-
จะใช้ตัวบ่งชี้โมเมนตัมได้อย่างไร?
ตัวบ่งชี้โมเมนตัมเป็นเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อกำหนดอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคา เทรดเดอร์สามารถนำมาใช้เพื่อยืนยันแนวโน้มปัจจุบัน ค้นหาสัญญาณเข้าและออก และทำนายการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น
-
กลยุทธ์โมเมนตัมมีอะไรบ้าง?
กลยุทธ์การซื้อขายด้วยโมเมนตัมเกี่ยวข้องกับการใช้โมเมนตัมของแนวโน้มปัจจุบันเพื่อซื้อหรือขายสินทรัพย์เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้ได้สูงที่สุด กลยุทธ์นี้ขึ้นอยู่กับเหตุผลที่ว่าเมื่อแนวโน้มถูกสร้างขึ้นแล้ว มันก็มีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง
-
คำจำกัดความของ Momentum Effect คืออะไร?
Momentum effect หมายถึง แนวโน้มของสินทรัพย์ที่ทำกำไรได้ดีหรือไม่ดีเป็นพิเศษในเดือนก่อนหน้าที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันต่อไปอีกระยะหนึ่ง
Momentum Indicators
ตัวบ่งชี้โมเมนตัม
ตัวบ่งชี้โมเมนตัมคืออะไร?
ตัวบ่งชี้โมเมนตัม คือ เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อวัดอัตราที่ราคาของสินทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ตัวบ่งชี้เหล่านี้มีประโยชน์มากในการซื้อขาย เนื่องจากพวกมันสามารถระบุได้ว่าแนวโน้มปัจจุบันมีความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ พวกมันมีประโยชน์อย่างยิ่งในตลาดกระทิง เนื่องจากโดยทั่วไปพวกมันจะอยู่ได้นานกว่าและเกิดขึ้นบ่อยกว่าตลาดหมี ซึ่งหมายความว่าตัวบ่งชี้โมเมนตัมจะมีข้อมูลมากกว่าเพื่อให้การวิเคราะห์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรใช้พวกมันร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เนื่องจากตัวบ่งชี้เหล่านี้จะไม่สามารถระบุทิศทางของแนวโน้มได้ด้วยตัวมันเอง ส่วนบนกราฟ ตัวบ่งชี้โมเมนตัมทุกประเภทจะปรากฏเป็นกราฟเส้นซึ่งจะอยู่ใต้กราฟราคาหลัก
โมเมนตัมไดเวอร์เจนซ์
โมเมนตัมไดเวอร์เจนซ์ คือ ความแตกต่างระหว่างทิศทางการเคลื่อนไหวของตัวบ่งชี้โมเมนตัมและราคาตลาดของสินทรัพย์ ตัวอย่างเช่น หากทั้งราคาของสินทรัพย์และตัวบ่งชี้โมเมนตัมกำลังลดลงเหมือนกัน แต่แล้วตัวบ่งชี้โมเมนตัมกลับหยุดเคลื่อนไหวลงหรือเริ่มพุ่งขึ้น นั่นแสดงว่ามีโมเมนตัมไดเวอร์เจนซ์
โมเมนตัมไดเวอร์เจนซ์บ่งชี้ว่าโมเมนตัมของการเคลื่อนไหวของราคากำลังชะลอตัวลง นี่เป็นสัญญาณว่าแนวโน้มของตลาดในปัจจุบันน่าจะใกล้ถึงจุดสิ้นสุดและอาจกลับตัวในไม่ช้า โมเมนตัมไดเวอร์เจนซ์สามารถเป็นขาขึ้นหรือขาลงก็ได้ขึ้นอยู่กับทิศทางการเคลื่อนไหวเริ่มต้นของราคาและของตัวบ่งชี้โมเมนตัม
ข้อดีของตัวบ่งชี้โมเมนตัม
ตัวบ่งชี้โมเมนตัมพิสูจน์ได้ว่ามีประโยชน์มากสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการกำหนดขั้นตอนต่อไป เนื่องจากสามารถใช้พวกมันเพื่อระบุค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ได้:
- จุดกลับตัว ตัวบ่งชี้โมเมนตัมสามารถช่วยให้เทรดเดอร์ประมาณการได้ว่าตลาดอาจกลับตัวเมื่อใด ซึ่งสามารถระบุได้โดยการวัดความแตกต่างระหว่างโมเมนตัมและการเคลื่อนไหวของราคา
- แนวโน้ม เนื่องจากตัวบ่งชี้โมเมนตัมจะกำหนดความแข็งแกร่งหรือความอ่อนแอของแนวโน้ม เทรดเดอร์สามารถใช้ตัวบ่งชี้เหล่านี้เพื่อยืนยันแนวโน้มปัจจุบันและทำให้กลยุทธ์การซื้อขายของพวกเขามีศักยภาพมากขึ้น
- สัญญาณเข้าและออก เมื่อใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้ความเฉื่อย ตัวบ่งชี้โมเมนตัมสามารถช่วยเทรดเดอร์ระบุสัญญาณเข้าและออกได้ หากตัวบ่งชี้ทั้งสองเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน เทรดเดอร์อาจได้รับสัญญาณเข้าซื้อขาย แต่ถ้าตัวบ่งชี้มีทิศทางแตกต่างกัน เทรดเดอร์ควรเตรียมออกจากการซื้อขาย
- ทิศทางของตลาด แม้ว่าตัวบ่งชี้โมเมนตัมจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความผันผวนของราคาในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น แต่มันก็สามารถช่วยกำหนดเส้นทางที่เป็นไปได้ของตลาดได้หากใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ
ประเภทของตัวบ่งชี้โมเมนตัม
Relative Strength Index (RSI)
