มาเริ่มต้นกันด้วยข้อมูลพื้นฐาน: Forex หรือ FX คือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่มีการซื้อขายสกุลเงิน
ทุกสกุลเงินจะถูกแสดงด้วยอักษรย่อที่ประกอบด้วยตัวอักษรสามตัว โดยปกติแล้ว เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจดจำได้โดยไม่ต้องท่องจำ ตัวอักษรสองตัวแรกคือชื่อประเทศ และตัวอักษรที่สามคือชื่อสกุลเงิน ตัวอย่างเช่น USD ย่อมาจาก the United States dollar, ส่วน GBP ย่อมาจาก the Great Britain pound เป็นต้น
เมื่อคุณเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรด Forex คุณจะเห็นว่าสกุลเงินต่าง ๆ จะถูกซื้อขายเป็นคู่ ๆ เช่น EURUSD, AUDCHF, NZDJPY เป็นต้น เมื่อวางคำสั่งซื้อขายในตลาด Forex นั่นหมายถึงคุณซื้อสกุลเงินแรก (หลัก) และขายสกุลเงินที่สอง (อ้างอิง) ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกคู่สกุลเงิน EURUSD เพื่อเข้าซื้อ นั่นหมายถึงคุณซื้อสกุลเงินยูโรและขายสกุลเงินดอลลาร์
สกุลเงินหลักและสกุลเงินอ้างอิงคืออะไร?
สกุลเงินหลักและสกุลเงินอ้างอิงต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของคู่เงิน FX แค่นี้แหละ! คู่สกุลเงิน Forex มีโครงสร้างที่เรียบง่ายมาก ๆ โดยสกุลเงินแรกคือสกุลเงินหลัก (base currency) ส่วนสกุลเงินที่สองคือสกุลเงินอ้างอิง (quote or counter currency) ราคาที่คุณเห็นในตลาดจะเป็นมูลค่าสกุลเงินหลักของ Forex ณ ปัจจุบันเทียบกับมูลค่าของสกุลเงินอ้างอิงเสมอ ตัวอย่างเช่น หากอัตราแลกเปลี่ยนของ EURUSD อยู่ที่ประมาณ 1.22 นั่นหมายความว่า 1 ยูโร จะมีมูลค่าประมาณ 1.22 ดอลลาร์สหรัฐ ($1 และ ¢22)
ในหนึ่งคู่สกุลเงิน สกุลเงินหนึ่งจะแข็งแกร่งกว่าอีกสกุลเงิน อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของสกุลเงิน นั้นไม่คงที่และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยเหตุผลหลายประการ สิ่งเหล่านี้มักเป็นเหตุการณ์ทางการเงินต่าง ๆ ที่สำคัญในภูมิภาค นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเปรียบเทียบสกุลเงินและการประเมินมูลค่าเทียบกันจึงสมเหตุสมผล
ประเภทของคู่เงิน: หลัก, รอง, และแปลกใหม่
คู่สกุลเงินหลัก
คู่เงิน Forex ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หรือที่เรียกว่า สกุลเงินหลัก หรือ คู่สกุลเงินหลัก นั้นครอบครองการซื้อขายส่วนใหญ่ในตลาด ซึ่งได้แก่
ดังที่คุณเห็น คู่สกุลเงินหลักของ Forex ทั้งหมดจะมีสกุลเงิน USD และสกุลเงินทั่วไปอื่น ๆ เมื่อรวมกันแล้วจำนวนเหล่านี้คิดเป็นประมาณ 75% ของคำสั่งซื้อขายทั้งหมด นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ สกุลเงินหลักเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดเนื่องจากพวกมันมีสภาพคล่องสูงและมีความผันผวนที่เป็นปกติ ด้วยเหตุนี้ ค่าสเปรดในการซื้อขายคู่สกุลเงินหลักของ Forex จึงต่ำกว่าคู่สกุลเงินรองหรือคู่สกุลเงินแปลกใหม่ ทำให้คู่สกุลเงินเหล่านี้เป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายกันมากที่สุด
คู่สกุลเงินรอง
คู่สกุลเงินยอดนิยมที่ประกอบด้วยสกุลเงินหลักนอกเหนือจากดอลลาร์สหรัฐมักจะเรียกว่า คู่สกุลเงินรอง อย่างไรก็ตาม คู่สกุลเงินเหล่านี้ยังประกอบด้วยสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุด เช่น EUR, GBP, AUD, CAD, NZD, CHF และ JPY อีกด้วย ได้แก่
