Forex กับผู้หญิง ระดับที่ 2
สวัสดีทุกคน! แอนกลับมาที่นี่อีกครั้งและพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์การเทรดด้วยตัวบ่งชี้ที่ง่ายที่สุดอย่าง "Moving average" ในบทความนี้ฉันจะมาอธิบายขั้นตอนและผลกำไรทั้งหมดที่ฉันทำ
ตามที่คุณจำได้ฉันได้รับโบนัส $50 และทำเงินได้จำนวน $113 ในช่วง 2 วันแรกที่ฉันทำการเทรด คุณคงนึกไม่ออกว่าฉันรู้สึกภาคภูมิใจกับตัวเองมากแค่ไหน! แม้แต่ตอนที่ฉันมีรายได้เป็นครั้งแรกในโรงเรียนมัธยมฉันก็ไม่ได้รู้สึกภาคภูมิใจแบบนี้เลย! คลิกที่นี่ เพื่ออ่านส่วนแรกของเรื่องราวของฉัน
ถ้าคุณคิดว่าการเทรดเป็นเรื่องที่ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปากแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าคุณคิดผิด! บทเรียน Forex บทที่สองเป็นเรื่องที่น่าสนใจแต่ก็เป็นเรื่องที่ยาก ฉันได้รับแรงบันดาลใจที่จะก้าวต่อไปและสำรวจความลับใหม่ๆ! กำไรทั้งหมดที่ฉันได้รับไม่สูงมากนักแต่ฉันก็ได้ฉลาดมากยิ่งขึ้น
ผลลัพธ์ของฉัน:
ยอดคงเหลือในบัญชีตอนเริ่มต้น: $113 ใช้เวลา: 2 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลา 2 วัน ยอดคงเหลือในบัญตอนเสร็จสิ้น: $142
มาเริ่มจากจุดเริ่มต้นกัน ฉันได้รับมอบหมายจากนักวิเคราะห์ FBS - ให้มาเรียนรู้ตัวบ่งชี้ “Moving average” โอ้ พระเจ้า สำหรับผู้หญิงที่จบจากด้านศิลปะและการออกแบบแล้วมันยากที่จะทำความเข้าใจจริงๆ! แต่ฉันก็เอาชนะความยากลำบากทั้งหมดมาได้และตอนนี้ฉันก็พร้อมที่จะโชว์ทักษะของฉันแล้ว!
Moving average (MA)
ก่อนอื่นฉันจะเริ่มต้นด้วยทฤษฎี *พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง*: Moving average เป็นตัวบ่งชี้ราคาเฉลี่ยของคู่สกุลเงินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง พูดง่ายๆก็คือมันจะแสดงราคาเฉลี่ยของจำนวนเชิงเทียน/แท่งล่าสุด เมื่อคุณเพิ่มตัวบ่งชี้นี้ลงในแผนภูมิของคุณก็จะมีเส้นๆหนึ่งปรากฏขึ้นมา คุณสามารถเลือกช่วงและชนิดของ MA ในการตั้งค่าได้
มี moving averages อยู่ 4 ชนิด ฉันตัดสินใจใช้ exponential moving averages เพราะว่าพวกมันสามารถคาดการณ์แนวโน้มในปัจจุบันได้ดียิ่งกว่า
ฉันใช้ 3 moving averages ที่มีช่วงเวลาที่แตกต่างกันในแผนภูมิของฉัน:
1) 8 เชิงเทียน - เป็น MA แบบเร็วที่แสดงถึงการเคลื่อนไหวของราคาในช่วง 8 เชิงเทียนสุดท้ายและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้อย่างรวดเร็ว;
2) 21 เชิงเทียน – MA นี้จะแสดงแนวโน้มระยะสั้น;
3) 100 เชิงเทียน – เป็น MA แบบ “ช้า” ที่จะแสดงแนวโน้มระยะยาว
ทฤษฎีนี้ฟังดูเรียบง่าย หากราคาอยู่เหนือ moving averages ทั้งหมด - นี่คือแนวโน้มขาขึ้น แต่หากราคาอยู่ต่ำกว่า MA - เราจะได้เห็นแนวโน้มขาลง
ฉันเห็นว่า EUR/USD มีการเทรดกันอยู่เหนือ MA ทั้งหมด ฉันจึงคิดไปว่า "ยอดเยี่ยม!" และเปิด BUY trade ลองจินตนาการถึงความสับสนของฉันดูเมื่อไม่นานหลังจากนั้นราคาก็ได้ลดลงและอยู่ต่ำกว่าระดับการเข้าของฉัน มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย? เมื่อราคาลดลงต่ำกว่า MA ฉันจึงได้เปิด SELL trade คราวนี้ฉันจัดการปิดการเทรดและทำกำไรได้
Moving Averages ที่มีช่วงเวลาที่แตกต่างกัน
หลังจากทำการเทรดมากขึ้นฉันก็คิดออกว่าเวลาที่ดีที่สุดที่จะเปิดออเดอร์คือเมื่อราคาเพิ่งจะข้าม MA ไป ถ้ามันสูงขึ้นฉันก็จะเปิด BUY trade หากมันลดลงฉันก็จะเปิด SELL trade รายได้ของฉันเติบโตขึ้นอย่างช้าๆแต่เติบโตขึ้นอย่างมั่นคง ฉันจึงเปิดขวดแชมเปญเพื่อฉลองให้กับประสบการณ์และความสำเร็จครั้งใหม่ของฉัน!
ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์
อย่างที่คุณเห็นเพียงแค่เพิ่มตัวบ่งชี้ลงไปในแผนภูมิยังไม่เพียงพอ คุณยังต้องเรียนรู้ที่จะ "อ่าน" สัญญาณของมันด้วย หากคุณต้องการให้ moving averages ทำกำไรให้กับคุณ คุณจะต้องมีกลยุทธ์เมื่อเข้าสู่ตลาด คุณเพิ่ม MA มากมายลงไปในแผนภูมิคุณก็ต้องใช้มันให้หมด! ด้วยเส้นเหล่านี้คุณจะสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพได้:
1. ดูที่ 100 MA เมื่อราคาอยู่เหนือกว่า, แนวโน้มระยะยาวเป็นบวก ให้มองหาโอกาสที่จะซื้อ 2. สัญญาณที่ถูกต้องสำหรับการซื้อจะเกิดขึ้นเมื่อ 8 MA อยู่เหนือ 21 MA 3. ถ้า 8 MA อยู่เหนือ 21 MA แล้วและราคาอยู่เหนือ MA ทั้งหมดให้รอสักครู่จนกว่ามันจะลดลงและแตะ moving average หากราคาดีดตัวขึ้นจากเส้นนี้มันก็เป็นโอกาสอันดีที่จะทำการซื้อ
ถ้า 8 MA และ 21 MA อยู่ต่ำกว่า 100 MA, แนวโน้มขาขึ้นกำลังเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง คุณควรจะเริ่มคิดถึงเรื่อง SELL trades ขอให้โชคดี!
Stop Loss และ Take Profit
คราวนี้ฉันยุ่งมาก ฉันไม่ได้อยู่ดูแผนภูมิเป็นครั้งคราวดังนั้นฉันจึงตัดสินใจใช้คำสั่ง Take Profit และ Stop Loss ฉันอยากจะทำกำไรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และในเวลาเดียวกันความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันก็คือการหลีกเลี่ยงการสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันได้รับ ฉันเข้าใจว่าบางครั้งราคาสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วมากดังนั้นเทรดเดอร์จึงต้องเตรียมพร้อมและเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า ในกรณีนี้อาวุธลับของฉันคือ TP และ SL!
Take Profit และ Stop Loss
ถ้าให้พูดอย่างตรงไปตรงมาแล้วล่ะก็ (รู้สึกอับอาย) ฉันไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษใดๆในการหาที่ที่จะวาง Take Profits และ Stop Losses ของฉัน ฉันเพียงแค่ดูที่แผนภูมิและวางคำสั่งเหล่านี้ลงในที่ที่ฉันรู้สึกว่าเหมาะสม
ภาพหน้าจอจาก MetaTrader ของฉัน
ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์
หนึ่งในกฎสำคัญในการบริหารความเสี่ยงนั่นก็คือ TP ของคุณควรมีขนาดใหญ่กว่า SL ของคุณ ตัวอย่างเช่น Take Profit ของคุณอาจเท่ากับ 30 คะแนนในขณะที่ Stop Loss ของคุณเท่ากับ 10 คะแนน วิธีนี้จะใช้ได้ดีหากการเทรดของคุณออกมาไม่ดีนัก คุณก็จะยังคงสามารถทำกำไรจากการเทรดที่ดีของคุณได้ เมื่อคุณกำลังมองหาที่ที่จะวาง SL และ TP ให้มองไปที่ค่า highs และค่า lows ในแผนภูมิราคา หากคุณวางออเดอร์ของคุณไว้ใกล้กับพวกมัน การเทรดของคุณก็จะทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น ลองดูสิ!
