บทความนี้จะเกี่ยวกับธรรมชาติของหนึ่งในตัวบ่งชี้ปัจจัยพื้นฐานที่มีศักยภาพมากที่สุด นั่นคือการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls)
ข้อดีและข้อเสียของการวิเคราะห์ทางเทคนิคและตัวบ่งชี้
อัปเดทแล้ว • 2023-05-11
การซื้อขายฟอเร็กซ์ - ระบบนิเวศของโบรกเกอร์หลายราย, เหล่าเทรดเดอร์ และการไหลเวียนของข้อมูลทั้งหมดอยู่ในนั้นเกิดจากแรงจูงใจเพียงอย่างเดียว: การหารายได้ สิ่งสำคัญที่จะทำให้ได้กำไรคือการทำนายการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างถูกต้อง นี่เป็นคำถามที่สำคัญ: มีวิธีการที่จะทำนายตลาดได้ถูกต้องเสมอหรือไม่? คำตอบคือ “ไม่” เนื่องจากคำถามนี้ก็ไม่ต่างจากการทำนายอนาคต ไม่มีใครสามารถทำได้ แม้ว่าบางครั้งบางคนอ้างว่าได้คิดค้นเครื่องมือที่เชื่อถือได้เกือบ 100% ที่สามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้ก็ตาม
อย่างไรก็ตามบางวิธีการก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามีความน่าเชื่อถือในเรื่องของการคาดการณ์ การวิเคราะห์ทางเทคนิคและตัวบ่งชี้ก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น มาดูกันในภาพกว้างเพื่อจะได้เข้าใจว่าวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการใช้งานมันคืออะไร
ข้อดี
ความแม่นยำทางคณิตศาสตร์
ผู้เชี่ยวชาญหลายชั่วอายุคนที่มาจากแวดวงวิชาการต่างๆได้อธิบายแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่หลากหลายซึ่งให้กำเนิดหลากหลายอัลกอริธึมที่ฉายการเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคต อัลกอริทึมเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถกำหนดคำสั่งซื้อขาย, ระดับต่างๆ, stop loss และจุดสำคัญอื่นๆทั้งหมดได้อย่างแม่นยำถึง 0.00001 ในทางกลับกันสิ่งนี้ก็ให้พื้นที่ในการซื้อขายแบบ scalping ในการซื้อขายระหว่างวันได้และวิธีการในการซื้อขายอื่นๆที่เทรดเดอร์ที่ฉลาดสามารถทำเงินได้ภายในไม่กี่วินาที
ตัวเลือกที่หลากหลาย
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฯให้แนวทางเดียวเท่านั้น: ข้อมูลในชีวิตจริง ในทางตรงกันข้ามตัวบ่งชี้ทางเทคนิคกลับมีหลากหลายตัวเลือกให้เลือก Oscillators, ปริมาณ, ตัวบ่งชี้แนวโน้ม และประเภทอื่น ๆ และการนำพวกมันมาผสมกันก็ให้โอกาสในการปรับแต่งวิธีการที่เลือกได้มากที่สุดเท่าที่เทรดเดอร์ต้องการ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องบังคับตัวเองให้คุ้นเคยกับการตีความตลาด: เทรดเดอร์อาจเลือกตัวบ่งชี้กี่ตัวก็ได้ที่เขา/เธอเข้าใจดีที่สุดแล้วปรับแต่งจนพวกเขารู้สึกมั่นใจในการอ่านตลาด ความหลากหลายของตัวเลือกนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเลือกตัวชี้วัดที่พวกเขาชอบและตัดสินใจเลือกกลยุทธ์การซื้อขายแบบทั่วไปแล้วให้ปล่อยให้การตัดสินใจ “เล็กๆ” เป็นของตัวบ่งชี้ที่เลือก
ความเฉยเมยทางอารมณ์
ตลาดถูกสร้างขึ้นโดยคน ส่วนคนก็มีอารมณ์, ความหวัง และความปรารถนา มันไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เทรดเดอร์จะประสบความสูญเสียเนื่องจากความหวังที่ผิดๆที่หวังว่าตลาดจะมีการพักตัวหรือแตกตื่นกับข่าวไม่คาดฝันบางข่าว ตัวเลขนั้นไม่มีความรู้สึกดังนั้นพวกมันจึงไม่ตกอยู่ในความหวังและไม่มีอาการหัวใจวายเมื่อตลาดร่วงลง การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคอาจช่วยกรองเรื่องอารมณ์ออกจากการตัดสินใจซื้อขายซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการเอาความรู้สึกที่ต้องรับผิดชอบออกจากไหล่ของเทรดเดอร์