เมื่อมีการซื้อขายสกุลเงินเหล่านี้ สกุลเงินเหล่านี้จะถูกแปลงเป็นดอลลาร์อเมริกัน ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์จะทำธุรกรรมสองครั้ง ซึ่งอาจทำให้ขาดทุนได้ แม้ว่า USD จะยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในตลาด แต่ความนิยมในการเทรด Forex ก็ได้ทำให้การเทรดคู่สกุลเงินรองเป็นเรื่องที่ปกติมากขึ้นและสะดวกมากขึ้น
คู่สกุลเงินแปลกใหม่
อีกหมวดของคู่สกุลเงิน FX คือคู่เงินแปลกใหม่ โดยทั่วไป สกุลเงินหนึ่งที่ใช้ที่นี่เป็นสกุลเงินที่ได้รับความนิยม เช่น USD ส่วนอีกสกุลเงินหนึ่งเป็นสกุลเงินแปลกใหม่ ซึ่งปกติแล้วจะเป็นสกุลเงินของประเทศที่กำลังพัฒนาหรือประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ FBS เสนอคู่สกุลเงินแปลกใหม่ให้เลือกเทรดมากถึง 44 คู่ ซึ่งบางส่วนได้แก่
ตรวจสอบรายการทั้งหมดของสกุลเงินแปลกใหม่
ความสำคัญของประเภทของคู่สกุลเงิน
ประเภทต่าง ๆ เหล่านี้มักจะสะท้อนถึงสภาพคล่องและความผันผวนของคู่สกุลเงิน
สภาพคล่องและความผันผวนเป็นสองปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อประเภทของคู่สกุลเงิน
สภาพคล่องแสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์รายอื่น ๆ สนใจคู่สกุลเงินนี้มากน้อยเพียงใด คู่เงินที่ได้รับความนิยมมากกว่า (เช่น คู่เงินหลัก) จะมีสภาพคล่องสูงกว่า ส่งผลให้คุณสามารถซื้อและขาย EURUSD ในปริมาณมากได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเสี่ยงว่าจะเกิดการคลาดเคลื่อน (slippage)
ความผันผวนคือช่วงราคาของมูลค่าภายในช่วงเวลาหนึ่ง (วัน, สัปดาห์, เดือน ฯลฯ) ซึ่งแสดงถึงเสถียรภาพของสกุลเงิน โดยมันขึ้นอยู่กับจำนวนคำสั่งซื้อขายที่มีสกุลเงินเฉพาะนี้ในตลาด ความเป็นอยู่ที่ดีทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และเหตุการณ์บางอย่างในเศรษฐกิจมหภาค
สกุลเงินที่มีสภาพคล่องต่ำกว่าจะมีความผันผวนสูงกว่า และในทำนองกลับกัน โดยปกติแล้ว ยิ่งคู่เงินได้รับความนิยมน้อยเท่าไร ความผันผวนก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ความผันผวนสูงอาจเป็นความเสี่ยงสำหรับเทรดเดอร์ แต่มันก็มีแนวโน้มที่จะนำมาซึ่งผลกำไรที่มากขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับสไตล์และกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
เพื่อให้เป็นเทรดเดอร์ที่เก่งขึ้น คุณควรตระหนักถึงแง่มุมเหล่านี้อยู่เสมอ
เทรดเดอร์ควรวิเคราะห์พฤติกรรมของคู่สกุลเงินหลักและสกุลเงินประเภทอื่น ๆ (คู่สกุลเงินรอง, คู่สกุลเงินแปลกใหม่) มันจะช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าสกุลเงินใดจะแข็งแกร่งที่สุดและจะอ่อนแอที่สุดในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ จากข้อมูลนี้ เทรดเดอร์จะสามารถสร้างกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ เนื่องจากสกุลเงินหลักมีความผันผวนน้อยกว่าและมีสภาพคล่องสูงกว่า พวกมันจึงเหมาะกับเทรดเดอร์ scalper และเทรดเดอร์รายวันมากกว่า ในทางตรงกันข้าม สกุลเงินรองและสกุลเงินแปลกใหม่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์แบบ swing เนื่องจากความผันผวนที่เพิ่มขึ้น