ทำความรู้จักรูปแบบกราฟ Double Bottom และ Double Top

การระบุรูปแบบกราฟได้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการซื้อขายอย่างยิ่ง รูปแบบ Double Bottom และ Double Top เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญสำหรับการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเทรดเดอร์ใช้กันอย่างแพร่หลายในภาคการเงินต่าง ๆ เช่น รูปแบบกราฟหุ้น, Forex และอื่น ๆ เทรดเดอร์สามารถเพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์และดำเนินการตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วนจากการสำรวจรูปแบบ ความสำคัญ และกลยุทธ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้องของกราฟเหล่านี้

Double Bottom คืออะไร?

Double Bottom เป็นหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่แนวโน้มเป็นขาลง ซึ่งส่งสัญญาณถึงการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น โดยมีรูปร่างคล้ายกับตัวอักษร "W" ประกอบด้วยจุดต่ำสุดสองจุดต่อเนื่องกันที่ระดับราคาเดียวกันโดยประมาณ คั่นด้วยจุดสูงสุดที่เห็นได้ชัด รูปแบบนี้บ่งบอกถึงแรงกดดันในการขายที่ลดลงและความแข็งแกร่งในการซื้อที่เพิ่มขึ้น การยืนยันรูปแบบจะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุจุดสูงสุดที่อยู่ระหว่างจุดต่ำสุดขึ้นมา ซึ่งบ่งชี้ถึงการกลับตัวในแนวโน้มขาลงก่อนหน้านี้ ตามกฎพื้นฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิค จุดต่ำสุดที่ถูกแตะสองครั้งจะสร้างระดับแนวรับ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขายกดราคาลงและทำให้ผู้ซื้อดันราคาให้สูงขึ้นได้ รูปแบบนี้มีจุดต่ำสุดที่แตกต่างกันสองจุด จึงเรียกว่า "Double Bottom"

รูปแบบ Double Top คืออะไร?

รูปแบบ Double Top ปรากฏขึ้นหลังกราฟแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งส่งสัญญาณถึงการกลับตัวของแนวโน้มขาลง มีลักษณะเป็นจุดสูงสุดสองจุดที่ต่อเนื่องกัน ณ ระดับราคาเดียวกัน และถูกคั่นด้วยจุดต่ำสุดหนึ่งจุด รูปร่างคล้ายกับตัวอักษร “M” โดยจุดสูงสุดแรกเริ่มก่อตัวขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ตามด้วยการร่วงลงมาปานกลางถึงระดับแนวรับหรือเส้น neckline จากนั้น ราคาจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดที่สอง แล้วตามมาด้วยการเคลื่อนไหวเป็นขาลงอย่างต่อเนื่อง โดยทะลุแนวรับหรือเส้น neckline การยืนยันรูปแบบเกิดขึ้นเมื่อการเคลื่อนตัวในขาลงครั้งที่สองทะลุเส้น neckline ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะร่วงลงต่อไป Double Top เป็นตัวอย่างของรูปแบบกราฟคลาสสิกแถมยังเป็นที่นิยมอีกด้วย

รูปแบบนี้บ่งชี้ถึงโมเมนตัมการเข้าซื้อที่อ่อนแรงลงและแรงกดดันในการขายที่เพิ่มขึ้น เทรดเดอร์ยืนยันรูปแบบ Double Top เมื่อราคาตกลงต่ำกว่าจุดต่ำสุด ซึ่งยืนยันการเปลี่ยนแปลงไปสู่แนวโน้มขาลง

วิธีการใช้รูปแบบกราฟ Double Bottom และ Double Top

การระบุ Double Bottom และ Double Top

เพื่อให้สามารถระบุรูปแบบ Double Top และ Double Bottom ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทรดเดอร์จะต้องติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด และมองหาจุดต่ำสุดสองจุดที่เกิดขึ้นในระดับไล่เลี่ยกันที่คล้ายตัว W หรือจุดสูงสุดสองจุดที่คล้ายตัว M โดยมีจุดสูงสุดหรือต่ำสุดที่เห็นได้ชัดเจนแทรกอยู่ระหว่างสองจุดนั้น โดยควรสังเกตว่า การก่อตัวของรูปแบบเหล่านี้ต้องมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ลดลง ซึ่งจะทำให้แรงกระตุ้นพื้นฐานอ่อนลง

การยืนยันและจุดเข้า

รูปแบบ Double Top หรือ Double Bottom จะได้รับการยืนยันเมื่อราคาพุ่งทะลุจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดที่แทรกอยู่ตรงกลางของสองรูปแบบ ซึ่งเป็นด้านบนสำหรับ Double Bottom หรือด้านล่างสำหรับ Double Top โดยทั่วไปเทรดเดอร์จะรอให้มีการพุ่งทะลุจุดนี้ไปเพื่อยืนยันรูปแบบก่อนที่จะทำการซื้อขาย นอกจากนี้ พวกเขาอาจใช้ตัวบ่งชี้เสริม เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หรือออสซิลเลเตอร์ เพื่อเสริมการวิเคราะห์ด้วย

การตั้งค่าระดับ Stop Loss และ Take Profit

การจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิผลถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการซื้อขาย Forex เพื่อบรรเทาความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น เทรดเดอร์สามารถวางคำสั่ง Stop Loss ที่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของ Double Bottom หรือสูงกว่าจุดสูงสุดของ Double Top มาตรการป้องกันนี้จะช่วยจำกัดการสูญเสียหากรูปแบบไม่เกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ การกำหนดระดับ Take Profit ตามเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือระดับแนวรับ/แนวต้านก่อนหน้า ก็จะช่วยรักษาผลกำไรด้วยเช่นกัน ซึ่งแนะนำให้ตั้งเป้าหมายไว้ที่อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ 1:2 หรือสูงกว่า เพื่อให้มั่นใจว่าผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นมีมากกว่าการสูญเสีย

การตรวจสอบสัญญาณหลอก

ถึงแม้ว่ารูปแบบ Double Top และ Double Bottom จะเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้ แต่การให้สัญญาณที่ผิดพลาดก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เทรดเดอร์ควรระมัดระวังและพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความเชื่อมั่นของตลาด ข่าวเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการตกหลุมพรางของการพุ่งทะลุหลอก

ตัวอย่างของคำสั่งซื้อขาย

เพื่อแสดงให้เห็นการประยุกต์ใช้รูปแบบ Double Bottom และ Double Top ในสถานการณ์การซื้อขายจริง โปรดดูตัวอย่างดังต่อไปนี้

หลังจากที่อยู่ในแนวโน้มขาลงมาเป็นเวลานาน เราก็พบรูปแบบ Double Bottom ที่เกิดขึ้นบน XAUUSD จุดต่ำสุดจุดแรกเกิดขึ้นที่ 1,620 ตามด้วยการดีดตัวขึ้นมาปานกลาง ต่อมาราคาร่วงกลับลงไปที่ 1,620 ทำให้เกิดจุดต่ำสุดที่สอง เราสังเกตเห็นปริมาณการซื้อขายที่ลดลงในระหว่างการก่อตัวนี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น

การยืนยันรูปแบบ Double Bottom จะเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวต้านด้านบน (neckline) ที่เกิดจากรูปแบบนี้ที่ 1,725 จากนั้นเทรดเดอร์ก็เปิดสถานะซื้อ โดยคาดว่าจะมีการกลับตัวในแนวโน้มขาขึ้น เพื่อจัดการความเสี่ยง พวกเขาวางจุด Stop Loss ไว้ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของ Double Bottom ที่ 1,600

เมื่อราคาสูงขึ้น เทรดเดอร์จะตั้งค่าระดับ Take Profit ตามระดับแนวต้านก่อนหน้าที่ 1,950 โดยกำหนดเป้าหมายของอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนไว้ที่ 1:2 เมื่อราคาถึงระดับ Take Profit ที่กำหนดไว้ เทรดเดอร์จะปิดสถานะเพื่อรักษาผลกำไรนั้น

สรุป

โดยสรุป รูปแบบ Double Bottom และ Double Top ถือเป็นเครื่องมือจำเป็นที่ขาดไม่ได้สำหรับเทรดเดอร์ Forex ที่มองหาการกลับตัวของแนวโน้มที่น่าจะเกิดขึ้น รูปแบบเหล่านี้โดดเด่นด้วยรูปแบบและการนำไปใช้ นำเสนอข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด เทรดเดอร์จึงสามารถปรับปรุงกระบวนการตัดสินใจและใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการตลาดได้ ด้วยการทำความเข้าใจความสำคัญและนำไปใช้ในกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างเหมาะสม เช่น เทคนิคการยืนยันและมาตรการการจัดการความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม การระมัดระวังสัญญาณหลอกและปรับกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสมถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับรูปแบบเหล่านี้ เทรดเดอร์จึงสามารถสำรวจตลาด Forex ได้อย่างมั่นใจและปรับปรุงประสิทธิภาพการซื้อขายโดยรวมได้