บทความนี้เป็นเนื้อหาสรุปการซื้อขายหุ้นในจีน โดยสำรวจปัจจัยที่ทำให้หุ้นจีนร่วงลง ประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างรวดเร็ว และพิจารณาความเสี่ยงและแนวโน้มการลงทุนในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นสำหรับตลาดหุ้นจีน
ภาวะตลาดหุ้นจีน
ในช่วงต้นปี 2021 ราคาหุ้นจีนเริ่มดิ่งลง และเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นในปีที่ผ่านมาเนื่องจากปัจจัยหลายประการ สาเหตุหลักคือการจัดระเบียบในวงกว้างในภาคเทคโนโลยีและการศึกษา ซึ่งทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่สูญเสียมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020
นโยบาย Zero Coupon อันเข้มงวดของจีนทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นทางธุรกิจ อุปสงค์ในประเทศ และผลผลิตทางเศรษฐกิจโดยรวม แม้ว่ามาตรการล็อกดาวน์จะถูกยกเลิกไปตั้งแต่เมื่อต้นปี 2023 แล้วก็ตาม แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็ยังคงช้าและมีความผันผวน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรขององค์กรและผลการดำเนินงานของหุ้นในภาคส่วนต่าง ๆ
นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสหรัฐอเมริกา ได้เพิ่มสูงขึ้น ก่อให้เกิดมาตรการการลงทุนที่เข้มงวด ซึ่งทำให้สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจตึงเครียดมากขึ้น ในปี 2024 หลังเทศกาลตรุษจีน ได้มีการประกาศมาตรการกำกับดูแลใหม่ภายใต้การนำของ หวู่ ชิง (Wu Qing) หัวหน้า CSRC คนใหม่ เพื่อเสริมสร้างการตรวจสอบแนวทางปฏิบัติด้านตลาดให้เข้มงวดยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้จะมีความพยายามในการดำเนินการมากมายเช่นนี้ แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงต่ำ เนื่องจากการบังคับใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านการปั่นป่วนตลาดและกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ
ในช่วงเวลานี้ Shanghai Composite และดัชนีหลักอื่น ๆ ร่วงลงอย่างรวดเร็ว และบริษัทใหญ่ ๆ เช่น Great Wall Motor และ Poly Real Estate ประสบปัญหาราคาหุ้นลดลงอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ภายในเดือนมกราคม ปี 2024 หุ้นของ Great Wall Motor ลดลง 27.86% และหุ้นของ Poly Real Estate ลดลง 43.81%
รัฐบาลพยายามที่จะแทรกแซงโดยเสนอการอัดฉีดทางการเงินจำนวนมาก ตามที่มีรายงานว่ามีการอัดฉีดเงินมูลค่า 2 ล้านล้านหยวนจากบัญชีนอกอาณาเขตของรัฐวิสาหกิจ เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด อย่างไรก็ดี มาตรการเหล่านี้ยังไม่สามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างเต็มที่
สัปดาห์ที่ยากลำบากสำหรับหุ้นจีน
ตลาดหุ้นจีนมีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งสัปดาห์อย่างไม่คาดคิด ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากการแทรกแซงของรัฐบาลและความเชื่อมั่นของตลาด การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้เน้นย้ำด้วยประกาศสำคัญในระหว่าง "การประชุมสองสภา" (Two Sessions) เมื่อต้นเดือนมีนาคม ปี 2024 ซึ่งจุดประกายความหวังและสร้างความกังขาในหมู่นักลงทุนและนักวิเคราะห์
รัฐบาลจีนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาคหลายมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดและเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน สิ่งสำคัญในบรรดาข้อเสนอเหล่านี้คือแพ็กเกจช่วยเหลือมูลค่า 319 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรองรับตลาด A-share ที่ตกต่ำ แพ็กเกจนี้รวมเงินทุนจากบัญชีนอกอาณาเขตของรัฐวิสาหกิจ (SOE) ของจีน และเงินทุนเพิ่มเติมจากบริษัท "ทีมชาติ" เช่น China Securities Finance Corp และ Central Huijin Investment แม้จะมีการแทรกแซงด้วยการอัดฉีดจำนวนมากขนาดนี้ก็ตาม แต่ปฏิกิริยาของตลาดก็ผสมปนเปกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับการนำไปใช้จริงและประสิทธิผลของกองทุนเหล่านี้
ในช่วงแรก ตลาดมีปฏิกิริยาเชิงบวกต่อประกาศดังกล่าว โดยดัชนีสำคัญ ๆ เช่น Hang Seng Index และ CSI 300 ฟื้นตัวเล็กน้อยจากระดับต่ำสุด อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น ๆ เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงการฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดที่ช้า และปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังดำเนินอยู่ ยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์
