่งนำไปสู่การพลาดโอกาสในการทำกำไรหากราคากลับสู่ระดับที่ทำกำไรได้ในภายหลัง

การพึ่งพาคำสั่ง Stop Loss มากเกินไป

การใช้คำสั่ง Stop Loss เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีแผนการจัดการความเสี่ยงที่ได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดีก็มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยแบบหลอก ๆ

พลาดผลกำไรเนื่องจากระดับคำสั่ง Stop Loss แคบเกินไป

คำสั่ง Stop Loss ที่แคบเกินไปอาจเพิ่มโอกาสที่คำสั่งซื้อขายจะถูกปิดก่อนเวลาอันควร แม้ว่าการตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss จะช่วยลดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่มันก็สามารถทำให้คำสั่งซื้อขายถูกปิดก่อนเวลาได้หากคำสั่งซื้อขายเผชิญกับความผันผวนเล็ก ๆ น้อย ๆ ของราคา

ตั้งคำสั่ง Stop Loss ไม่ถูกต้องเนื่องจากอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนไม่ดีพอ

หากอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนของคำสั่งซื้อขายไม่ได้รับการประเมินอย่างเหมาะสม คำสั่ง Stop Loss อาจทำให้เทรดเดอร์ออกจากการซื้อขายเร็วเกินไป

การกำหนดวิธีสร้างสมดุลระหว่างข้อดีและข้อจำกัดของคำสั่ง Stop Loss ภายในกลยุทธ์การซื้อขายถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมันจะช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับประโยชน์สูงสุดจากกลไก Stop Loss ที่มีประสิทธิภาพ การทราบทั้งข้อดีและข้อจำกัดของคำสั่ง Stop Loss จะช่วยให้เทรดเดอร์ Forex สามารถพัฒนาแผนการเทรดที่ทำกำไรได้ที่สอดคล้องกับการยอมรับความเสี่ยงและความคาดหวังของพวกเขา

What is Stop Loss in trading_1200x675_1.png

ประเภทของกลยุทธ์คำสั่ง Stop Loss

การเลือกกลยุทธ์ Stop Loss มีบทบาทสำคัญในการปกป้องเงินทุนและการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนนี้ เราจะสำรวจกลยุทธ์ Stop Loss พื้นฐานสองประเภทที่เทรดเดอร์ควรพิจารณาเพื่อค้นหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสไตล์การซื้อขายของพวกเขา

กลยุทธ์คำสั่ง Stop Loss แบบคงที่

กลยุทธ์ Stop Loss แบบคงที่หรือแบบอย่างง่าย หมายถึง การตั้งค่าระดับราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเป็นคำสั่ง Stop Loss สำหรับแต่ละคำสั่งซื้อขาย กลยุทธ์นี้ใช้งานง่ายมาก ๆ เทรดเดอร์ที่ใช้วิธีการนี้จะกำหนดพารามิเตอร์การจัดการความเสี่ยงที่ชัดเจน โดยอิงจากการคำนวณการสูญเสียสูงสุดที่ยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของกลยุทธ์นี้คือ Stop Loss แบบคงที่จะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งอาจทำให้คำสั่งซื้อขายถูกปิดก่อนเวลาอันควรหากราคาย้อนกลับชั่วคราวก่อนที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการ

ตัวอย่างนี้จะแสดงให้เห็นถึงการใช้กลยุทธ์ Stop Loss แบบคงที่ในการเทรด Forex

สมมติว่าคุณเปิดคำสั่งซื้อขายคู่สกุลเงิน GBPUSD ที่อัตราแลกเปลี่ยนที่ 1.2600 และใช้กลยุทธ์ Stop Loss แบบคงที่โดยมีระดับการสูญเสียที่ยอมรับได้ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่ 50 pip

นั่นคือ หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคำสั่งซื้อขายของคุณและอัตราแลกเปลี่ยนลดลง 50 pip จาก 1.2600 เป็น 1.2550 คำสั่ง Stop Loss ของคุณจะตอบสนองโดยอัตโนมัติด้วยการปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อป้องกันการสูญเสียเพิ่มเติม