จากมุมมองนี้ เทรดเดอร์มีเครื่องมือให้ใช้มากมายที่จะช่วยให้ได้นอนหลับสบายและช่วยให้มั่นได้ว่าไม่มีข้อบกพร่องในการประเมินตลาดด้วยตังบ่งชี้ที่อยู่เบื้องหลัง แต่ยังไงซะก็มีจุดอ่อนซ่อนอยู่ในจุดแข็งตามที่เราได้ระบุได้ดังต่อไปนี้
ข้อเสีย
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่มีวันรู้ได้และมันก็วิ่งหนีไปเรื่อยๆ
วิธีการทางคณิตศาสตร์และสถิติทั้งหมดใช้ข้อมูลจากอดีตเพื่อชี้อนาคต เหตุการณ์ที่ผ่านมาหรือแนวโน้มแบบดิจิตอลไม่อาจบอกสิ่งที่จะเกิดถัดไปได้ 100% นี่คือข้อบกพร่องพื้นฐานของวิธีการนี้ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าตัวบ่งชี้จะให้ความน่าจะเป็นสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้แต่มันก็ยังล่าช้ากว่าเวลาในปัจจุบัน ตลาดนั้นมีชีวิตอยู่และไม่เคยรอใคร ดังนั้นมันจึงใช้เวลาซักพักก่อนที่ตัวบ่งชี้จะสะท้อนออกมาในแผนภูมิ จากนั้นนักลงทุนก็จะต้องจะต้องใช้เวลาอีกซักพักก่อนที่จะตัดสินใจว่าเขาต้องทำอะไรกับแผนภูมิที่มีตัวบ่งชี้นี้ ภายในสองช่วงเวลานี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาดที่จะทำให้การตีความที่ดูเหมือนจะชัดเจนก่อนหน้าเป็นโมฆะไป
หลงทาง
การใช้ตัวบ่งชี้หลายตัวจะส่งให้ผลลัพธฺตรงกันข้าม: มันสร้างความสับสน บางคนอาจคิดว่ายิ่งคุณใช้ตัวบ่งชี้มากเท่าไหร่การประเมิณตลาดก็จะยิ่งมีความน่าเชื่อถือก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แต่นั่นไม่เป็นความจริงเลย: ตัวบ่งชี้หลายตัวมักจะขัดแย้งกันเองและการใช้พวกมันร่วมกันอาจทำให้เกิดความสับสนได้แม้แต่กับเทรดเดอร์ระดับมืออาชีพ นอกจากนั้นเพื่อให้สามารถเลือกตัวบ่งชี้ได้ เราจำเป็นต้องมีความรู้พร้อมอยู่ในระดับหนึ่ง มิฉะนั้นจะต้องมานั่งเลือกตัวบ่งชี้หลายสิบที่แต่ละตัวก็สามารถใช้กับเทอร์มินัลใดๆก็ได้ซึ่งบางตัวก็ค่อนข้างซับซ้อน
ขาดความเข้าใจ
แบบจำลองทางคณิตศาสตร์อาจคำนวณและคาดการณ์ได้แต่พวกมันก็ไม่เข้าใจโลกที่พวกมันกำลังอธิบาย พวกมันไม่อาจสัมผัสตลาดได้เหมือนกับผู้สังเกตการณ์ที่มีประสบการณ์บางคน บางครั้งความรู้สึกลึกๆอาจเป็นวิธีเดียวที่จะมองเหตุการณ์ต่างๆออกและคาดการณ์ว่าแนวโน้มจะไปในทิศทางไหน ดังนั้นปัจจัยมนุษย์อาจเป็นประโยชน์ต่อเทรดเดอร์ในบางกรณี ประสบการณ์และการรับทราบข้อมูลอยู่เสมอนับเป็นสิ่งสำคัญ
กฎทั่วไปที่ใช้งานได้เสมอ
แม้จะมีการถกเถียงกันอย่างเด่นชัดข้างต้น แต่กฎบางข้อก็ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ตลอดเวลา
ก่อนอื่นอย่าพึ่งตัวบ่งชี้เพียงตัวเดียวมากเกินไป จำไว้ว่า: ตัวบ่งชี้เป็นเพียงเรื่องของความน่าจะเป็น ไม่มีตัวไหนที่สมบูรณ์แบบแต่ละตัวมีช่องโหว่ของมัน บางตัวอาจใช้ได้ดัในกรอบเวลาที่ใหญ่ๆ แต่บางตัวอาจใช้ได้ดีในบางจังหวะที่ตลาดมีการเคลื่อนไหว และบางตัวส่วนใหญ่ก็อาจจะใช้ไม่ได้ผลเลย ดังนั้นคุณต้องมีเครื่องมือจำนวนหนึ่งที่ได้รับการคัดสรรที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
ประการที่สอง คุณไม่สามารถพึ่งพาแค่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฯหรือทางเทคนิคได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวบ่งชี้ในฐานะตัวอ่านแผนภูมิจะสูญเสียความหมายของพวกมันโดยปราศจากความเข้าใจลึกๆเกี่ยวกับตลาด ดังนั้นคุณต้องทำการอ่านข่าวเป็นประจำเพื่ออัปเดทและรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและคาดการณ์พฤติกรรมของตลาด ในขณะที่ตัวบ่งชี้จะเติมเต็มและทำให้การสังเกตการณ์ของคุณมีความแม่นยำมากขึ้นและได้รับการตรวจสอบซ้ำ