อารมณ์
คราวนี้ฉันยังได้สังเกตเห็นบางอย่างมาอีกด้วย:
1. การปิดการเทรดที่ทำกำไรได้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อรักษาผลกำไรนั้นเป็นสิ่งที่ยั่วยวนใจมากแม้ว่าฉันจะเห็นว่าตลาดยังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ฉันคาดไว้อยู่ก็ตาม
2. เมื่อฉันประสบกับความสูญเสียในการเทรดฉันก็จะไม่ต้องการปิดมันเพราะฉันหวังว่าตลาดจะเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้าม ผลที่ตามมาก็คือฉันจะประสบกับความสูญเสียมากกว่าเดิมเนื่องจากความโลภของฉัน
ฉันเข้าใจว่าสถานการณ์เช่นนี้จะทำให้การเทรดเป็นเรื่องที่เครียด ฉันจัดการกับเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร? นอกเหนือจากการร้องไห้ออกมาดังๆและจิกผมตัวเอง
ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์
คุณพูดได้ถูกต้องที่สุด เทรดเดอร์จำนวนมากต้องทนทุกข์ทรมานจากปัญหานี้ วิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะปัญหานี้คือการเลือกระดับ TP และ SL ของคุณล่วงหน้าและไม่เปลี่ยนแปลงพวกมันในภายหลังแม้ว่าคุณจะอยากเปลี่ยนแปลงมากแค่ไหนก็ตาม ด้วยวิธีนี้คุณจะมีแรงจูงใจในการคิดล่วงหน้าเรื่องการเทรดของคุณอย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น คุณจะเห็นว่าภาระที่หนักอึ้งได้ถูกยกออกไปจากบ่าของคุณ แล้วคุณจะไม่หมกมุ่นอยู่กับการเทรดใดการเทรดหนึ่งและจะไม่สูญเสียโอกาสที่จะได้รับผลกำไรจากการเทรดครั้งอื่นๆ
ผลลัพธ์
ฉันสามารถทำกำไรได้อีกครั้ง ไชโย! กำไรอาจจะสูงได้มากกว่านี้แต่คราวหน้า (ฉันสัญญา!) ฉันจะใช้คำแนะนำที่นักวิเคราะห์ได้ให้ไว้กับฉันและจะพยายามทำให้ผลกำไรของฉันเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า!
ตอนนี้ฉันพร้อมที่จะสรุปแล้ว การวางแผนระยะยาวและการสร้างยุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยความรู้ในระดับสูง ด้วยระดับประสบการณ์ของฉันออเดอร์ระยะสั้นที่ได้กำไรเล็กๆจากการเทรดในแต่ละครั้งจะมีประสิทธิภาพมากกว่า แม้ว่าในระยะสั้นฉันก็สามารถใช้ตัวบ่งชี้อย่าง MA เพื่อรับแนวคิดในการเทรดได้ นอกจากนี้ Stop Loss และ Take Profit จะช่วยรักษาสุขภาพจิตและจะช่วยประหยัดเงิน (รวมทั้งลดการสูญเสียเส้นผมบนหัว) ของเทรดเดอร์อีกด้วย!
ออเดอร์ของฉัน
สิ่งสำคัญสิ่งที่สองที่เกิดขึ้นคือ - ฉันตระหนักได้ว่าฉันไม่ต้องการเทรดโดยไม่เข้าใจว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ เซอร์ไพร์ส! คุณไม่สามารถเป็นผู้ชนะได้ตลอดเวลาและแน่นอนว่าการสูญเสียมักจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ แต่เมื่อคุณทำกำไรได้ดีคุณก็จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนจ้าวแห่ง Forex! ฟังดูเหมือนคำพูดจากขงจื้อ แต่มันได้ผลจริง 100%!
ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์
ฉันภูมิใจในตัวคุณ! ใจเย็นไว้และเดินหน้าต่อไป! การบ้านต่อไปของคุณคือศึกษาวิธีการวาดเส้นแนวโน้มและหาระดับแนวรับและแนวต้าน