นักวิเคราะห์ยังคงแสดงท่าทีที่ระมัดระวัง โดยชี้ให้เห็นว่าแม้ความตั้งใจของรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพของตลาดจะชัดเจน แต่ผลกระทบที่แท้จริงของมาตรการเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับการดำเนินการที่ประสบความสำเร็จ และความสามารถในการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่ลึกลงไปภายในเศรษฐกิจจีน โดยมีความคิดเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า แม้ว่าความพยายามเหล่านี้อาจช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้ในระยะสั้น แต่ความมั่นคงในระยะยาวก็ยังไม่สามารถรับประกันได้
องค์กรทางการเงินหลัก ๆ เช่น Goldman Sachs และ UBS คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจีนจะฟื้นตัว Goldman Sachs คาดว่าดัชนีหลัก ๆ เช่น MSCI China และ CSI 300 จะเพิ่มขึ้น โดยอ้างถึงการเติบโตของกำไรที่คาดหวังและการแข็งค่าปานกลางเป็นปัจจัยสำคัญ พวกเขามองว่าการผ่อนคลายนโยบายที่อาจเกิดขึ้น การกระตุ้นทางการคลัง และการผ่อนคลายกฎระเบียบของอุตสาหกรรม เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อการรักษาเสถียรภาพและการเติบโตของตลาด
หุ้นจีนวันนี้: ปัจจัยสนับสนุนและปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยสนับสนุน
ถึงแม้จะมีความวุ่นวาย แต่ปัจจัยสนับสนุนหลายประการก็สร้างความมั่นคงและการเติบโตของตลาดหุ้นจีนได้ ดังนี้
การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล
ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ปัจจัยเสี่ยง
แม้ว่าปัจจัยสนับสนุนอาจช่วยรักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้นในประเทศได้ แต่ปัจจัยเสี่ยงหลายประการอาจยังคงส่งผลต่อสถิติหุ้นจีนและก่อให้เกิดความท้าทายที่สำคัญสำหรับนักลงทุนได้
ภัยคุกคามต่อราคาหุ้นจีนปัจจุบัน ประกอบด้วย
การชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบ
ความเชื่อมั่นของตลาดในประเทศ
สภาพเศรษฐกิจโลก
สรุป
การลดลงของหุ้นจีนสู่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษถือเป็นจุดเปลี่ยน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและกฎระเบียบที่ลึกซึ้ง อย่างไรก็ตาม ความพยายามของรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพของตลาดและเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวของจีนที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นมา
ในช่วงเวลาแห่งความปั่นป่วนผันผวนเหล่านี้ อนาคตของสถิติหุ้นจีนแขวนอยู่บนเส้นด้าย โดยได้รับอิทธิพลจากทั้งนโยบายเศรษฐกิจภายในประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้ว่าความเสี่ยงจะยังคงสูงเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างต่อเนื่องและความผันผวนของตลาดภายในประเทศ นโยบายเชิงกลยุทธ์ของรัฐบาลและความแข็งแกร่งภายในประเทศของเศรษฐกิจจีนอาจปูทางไปสู่ความสนใจของนักลงทุนใหม่และเสถียรภาพของตลาด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ฉันจะซื้อหุ้นจีนได้อย่างไร?
หากต้องการซื้อหุ้นจีน คุณสามารถเปิดบัญชีโบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์กับบริษัทที่ให้การเข้าถึงตลาดหุ้นจีนได้ ตรวจสอบให้ดีว่าโบรกเกอร์นั้นมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบสำหรับนักลงทุนต่างประเทศ พิจารณาใช้แพลตฟอร์มโบรกเกอร์ระหว่างประเทศหรือโบรกเกอร์ท้องถิ่นในประเทศจีน ค้นคว้าข้อมูลและเลือกหุ้นที่ต้องการ จากนั้นส่งคำสั่งซื้อผ่านโบรกเกอร์ที่คุณเลือก โปรดคำนึงถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราและข้อจำกัดด้านกฎระเบียบที่อาจมีด้วย คุณควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและพิจารณาปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน
วิธีลงทุนในตลาดหุ้นจีน
หากต้องการลงทุนในตลาดหุ้นจีน ให้เปิดบัญชีโบรกเกอร์ระหว่างประเทศ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ดังกล่าวให้บริการเข้าซื้อขายหุ้นจีนได้ กรอกข้อมูลที่จำเป็นและปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ค้นคว้าข้อมูลและเลือกหุ้นที่คุณต้องการซื้อ จากนั้นส่งคำสั่งซื้อของคุณผ่านแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์ โปรดคำนึงถึงการแลกเปลี่ยนสกุลเงินและความแตกต่างด้านกฎระเบียบ และพิจารณาปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน
ตอนนี้ตลาดหุ้นจีนเปิดให้เทรดไหม?
ตลาดหุ้นจีนเปิดให้ซื้อขายแล้ว โดยเปิดให้บริการในวันธรรมดา ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 9:30 น. ถึง 15:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ตลาดจะปิดให้บริการตามวันหยุดนักขัตฤกษ์ของประเทศจีน