อธิบาย ROI ในการเทรด

ROI ในการเทรดคืออะไร?

ROI ย่อมาจาก "Return On Investment" หมายถึง "ผลตอบแทนจากการลงทุน" และเป็นแนวคิดทางการเงินที่แสดงกำไรหรือขาดทุนที่เกิดจากการลงทุน แนวคิดนี้สามารถใช้ได้กับอุตสาหกรรมใด ๆ ก็ตามที่สามารถลงทุนได้และสร้างผลกำไร (หรือขาดทุน) รวมถึงการเทรดออนไลน์หรือ Forex ด้วย ดังนั้นในบทความนี้ เรามาพูดถึง ROI ในการเทรดกันดีกว่า

เมื่อเราคิดถึงผลตอบแทนจากการลงทุนในการเทรด เราจำเป็นต้องเข้าใจข้อมูลจากทั้งสองฝั่ง ได้แก่ การลงทุนและผลตอบแทน เราจะสามารถพิจารณาการลงทุนในการเทรดอย่างไร? โดยพื้นฐานแล้ว เราถือว่าเงินที่คุณนำเข้าบัญชีโบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการลงทุนของคุณ คุณใช้เงินนั้นเพื่อเปิดสถานะของคุณ นี่คือสิ่งที่เราถือว่าเป็นการลงทุนในการเทรดของคุณ

ยอดคงเหลือที่เปลี่ยนแปลงในบัญชีซื้อขายของคุณสะท้อนถึงผลลัพธ์ของสถานะที่เปิดอยู่ ซึ่งคือ กำไรหรือขาดทุน คุณสามารถใช้ตัวเลขสองตัวนี้เพื่อคำนวณ ROI ในการเทรดของคุณได้

วิธีการคำนวณหา ROI

ผลตอบแทนจากการลงทุนคือเปอร์เซ็นต์ที่ช่วยให้เราเข้าใจความสามารถในการทำกำไรหรือประสิทธิภาพของการลงทุนที่คุณทำ โดยอาจแสดงเป็นอัตราส่วนสัมบูรณ์ (0.3) หรือเปอร์เซ็นต์ (30%)

กำไรสุทธิในที่นี้ หมายถึง เงินทั้งหมดที่คุณหาได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ในขณะที่ต้นทุนสุทธิคือเงินลงทุนเริ่มแรกทั้งหมดของคุณ ซึ่งก็คือเงินทั้งหมดที่คุณใส่เข้ามาในโปรเจ็กต์หนึ่ง

มูลค่าที่สูงแสดงถึงการลงทุนที่ให้ผลกำไรสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้ได้ผลดีและได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูง และในทางกลับกัน หากตัวเลขติดลบ ก็แสดงว่านักลงทุนขาดทุนแทนที่จะได้กำไร

ทำไม ROI ถึงสำคัญ?

ROI มีความสำคัญมากเนื่องจากช่วยให้เราสามารถประเมินผลลัพธ์จริงในการเทรดได้ เนื่องจาก ROI คำนวณโดยใช้สูตรง่าย ๆ จึงเป็นตัวชี้วัดที่ใช้งานได้จริงและตรงไปตรงมา ซึ่งเทรดเดอร์สามารถใช้ได้ไม่ว่าระดับประสบการณ์ของพวกเขาจะอยู่ในระดับใดก็ตาม

ตัวอย่างเช่น การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการลงทุนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งโดยทั่วไปมักเปรียบเทียบได้ยาก เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุนในสตาร์ตอัปด้าน IT แม้ว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบโดยตรงได้เนื่องจากมีลักษณะที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่คุณยังคงสามารถคำนวณ ROI สำหรับสินทรัพย์ใด ๆ ก็ตาม และเปรียบเทียบสินทรัพย์ที่ไม่สามารถเปรียบเทียบเป็นอย่างอื่นได้

ค่า ROI ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบเครื่องมือการลงทุนต่าง ๆ เพื่อดูว่าเครื่องมือใดเหมาะกับคุณมากกว่า ตัวอย่างเช่น คุณอาจชอบเทรดคู่สกุลเงินแปลกใหม่ ขณะที่การเทรด Forex ของคุณให้ผลตอบแทนเพียง 5% ในขณะเดียวกัน คุณได้รับ ROI 15% จากการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำและน้ำมันดิบ) สำหรับช่วงเวลาเดียวกัน หลังจากการวิเคราะห์นี้ คุณจะสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และโฟกัสไปที่เวลาของคุณและการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ได้

นอกจากนี้ หากคุณจดบันทึกค่า ROI มาเป็นระยะเวลานาน คุณจะสามารถสรุปได้มากขึ้นเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรดและพอร์ตการลงทุนของคุณได้ นอกจากสถิติสำหรับสถานะที่เปิดและปิดแล้ว คุณยังจะได้เห็นภาพรวมประสิทธิภาพโดยรวมของคุณที่กว้างขึ้นอีกด้วย