แม้ว่าตลาดจะยังคงเคลื่อนไหวสวนทางกับสถานะของคุณ แต่ความเสี่ยงของคุณก็จะถูกจำกัดโดยระดับ Stop Loss ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่ 1.2550 ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่าการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจะไม่เกินขีดจำกัดที่กำหนดไว้

อย่างไรก็ตาม ลองจินตนาการถึงสถานการณ์ที่คุณวางระดับ Take Profit ที่ 1.2620 ให้กับคำสั่งซื้อขายที่กำหนด ราคาจะเข้าใกล้เป้าหมายของคุณ โดยแตะที่ 1.2619 แต่น่าเสียดายที่ราคาเกิดกลับตัวอย่างกะทันหันแล้วเรียกใช้งานคำสั่ง Stop Loss ของคุณ แม้ว่าการวิเคราะห์ของคุณจะแม่นยำเกือบ 100% แต่สุดท้ายคุณก็เสียไป 50 จุด

สถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เทรดเดอร์ไม่พอใจ แต่มันก็แก้ไขได้ ซึ่งกลยุทธ์ Stop Loss แบบเลื่อนตามสามารถช่วยให้เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้ได้

กลยุทธ์คำสั่ง Stop Loss แบบเลื่อนตาม (Trailing Stop Loss)

กลยุทธ์ Stop Loss แบบเลื่อนตาม เป็นประเภทคำสั่งแบบไดนามิกที่จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถล็อกผลกำไรไปพร้อม ๆ กับการป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น กลยุทธ์นี้หมายถึงการปรับระดับ Stop Loss เมื่อราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เอื้ออำนวยต่อคำสั่งซื้อขาย โดยจะเลื่อนตามหลังราคาตลาดปัจจุบัน

ข้อดีหลัก ๆ ของกลยุทธ์ Stop Loss แบบเลื่อนตาม คือความสามารถในการปกป้องกำไรในตลาดที่มีแนวโน้ม เมื่อราคายังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการ คำสั่ง Trailing Stop Loss จะปรับตามโดยอัตโนมัติ โดยรักษาระยะห่างตามที่กำหนดไว้ ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์มีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญ และเพิ่มผลกำไรสูงสุดหากแนวโน้มดำเนินต่อไป

เพื่อใช้กลยุทธ์ Stop Loss แบบเลื่อนตามอย่างมีประสิทธิภาพ เทรดเดอร์ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษในการกำหนดระยะการเลื่อนที่ทำกำไรได้มากที่สุดโดยพิจารณาจากความเสี่ยง สภาวะตลาด และลักษณะของคู่สกุลเงินที่ซื้อขาย

ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นของคำสั่ง Trailing Stop Loss คือคำสั่งประเภทนี้อาจถูกเรียกใช้งานก่อนกำหนดได้อย่างง่ายดายจากความผันผวนของราคาในระยะสั้น ส่งผลให้คำสั่งซื้อขายถูกปิดก่อนที่จะถึงกำไรที่ต้องการ

เพื่อให้เห็นภาพกลยุทธ์ Stop Loss แบบเลื่อนตาม ให้ลองจินตนาการว่าคุณเปิดสถานะในคู่สกุลเงิน EURUSD ที่อัตราแลกเปลี่ยนที่ 1.2000 โดยตั้งค่าคำสั่ง Trailing Stop Loss ด้วยระยะการเลื่อนที่ 50 pip

ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณต้องการ คำสั่ง Trailing Stop Loss จะปรับตามไปเพื่อปกป้องผลกำไรตามที่กำหนด หากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นเป็น 1.2200 คำสั่ง Stop Loss จะถูกปรับเป็น 1.2150 โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นระดับ Stop Loss ใหม่ที่จะช่วยล็อกกำไรและปกป้องคุณจากการสูญเสียเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ Stop Loss จะไม่ถูกปรับลงโดยอัตโนมัติเมื่อราคาเริ่มเคลื่อนตัวลง หน้าที่ของมันมีเพียงขยับขึ้นเมื่อราคาเพิ่มขึ้นเท่านั้น