Relative Strength Index หรือ RSI เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมยอดนิยมที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาและความเร็วที่เกิดขึ้น ตัวบ่งชี้นี้ทำงานเป็นออสซิลเลเตอร์ที่แกว่งไปมาระหว่าง 0 ถึง 100 หากตัวบ่งชี้แสดงไดเวอร์เจนซ์หรือตัดผ่านเส้นกึ่งกลาง (50) มันจะส่งสัญญาณถึงการกลับตัวที่กำลังจะมาถึงของแนวโน้มปัจจุบัน RSI ยังสามารถช่วยในการพิจารณาว่าสินทรัพย์มีการซื้อมากเกินไป (70 หรือสูงกว่า) หรือขายมากเกินไป (30 หรือต่ำกว่า) ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเตรียมตัวว่าจะทำอะไรต่อได้
Moving Average Convergence Divergence (MACD)
MACD เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่เป็นที่รู้จักและแพร่หลายที่สุด มันทำงานเป็นออสซิลเลเตอร์ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองค่า โดยปกติจะเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 12 วันและ 26 วัน MACD จะถูกคำนวณโดยนำ EMA 26 วันลบออกจาก EMA 12 วัน เส้นผลลัพธ์ซึ่งก็คือเส้น MACD จะถูกวาดลงบนกราฟควบคู่ไปกับ EMA 9 วัน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเส้นสัญญาณ
การเคลื่อนไหวที่ตามมาของเส้นสองเส้นเมื่อพวกมันทับซ้อนกัน บรรจบกัน หรือแยกออกจากกันบ่งชี้ถึงโมเมนตัมปัจจุบัน ซึ่งจะให้สัญญาณซื้อหรือขายแก่เทรดเดอร์ ตัวอย่างเช่น หาก MACD อยู่ต่ำกว่าเส้นสัญญาณก่อนที่จะตัดกัน ตัวบ่งชี้จะให้สัญญาณซื้อ ในทางตรงกันข้าม หาก MACD ตัดข้ามเส้นสัญญาณจากด้านบน เทรดเดอร์สามารถเตรียมตัววางคำสั่งขายได้
Average Directional Index (ADX)
Average Directional Index หรือ ADX นั้นเป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่ช่วยกำหนดความแข็งแกร่งและทิศทางของแนวโน้มปัจจุบัน ในทางเทคนิค เทรดเดอร์จะใช้ตัวบ่งชี้ที่แตกต่างกันสามตัวในเวลาเดียวกัน คือ ตัว ADX เอง ตัวบ่งชี้ทิศทางลบ (-DI) และตัวบ่งชี้ทิศทางบวก (+DI)
เส้น ADX จะถูกวาดบนกราฟควบคู่ไปกับตัวบ่งชี้ทิศทางทั้งสอง โดยมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 เส้นกำหนดทิศทางจะถูกใช้เพื่อกำหนดทิศทางของแนวโน้ม และเส้น ADX จะวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มดังกล่าว
ตัวอย่างเช่น เส้น -DMI อยู่เหนือ +DMI จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่หากเส้น +DMI อยู่เหนือเส้น -DMI จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง ความแข็งแกร่งของแนวโน้มจะถูกกำหนดโดยค่าของเส้น ADX หากค่าสูงกว่า 25 แสดงว่าแนวโน้มแข็งแกร่ง แต่ถ้าเส้น ADX ลดลงต่ำกว่า 20 แสดงว่าแนวโน้มอ่อนแอ
Rate of Change (ROC)
ตัวบ่งชี้ Rate of Change หรือ ROC นั้นเป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมที่วัดเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงในราคาของสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยมันจะเปรียบเทียบราคาปัจจุบันของสินทรัพย์กับราคาจากกรอบเวลาที่แตกต่างกันและก่อนหน้า
ตัวบ่งชี้นี้สามารถช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุทิศทางของการเคลื่อนไหวของตลาด หาก ROC เป็นบวก ตลาดจะเป็นขาขึ้น และในทำนองกลับกัน หาก ROC พุ่งสูงขึ้น ราคาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่ถ้า ROC ดิ่งลง ราคาก็จะลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
Stochastic Oscillator
ตัวบ่งชี้โมเมนตัมนี้จะถูกใช้เพื่อเปรียบเทียบราคาปิดปัจจุบันของสินทรัพย์กับชุดของราคาก่อนหน้าในกรอบเวลาที่กำหนด สิ่งนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโมเมนตัมและความเร็วของตลาดแก่เทรดเดอร์ แต่ไม่ได้อธิบายถึงปริมาณปัจจุบันหรือราคาของสินทรัพย์ที่ซื้อขาย มันมักจะถูกนำมาใช้เพื่อระบุสัญญาณการกลับตัวของแนวโน้ม
Stochastic oscillator จะถูกวาดเป็นเส้นบนกราฟและมีค่าตั้งแต่ 0 ถึง 100 หากออสซิลเลเตอร์สูงกว่า 80 แสดงว่าสินทรัพย์ถูกซื้อมากเกินไป หากต่ำกว่า 20 แสดงว่าสินทรัพย์ถูกขายมากเกินไป เมื่อทราบสิ่งนี้ เทรดเดอร์ควรเตรียมพร้อมสำหรับการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากสินทรัพย์ที่ถูกซื้อมากเกินไป ในที่สุดก็จะถูกขายอีกครั้ง และในทำนองกลับกัน
ย้อนกลับ
อัปเดทแล้ว • 2023-05-11