ตัวอย่างการใช้งาน ROI

เรามาลองพิจารณาเทรดเดอร์รายย่อยสองรายที่มีแนวทางการเทรดที่แตกต่างกันนี้ดูนะ

• หนึ่งในนั้นไม่ได้คำนวณ ROI เลยและเทรดแบบสุ่ม ๆ พวกเขาเปิดสถานะและดูแค่ผลลัพธ์ของสถานะนี้อย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงกำไรหรือขาดทุนในระยะยาว เทรดเดอร์รายนี้คาดหวังว่าเงินที่ลงทุนไปในตอนแรกของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นสองเท่าทุกเดือน เนื่องจากนี่คือ ROI ที่สูงมากสำหรับการเทรด ความคาดหวังของเทรดเดอร์รายนี้จะไม่เกิดขึ้นจริงในทุก ๆ เดือน ในความเป็นจริง ผลตอบแทน Forex โดยเฉลี่ยมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่ามาก และเป็นเรื่องปกติเนื่องจากเป็นกระบวนการทางการเงิน ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเทรดเดอร์รายนี้คาดหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ในที่สุดเขาก็ผิดหวังและเลิกเทรดไป
• ในขณะที่อีกคนเทรดอย่างรอบคอบ คำนวณ ROI เพื่อทำความเข้าใจผลลัพธ์โดยรวม และปฏิบัติตามกลยุทธ์การเทรดของตนเอง เทรดเดอร์รายนี้คำนวณมูลค่า ROI ของตนทุกเดือน และนำมูลค่าในแต่ละเดือนมาเปรียบเทียบกัน ดังนั้นเทรดเดอร์รายนี้จึงมีความคาดหวังที่สมจริงมาก บุคคลนี้รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขากำลังพัฒนาขึ้นจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงทำตามแผนของเขาต่อไปเพื่อบรรลุเป้าหมายที่เป็นจริงได้อย่างมั่นใจ ผลลัพธ์โดยรวมนั้นจะออกมาดีกว่ามากเนื่องจากต้องใช้ความมั่นใจและความรู้ในการเทรดทั้งสิ้น

ข้อจำกัดของ ROI

คุณได้รู้แล้วว่า ROI เป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์มากซึ่งสามารถแสดงให้เห็นได้มากมายเกี่ยวกับแนวทาง กลยุทธ์ และความเข้าใจโดยรวมของคุณเกี่ยวกับตลาด อย่างไรก็ตาม ROI ก็มีข้อจำกัดบางประการที่คุณควรทำความเข้าใจเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ได้ดีขึ้น

ประการแรก ROI จะไม่พิจารณามูลค่าของเงินตามเวลา ในการคำนวณ ROI คุณเพียงแค่ใช้เงินลงทุนและเปรียบเทียบกับผลกำไร กำไรอาจดูน่าประทับใจ แต่ถ้าคุณคำนึงถึงเวลาด้วย คุณอาจเห็นสถานการณ์ในมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น ROI 20% นั้นดูดีมาก ๆ แต่ถ้าคิดจากเวลา 5 ปี ก็ถือว่าไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไร

นอกจากนี้การคำนวณ ROI ไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยงแต่อย่างใด ความเสี่ยงเป็นเรื่องปกติสำหรับการลงทุนใด ๆ ก็ตาม และสำหรับ Forex ผลตอบแทนที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงมากกว่าในด้านอื่น ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์หรือเงินฝากในธนาคาร การลงทุนที่มีความเสี่ยงมักจะมีค่า ROI ที่มีศักยภาพสูง แต่เหตุผลง่าย ๆ ก็คือ มีจุดมุ่งหมายเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงขึ้น หากคุณต้องการเห็นภาพรวม คุณจะต้องพิจารณาความเสี่ยงควบคู่กับผลตอบแทนจาก Forex ด้วย

อีกแง่มุมหนึ่งคือ ROI ทำให้แนวคิดเรื่องผลตอบแทนดูได้ง่ายมาก ๆ มันไม่ได้พิจารณาจากการลงทุนที่ต่อเนื่อง โดยพิจารณาเสมือนว่าคุณลงทุนเพียงครั้งเดียวเท่านั้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใด ๆ และสิ่งนี้ไม่เป็นความจริงในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ รวมถึงการเทรดด้วย คุณอาจอยากฝากเงินเพิ่มเข้าไปในบัญชีของคุณครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้สามารถซื้อขายล็อตที่สูงขึ้นได้ คุณอาจต้องเผชิญกับค่าคอมมิชชันหรือค่าใช้จ่ายใหม่ ๆ เมื่อคุณลองใช้ตราสารใหม่สำหรับพอร์ตโฟลิโอของคุณ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว คุณอาจต้องการจ่ายค่าฝึกอบรม และอาจนับว่านั่นเป็นการลงทุนในเส้นทางการเทรดของคุณด้วย