กลยุทธ์ Stop Loss แต่ละกลยุทธ์ต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในขณะที่กลยุทธ์ Stop Loss แบบเลื่อนตามนั้นมีคุณสมบัติของความความยืดหยุ่น แต่กลยุทธ์ Stop Loss แบบคงที่จะให้ความแน่นอนแก่เทรดเดอร์ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาทราบได้อย่างแม่นยำว่าพวกเขาสามารถสูญเสียได้มากเพียงใดในคำสั่งซื้อขาย โดยมันจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่จะต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้และทดสอบกลยุทธ์เหล่านี้ในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน เพื่อพิจารณาว่าอะไรดีที่สุดสำหรับสไตล์การซื้อขายของแต่ละคน

เคล็ดลับในการวางคำสั่ง Stop Loss ในการเทรด Forex

การวางคำสั่ง Stop Loss นั้นไม่มีกฎตายตัวสำหรับทุกคน เราจำเป็นต้องค้นหาสมดุลระหว่างการให้พื้นที่วิ่งแก่คำสั่งซื้อขายและการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ หากเทรดเดอร์ตั้งคำสั่ง Stop Loss ไว้ใกล้เกินไป อาจส่งผลให้คำสั่งซื้อขายถูกปิดก่อนเวลาอันควรโดยไม่มีผลกำไร ส่วนการวางคำสั่ง Stop Loss ไว้ไกลเกินไปก็จะเพิ่มการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่าจะไม่มีแนวทางใดที่เหมาะกับทุกคน แต่ก็มีวิธีบางอย่างในการตั้งค่า Stop Loss อย่างมีประสิทธิภาพ

พิจารณาความผันผวนของคู่สกุลเงินที่เลือก

คู่สกุลเงินที่แตกต่างกันก็จะมีความผันผวนในระดับที่แตกต่างกัน จงคำนึงถึงความผันผวนของคู่สกุลเงินที่คุณกำลังซื้อขายและปรับระดับ Stop Loss ของคุณตามนั้น สำหรับคู่สกุลเงินที่มีความผันผวนมากกว่าอาจต้องวางระดับ Stop Loss ให้กว้างขึ้นเพื่อให้เหมาะกับความผันผวนของราคา

รักษาอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนตามความเป็นจริง

รักษาอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สมจริงโดยการตั้งค่าระดับ Stop Loss ให้สอดคล้องกับเป้าหมายผลกำไรของคุณอย่างสม่ำเสมอ มันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแน่ใจว่าผลกำไรที่เป็นไปได้ที่คุณอยากได้นั้นมีจำนวนมากกว่าการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ 1:3 จะบ่งชี้ถึงโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ อัตราส่วนนี้จะแสดงให้เห็นว่าสำหรับแต่ละหน่วยความเสี่ยงที่ยอมรับได้นั้นจะมีกำไรที่คาดหวังไว้ถึงสามหน่วย

รักษาวินัย

วินัยในการซื้อขายที่ได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดีถือเป็นส่วนสำคัญของอาชีพการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ จงปฏิบัติตามแผนการซื้อขายของคุณและหลีกเลี่ยงการซื้อขายด้วยความตื่นตระหนก อาศัยการวิเคราะห์ตลาดที่ครอบคลุมและกลยุทธ์เบื้องหลังคำสั่ง Stop Loss ของคุณ และเพิกเฉยต่อแรงกระตุ้นให้ย้ายหรือลบคำสั่งออกเนื่องจากความผันผวนชั่วคราวของราคา

พิจารณาใช้กฎ 1%

กฎ 1% จะช่วยบอกว่าเทรดเดอร์ควรจำกัดความเสี่ยงไว้ไม่ให้เกิน 1% ของยอดคงเหลือทั้งหมดในบัญชีต่อหนึ่งคำสั่งซื้อขาย กฎนี้ยังสามารถใช้ได้กับการตั้งค่าระดับ Stop Loss ด้วยนะ ตัวอย่างเช่น หากคุณมียอดคงเหลือในบัญชีซื้อขายอยู่ที่ $20,000 นั่นหมายความว่า Stop Loss ของคุณก็ไม่ควรเกิน $200 จากจุดเข้าของคำสั่งซื้อขายใด ๆ

