อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงในปี 2022 หรือไม่?
ข่าวด่วน: ไวรัสโคโรน่าจะไม่เป็นศัตรูอันดับหนึ่งของเศรษฐกิจโลกในปี 2022 อีกต่อไป แต่ความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดในปีนี้จะมาจากอัตราเงินเฟ้อและการตัดสินใจของผู้กำหนดนโยบายในยุคของการฟื้นตัวจากผลที่เกิดขึ้นจากการระบาดครั้งใหญ่แทน น่าเสียดายที่สิ่งต่างๆ กำลังจะแย่ลงก่อนที่มันจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ นี่เป็นความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์แบบคร่าวๆ เกี่ยวกับเส้นทางเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในปี 2022
ในปี 2021 ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางอื่นๆ คลายความกังวลอย่างมั่นใจเกี่ยวกับเงินเฟ้อ การขาดแคลนแรงงาน และปัญหาคอขวดในห่วงของโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นผลที่ตามมาในระยะสั้นของการระบาดใหญ่ แค่ให้เวลากับมัน แล้วปัญหาเหล่านี้ก็จะได้รับการแก้ไข นั่นคือคำชี้แจงของธนาคารกลาง
หากสิ่งนี้พิสูจน์ได้ว่าไม่เป็นความจริงภายใน 12 เดือนข้างหน้า ผู้กำหนดนโยบายคาดการณ์ผิดพลาด และผลที่ตามมาจะเลวร้ายยิ่งกว่าภาวะถดถอยของ COVID-19 เสียอีก
ธนาคารกลางสหรัฐฯ คิดอย่างไรกับเงินเฟ้อ?
Fed ยังคงยืนยันว่า "เซอร์ไพรส์" ส่วนใหญ่ของอัตราเงินเฟ้อในช่วงปี 2021 เกิดจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานชั่วคราว ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคส่วนอื่นๆ โดยต้นทุนค่าขนส่งและค่าขนส่งสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากปัญหาอุปทานที่เพิ่มขึ้น จึงยิ่งทำให้ธนาคารกลางต่างๆ เฉยชาต่ออัตราเงินเฟ้อมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในเดือนกันยายน อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ นั้นอยู่ที่ 6.8% ต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี และเกือบ 3 เท่าของที่ Fed คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปี 2021 ด้วยเหตุนี้ ในเดือนธันวาคม มุมมองเรื่องเงินเฟ้อจึงเปลี่ยนจาก "มันเป็นเพียงแค่เรื่องชั่วคราว'" เป็น "ต้องใช้เวลานานกว่าจะชะลอตัวลง และอาจต้องเร่งดำเนินการต่อไป"
ตอนนี้ตลาดกำลังเดิมพันว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยสามครั้งในปี 2022 เพื่อถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเงินกู้จากตลาด โดยพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้ได้เร็วที่สุด หลังจากที่มันแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในเดือนธันวาคม (7.1%)
เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตแม้จะมีอัตราเงินเฟ้อสูงก็ตาม
Bloomberg คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโต 4.4% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 และชะลอตัวลงเหลือ 2.7% ในช่วงครึ่งหลังของปี
สาเหตุหลักประการหนึ่งที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตคือ ผู้บริโภคชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังคงมีเงินใช้ โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 2.6 ล้านล้านดอลลาร์ในบัญชีธนาคารครัวเรือนที่รัฐบาลสหรัฐฯ มอบให้ กองทุนเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนอุปสงค์และฟื้นฟูเศรษฐกิจ
เมื่อไหร่อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะลดลง?
(1) มีการคาดว่าซัปพลายเชนจะได้รับการจัดระเบียบมากขึ้นในช่วงปลายปี (2) ช่วงล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดเป็นพิเศษแบบที่เราเคยเห็นในช่วงเริ่มต้นการระบาดของไวรัสโคโรน่าไม่น่าจะเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งหนึ่งได้ สินค้าโภคภัณฑ์บางรายการ รวมทั้งน้ำมัน ได้พุ่งขึ้นแซงสถิติตอนที่มีการระบาดใหญ่ไปแล้ว
(3) Fed ได้เริ่มกระชับนโยบายการเงินแล้ว และปัจจัยเหล่านี้น่าจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อที่ลดลง เมื่อรวมเหตุผลทั้งหมดนี้เข้าด้วยกัน แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ถึงคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงเหลือน้อยกว่า 3% ภายในสิ้นปี 2022