ประการที่สาม ใช้นโยบายการจัดการความเสี่ยงเสมอ ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของการกำหนดระดับ Stop Loss ให้กับคำสั่งซื้อขายของคุณ แต่ยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเงินส่วนตัวของคุณและการซื้อขาย Forex คุณจำเป็นต้องจัดการการลงทุน Forex ของคุณอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้มันทำให้การเงินของคุณต้องติดขัดซึ่งอาจส่งผลลบต่อจิตใจของคุณ ตัวบ่งชี้จะไม่ช่วยคุณหากคุณใช้เงินทั้งหมดในการซื้อขายจนไม่เหลือเงินไปใช้จ่าย จงคำนวณว่าคุณพร้อมที่จะสูญเสียเท่าไร, คุณสามารถลงทุนได้เท่าไหร่, และด้วยประสบการณ์และความรู้ที่คุณมีในตอนนี้คุณจะได้รับเท่าไหร่
สรุป
อย่างที่เราเห็นในแต่ละข้อดีย่อมมีข้อเสียของมันเอง เทรดเดอร์ทุกคนต้องทดสอบด้วยตัวเองและตัดสินใจว่าจะใช้ตัวบ่งชี้ใดและต้องพึ่งพาตัวไหนเมื่อต้องตัดสินใจในการซื้อขาย แต่ในที่สุดก็ขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพของเทรดเดอร์ การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง, สติ, สัญชาตญาณ หรือการวิเคราะห์ล้วนเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตัวบ่งชี้ที่เลือก
คล้ายกัน
ในการซื้อขาย เราสามารถพึ่งพาสัญญาณเข้าที่แตกต่างกันมากมายได้
รูปแบบกรอบสามเหลี่ยมเป็นรูปแบบการสะสมราคาของราคาสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวภายในช่วงที่แคบลงเรื่อย
-
จะเริ่มเทรดอย่างไร?
หากคุณอายุ 18 ปีขึ้นไปคุณสามารถเข้าร่วม FBS ได้และเริ่มต้นการเดินทาง FX ของคุณ ในการซื้อขายคุณจะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และมีความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน เริ่มด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย สื่อการเรียนรู้ฟรี และ สร้างบัญชี FBS คุณอาจต้องการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยเงินเสมือนจริงผ่านบัญชีทดลอง เมื่อคุณพร้อมเข้าสู่ตลาดจริงแล้ว ก็เริ่มทำการซื้อขายเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ
-
จะเปิดบัญชี FBS ได้อย่างไร?
คลิกที่ปุ่ม 'เปิดบัญชี' บนเว็บไซต์ของเราแล้วไปที่ Trader Area ก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อขายได้ โปรไฟล์ของคุณจะต้องได้รับการยืนยันเสียก่อน ยืนยันอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ของคุณ จากนั้นให้ทำการยืนยันตัวตนของคุณ ขั้นตอนนี้จะช่วยรับประกันความปลอดภัยของเงินและตัวตนของคุณ เมื่อคุณผ่านการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ให้ไปที่แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการ แล้วเริ่มซื้อขายได้เลย
-
จะถอนเงินที่ทำได้กับ FBS ได้อย่างไร?
กระบวนการนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ไปที่หน้า การถอนเงิน บนเว็บไซต์หรือส่วนการเงินของ FBS Trader Area และเข้าไปที่การถอนเงิน คุณจะได้รับเงินที่ทำได้รับผ่านระบบการชำระเงินเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงิน ในกรณีที่คุณฝากเงินเข้าบัญชีผ่านหลายวิธี ให้ถอนกำไรของคุณผ่านวิธีเดียวกันในอัตราส่วนตามยอดเงินที่ฝากเข้ามา