ตรวจสอบและปรับระดับ Stop Loss

สภาวะตลาดสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบและปรับระดับ Stop Loss ของคุณเป็นประจำ ในขณะที่คำสั่งซื้อขายดำเนินไปเรื่อย ๆ โอกาสในการทำกำไรของคุณก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน คุณอาจจำเป็นต้องขยับคำสั่ง Stop Loss เพื่อรักษาผลกำไรหรือป้องกันการสูญเสีย

สรุป

คำสั่ง Stop Loss เป็นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่สำคัญที่เทรดเดอร์แต่ละคนควรตระหนักถึง กลไกนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถลดการสูญเสียและปกป้องเงินทุนของตนได้โดยการปิดคำสั่งซื้อขายโดยอัตโนมัติในระดับราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

เทรดเดอร์ควรทำการวิเคราะห์ตลาดอย่างครอบคลุมก่อนที่จะใช้คำสั่ง Stop Loss สิ่งสำคัญคือต้องมุ่งเน้นไปที่วัตถุประสงค์การบริหารความเสี่ยงในขณะเดียวกันก็คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในตลาด เทรดเดอร์ Forex ควรระบุอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสมอย่างแม่นยำ ค้นหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการปกป้องเงินทุนผ่านคำสั่ง Stop Loss และให้พื้นที่วิ่งแก่คำสั่งซื้อขายที่อาจไปถึงเป้าหมายกำไร

ในฐานะเทรดเดอร์ คุณต้องตระหนักว่าคำสั่ง Stop Loss นั้นไม่ได้ขจัดความเสี่ยงของการสูญเสียทั้งหมดไป พวกมันเป็นเพียงเครื่องมือจัดการความเสี่ยงซึ่งไม่ควรนำมาทดแทนกลยุทธ์การซื้อขายที่แข็งแกร่ง เพื่อให้บรรลุความสำเร็จ เทรดเดอร์จำเป็นต้องรวมคำสั่ง Stop Loss เข้ากับการวิเคราะห์ตลาดที่เหมาะสม แนวทางการซื้อขายที่สมเหตุสมผลและมีระเบียบวินัย ความมั่นคงทางอารมณ์ และแผนการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

คำสั่ง Stop Loss คืออะไร?

คำสั่ง Stop Loss เป็นกลไกการจัดการความเสี่ยงที่ใช้ในการซื้อขายเพื่อปิดสถานะโดยอัตโนมัติในระดับราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นด้วยการเรียกใช้งานคำสั่งหากราคาตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับสถานะของเทรดเดอร์

คำสั่ง Stop Loss ทำงานอย่างไร?

เมื่อมีการวางคำสั่ง Stop Loss คำสั่งดังกล่าวจะยังคงไม่ทำงานจนกว่าราคาตลาดจะแตะถึงระดับ Stop Loss ที่ระบุไว้ และเมื่อราคาแตะถึงระดับนี้ คำสั่งจะถูกเปิดการทำงานและดำเนินการ โดยปิดสถานะที่ราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

คำสั่ง Stop Loss จะช่วยรับประกันการป้องกันการขาดทุนทั้งหมดได้หรือไม่?

แม้ว่าคำสั่ง Stop Loss จะเป็นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ แต่มันก็ไม่สามารถรับประกันการป้องกันการสูญเสียทั้งหมดได้อย่างสมบูรณ์

จำเป็นต้องใช้คำสั่ง Stop Loss สำหรับทุกคำสั่งซื้อขายหรือไม่?

แม้ว่าคำสั่ง Stop Loss จะถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่การดำเนินการนั้นจะขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การซื้อขายและการยอมรับความเสี่ยงส่วนบุคคล เทรดเดอร์บางคนอาจเลือกเทคนิคการจัดการความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น การตรวจสอบด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม คำสั่ง Stop Loss นั้นมีประโยชน์มากเนื่องจากมันเป็นแนวทางในการจัดการความเสี่ยงแบบอัตโนมัติ

FBS เก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ เมื่อกดปุ่ม "ยอมรับ" ถือว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา