NASDAQ เป็นดัชนีของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดที่ไม่ใช่สถาบัน การเงิน 100 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq มันมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น เทคโนโลยี (54%), การบริการ (25%) และการดูแลสุขภาพ (21%)
ดัชนีนี้จะติดตามประสิทธิภาพของบริษัทที่มีนวัตกรรม มากที่สุดในโลกรวมถึง Apple, Google, Intel และ Tesla NASDAQ เป็นมาตรฐานหลักของหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐฯ
ลองนึกภาพตะกร้าของบริษัทที่ออกหุ้น และดัชนี NASDAQ จะคอยติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น มันเป็นที่รู้จักดี สำหรับความผันผวนในแต่ละวัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเทรด เดอร์ทั่วโลกจึงให้ความสนใจ
ดัชนี NASDAQ-100 เป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักมูลค่าหลักทรัพย์ ตามราคาตลาดที่ปรับแล้ว มูลค่าของดัชนีเท่ากับมูลค่า รวมของน้ำหนักหุ้นหรือที่เรียกว่าหุ้นดัชนีของแต่ละดัชนี หลักทรัพย์คูณด้วยราคาขายสุดท้ายของหลักทรัพย์แต่ละ ตัวแล้วหารด้วยตัวหารของดัชนี
การถ่วงน้ำหนักนี้ช่วยจำกัดอิทธิพลของบริษัทที่ใหญ่ ที่สุดและปรับสมดุลดัชนีกับสมาชิกทุกคน ไม่มีบริษัท ใดใน Nasdaq-100 ที่สามารถมีน้ำหนักได้เกิน 24%
คุณสามารถทำการซื้อขายสัญญาส่วนต่าง (CFDs) ของ NASDAQ ได้ CFDs สะท้อนการเคลื่อนไหวของ NASDAQ ช่วยให้คุณสามารถทำการซื้อขายได้ทั้งสองทิศทาง กล่าวคือ คุณสามารถทำกำไรได้จากทั้งขาขึ้นและขาลง ตรวจสอบ ข้อกำหนดสัญญา
นอกจากนี้คุณสามารถใช้ leverage ได้นั่นหมายความว่า คุณสามารถควบคุมตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นได้ด้วยเงินจำนวน น้อย โปรดจำไว้เสมอว่า leverage สามารถให้โอกาสและ ทวีคูณเงินในบัญชีของคุณได้ แต่มันก็อาจทำให้เกิดการ สูญเสียได้มากเช่นกันในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวตรงกัน ข้ามกับทิศทางของคุณ
ส่วนใหญ่เป็นดัชนีภาคเทคโนโลยี NASDAQ ได้รับแรงหนุน จากรายงานผลประกอบการ, กำหนดการณ์สำคัญๆ และการ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นอกจากนี้ปัจจัยต่างๆทางเศรษฐกิจ ของสหรัฐฯ เช่น อัตราดอกเบี้ย, นโยบายการเงิน และตัวชี้วัด ทางเศรษฐกิจ โดยทั่วไปจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อดัชนีเนื่อง จากมีผลกระทบต่ออัตราการลงทุนของบริษัท และความต้อง การผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภค