ปฏิทินเศรษฐกิจ: วิธีการอ่านและใช้งาน

อ่านบทความบนเว็บไซต์ของ FBS

ปฏิทินเศรษฐกิจเป็นส่วนสำคัญของคลังแสงของเทรดเดอร์ Forex ปฏิทินจะแสดงเวลา วันที่ และผลกระทบต่อราคาสกุลเงินที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจในประเทศและระหว่างประเทศ เดี๋ยวเรามาพูดคุยถึงเครื่องมือที่เป็นประโยชน์นี้กันอย่างละเอียด

ปฏิทินเศรษฐกิจใน Forex คืออะไร?

เหตุการณ์บางอย่างจะส่งผลกระทบต่อตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็อยู่ในรูปแบบที่คาดการณ์ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เหล่านี้ต่างส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดและปริมาณการซื้อขาย และทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ที่ช่วยในการระบุโอกาสในการซื้อขายอันล้ำค่า พวกมันยังสามารถทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงความผันผวนในอนาคต ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ได้เตรียมตัวและใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

ด้วยปฏิทินเศรษฐกิจ คุณสามารถวางแผนกลยุทธ์ของคุณได้เพราะคุณจะรู้ว่าเหตุการณ์ใดจะถูกประกาศในอีกไม่กี่วันและอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นอกจากนี้ คุณยังจะได้รับการอัปเดตของตัวเลขต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีอิทธิพลต่อตลาดการเงิน ซึ่งรวมถึงการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐอเมริกา การประกาศอัตราดอกเบี้ย ข้อมูลเงินเฟ้อ ข้อมูลการผลิต GDP และอื่น ๆ

ปฏิทินเศรษฐกิจทำงานอย่างไร?

ปฏิทินเศรษฐกิจนั้นมีหลายรุ่น พวกมันมักจะอธิบายถึงเหตุการณ์ วันที่และเวลาที่กำหนด และค่าก่อนหน้า ค่าคาดหวัง และค่าที่ออกมาจริง ค่าคาดการณ์จะบอกเราถึงตัวเลขที่ตลาดคาดหวังจากการประกาศ มันอาจมีค่าเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงในระดับตัวของบ่งชี้ หรือเป็นค่าสัมบูรณ์ ตัวอย่างเช่น ระดับของดัชนีที่เป็นตัวเลขทศนิยม ค่าก่อนหน้าจะเป็นค่าของรายงานที่ได้ถูกบันทึกเอาไว้ล่าสุด ตัวเลขเหล่านี้ โดยเฉพาะตัวเลขคาดการณ์ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดและการเคลื่อนไหวของราคาก่อนเหตุการณ์จริง

ตัวอย่างเช่น หากตลาดคาดว่าตัวเลขการว่างงานของประเทศจะออกมาแย่กว่าตัวเลขก่อนหน้านี้ มูลค่าของสกุลเงินประจำชาติจะลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ว่างงานจะบ่งบอกถึงสุขภาพที่แย่ลงของเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้สกุลเงินมีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุน ดังนั้น เทรดเดอร์หลายคนจะเปิด Short สกุลเงินนี้ แล้วราคาของมันก็ร่วงลง

มาลองพิจารณาตัวอย่างในชีวิตจริงกัน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่คาดหวัง ณ วันที่ 7 มกราคม 2022 คือเพิ่มขึ้น 426,000 ตำแหน่ง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาจริงกลับเป็นที่น่าผิดหวัง โดยมีงานใหม่เพียง 199,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้ความผันผวนเพิ่มขึ้น และดัชนีค่าเงินดอลลาร์ได้ร่วงลงไปประมาณ 500 จุด

ในช่วงที่มีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ทองคำและคู่ USD จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ปฏิทินส่วนใหญ่มีระบบที่แยกเหตุการณ์ที่ความสำคัญสูงออกจากเหตุการณ์ที่ความสำคัญในระดับปานกลางและต่ำ สหรัฐอเมริกาเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก และดอลลาร์สหรัฐก็เป็นสกุลเงินสำรองของโลก ผลที่ตามมาคือเหตุการณ์เศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ทั่วโลก ในทำนองเดียวกัน ประกาศข่าวจากประเทศเศรษฐกิจหลัก ๆ อย่างเช่น สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป จีน และญี่ปุ่น ก็จะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ดังนั้นเทรดเดอร์จำเป็นต้องทำการค้นคว้าเพื่อประเมินผลกระทบของเหตุการณ์ที่มีต่อตำแหน่งของพวกเขา

นอกจากนี้ วันที่และเวลาที่กำหนดก็ยังมีความสำคัญต่อการเข้าหรือออกจากตลาดในเวลาที่เหมาะสม เวลาโดยประมาณในปฏิทินเศรษฐกิจควรสอดคล้องกับเขตเวลาท้องถิ่นของเทรดเดอร์เพื่อป้องกันการคำนวณที่ผิดพลาด

เหตุการณ์ข่าวยอดนิยมในการซื้อขาย Forex

เมื่อพูดถึงการซื้อขายสกุลเงิน มีเพียงไม่กี่เหตุการณ์ที่จะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจมากกว่าเหตุการณ์อื่น ๆ ไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง

ธนาคารกลางจะตรวจสอบสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศโดยการเพิ่มและลดอัตราดอกเบี้ย และดำเนินนโยบายการเงินอื่น ๆ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะหนุนสกุลเงินประจำชาติปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ และในทำนองกลับกัน

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

CPI เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่องจะทำให้ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะหนุนสกุลเงินประจำชาติขึ้นในระยะสั้น

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)

PMI จะสะท้อนถึงสถานะของกิจกรรมการผลิตในประเทศ ระดับที่สูงกว่า 50 จะบ่งชี้ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าและส่งผลในเชิงบวกต่อสกุลเงิน

การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกา

ในขณะที่ข้อมูลการว่างงานของประเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการติดตามทิศทางราคาของสกุลเงิน รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐอเมริกาก็เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ Forex ข้อมูลนี้จะถูกประกาศในวันศุกร์แรกของทุกเดือน มันจะช่วยในการติดตามระดับการจ้างงาน (ไม่รวมอาชีพเกษตรกร อาชีพอิสระ และกลุ่มอาชีพอื่น ๆ) นอกจากนี้ มันยังเป็นสิ่งสำคัญต่อท่าทีเรื่องอัตราดอกเบี้ยในอนาคตของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา

วิธีการอ่านและใช้ปฏิทินเศรษฐกิจ Forex

ปฏิทินเศรษฐกิจจะถูกนำมาใช้ในการทำนายการเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงิน ทรัพยากรทางการเงินต่าง ๆ จะประเมินสถานะของตลาดก่อนที่จะมีการประกาศและบอกว่าตัวเลขใดที่จะถูกประกาศออกมา แต่แทนที่เทรดเดอร์จะวางคำสั่งซื้อขายไปตามตัวเลขคาดการณ์ พวกเขาสามารถใช้ข้อมูลนี้ในบริบทของการวิเคราะห์ทางเทคนิคของตัวเองได้

เทรดเดอร์สามารถศึกษาแนวโน้มตลาดในปัจจุบัน ทิศทางราคา และความแข็งแกร่ง และระบุระดับแนวรับและแนวต้านเอาไว้ก่อนที่ข่าวจะถูกประกาศออกมา หากคาดหวังว่าตัวเลขจะเป็นบวก เทรดเดอร์อาจได้เห็นการเคลื่อนไหวของราคาที่พุ่งขึ้นระหว่างระดับดังกล่าว เทรดเดอร์ระหว่างวันสามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนที่นำมาก่อนเหตุการณ์สำคัญ ๆ ส่วนเทรดเดอร์สายอนุรักษ์นิยมควรรอให้ความผันผวนลดลงหลังจากที่ตลาดได้ย่อยข้อมูลไปให้หมดเสียก่อน

นี่คือวิธีที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายตามประกาศข่าวเศรษฐกิจ:

• งดซื้อขายใน 15 นาทีแรกหลังการประกาศ
• ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบกราฟแท่งเทียนเพื่อมองรูปแบบ inside bar ที่อยู่ภายในแท่งเทียนแท่งเริ่มต้น ซึ่งจุดสูงสุดและต่ำสุดของแท่งนี้จะเป็นจุดเปิดคำสั่งซื้อขาย
• เทรดเดอร์สามารถซื้อขายตามทิศทางที่ราคาทะลุออกไปในตอนที่แท่งเทียนถัดไปปิดเหนือกว่าหรือต่ำกว่ารูปแบบ inside bar
• ตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ที่ 30 จุด
• การเคลื่อนไหวส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นภายใน 4 ชั่วโมง ดังนั้นเทรดเดอร์ควรปิดคำสั่งซื้อขายของตนภายใน 4 ชั่วโมง เป้าหมายกำไรของวิธีนี้จะขึ้นอยู่กับเวลา

ประกาศข่าวสำคัญ ๆ อาจทำให้เกิดการคาดเคลื่อนของราคา ซึ่งหมายความว่าคำสั่งซื้อขายที่มีความเสี่ยง 1% อาจจบลงด้วยการสูญเสีย 5% ด้วยความที่มันคาดเดาไม่ได้เช่นนี้ เทรดเดอร์ Forex มักจะปิดตำแหน่งไปก่อนเป็นเวลาหลายนาทีหรือหลายชั่วโมงก่อนที่รายงานจะถูกประกาศออกมา ซึ่งหมายความว่าสภาพคล่องของตลาดก็อาจลดลงเช่นกัน ดังนั้นเทรดเดอร์ควรเอาใจใส่เรื่องนี้ให้ดี

สรุป

ปฏิทินเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งทั้งในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและในการวิเคราะห์ทางเทคนิค อย่าลืมตรวจสอบมันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อทำนายความผันผวนที่เป็นไปได้ของตลาด

เริ่มการเทรด