เราต้องจำไว้ด้วยว่า ROI นั้นเป็นตัวชี้วัดในอดีต กล่าวคือ จะแสดงเฉพาะผลลัพธ์ของการลงทุนที่ผ่านมาเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทำนายผลกำไรในอนาคตได้ คุณอาจพิจารณาได้ว่า หากโดยทั่วไปคุณมี ROI จากการเทรด 15% ในช่วงระยะเวลา 5 ปี มันก็จะเท่าเดิมในปีหน้าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่เป็นจริงเสมอไป และปัจจัยสำคัญอื่น ๆ อีกมากมายอาจส่งผลต่อมูลค่าในหนึ่งปี

จากทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เห็นว่า ROI ไม่สามารถใช้เป็นเพียงตัวชี้วัดเดียวในการพิจารณาความสำเร็จหรือความล้มเหลวในการลงทุนได้ เทรดเดอร์จะต้องใช้ตัวชี้วัดอื่น ๆ มาประกอบเพิ่มเติมและพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น เวลาหรือการลงทุนที่ต่อเนื่อง เพื่อดูว่าพวกเขายืนอยู่จุดใดในแง่ของความสำเร็จทางการเงิน เมื่อเทรดเดอร์เข้าใจ ROI ของตนสำหรับตราสารการซื้อขายต่าง ๆ พวกเขาอาจกระจายพอร์ตโฟลิโอของตนเพื่อลดความเสี่ยงและมุ่งเน้นไปที่ตราสารที่ทำกำไรได้มากขึ้น

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ROI ในการเทรดคืออะไร?

ในการเทรด ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน) คืออัตราส่วนที่แสดงจำนวนเงินที่เทรดเดอร์ได้รับหรือสูญเสียเมื่อเทียบกับการลงทุนเริ่มแรก มูลค่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของการลงทุนบางอย่าง หากคุณฝากเงิน $500 เข้าบัญชีซื้อขายของคุณกับโบรกเกอร์ เช่น FBS และได้รับกำไร $100 แสดงว่า ROI ของคุณคือ 20%

ROI สามารถรับประกันในการเทรดได้หรือไม่?

น่าเสียดายที่ไม่มีการรับประกันใด ๆ ทั้งสิ้นในการเทรด รวมถึงการรับประกันผลตอบแทนหรือผลกำไรบางส่วนโดยเฉพาะด้วย การเทรดนั้นมีความเสี่ยง ดังนั้น แม้ว่า ROI จะน่าประทับใจเมื่อเทียบกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น อสังหาริมทรัพย์หรือพันธบัตรรัฐบาล แต่ก็แสดงถึงความเสี่ยงที่สูงกว่าเช่นกัน

การเทรดสามารถสร้างรายได้ที่น่าประทับใจสำหรับตราสารที่มีความผันผวนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญในตลาด อย่างไรก็ตาม การขาดทุนก็เป็นไปได้เช่นกัน แม้ว่าจะเป็นสินทรัพย์หรือตราสารเดียวกันก็ตาม ดังนั้น ณ จุดนี้จึงไม่มีการรับประกันใด ๆ ทั้งสิ้น และคุณควรประเมินและจัดการความเสี่ยงของคุณอยู่เสมอ

ROI ในการเทรดโดยเฉลี่ยสามารถทำเงินได้เท่าใด?

ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ROI เฉลี่ยสำหรับการเทรดโดยทั่วไป และโดยเฉพาะสำหรับ Forex แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็น ROI 50% จากกลยุทธ์การเทรดที่ดีและการตัดสินใจซื้อขายบางอย่างอย่างเหมาะสมในช่วงที่มีความผันผวนสูง แต่ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกตินัก ในความเป็นจริง นักลงทุนส่วนใหญ่ยอมรับว่าตัวเลขที่เป็นบวกคือ ROI ที่ดี ROI ที่ยอดเยี่ยมคือ 20% ในขณะที่เทรดเดอร์ที่เทรดอย่างแข็งขันส่วนใหญ่พอใจกับตัวเลข 10-15%

สรุป

การเทรดคือตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้ออนไลน์ สินทรัพย์จำนวนหลายรายการที่คุณซื้อขายออนไลน์ (และอนุพันธ์ต่าง ๆ เช่น คู่สกุลเงิน Forex) อาจให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าดึงดูดใจมาก อย่างไรก็ตาม ทุกคนควรจำไว้ว่าความสามารถในการทำกำไรสูงมักมาพร้อมกับความเสี่ยงสูง แม้ว่า ROI จะสามารถใช้เพื่อเปรียบเทียบโอกาสในการลงทุนต่าง ๆ เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการกระจายพอร์ตการลงทุน แต่คุณก็ควรใช้เมตริกและเครื่องมืออื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย เพื่อประเมินความเสี่ยงได้ดีขึ้น ใช้เวลาในการพิจารณา และคำนึงถึงต้นทุนที่กำลังดำเนินอยู่ของการลงทุน