Non-Farm Employment Change และ Average Hourly Earnings m/m ของสหรัฐอเมริกาในวันนี้เป็นการประกาศที่สำคัญอย่างมากสกุลเงินดอลล่าห์และทองคำมีความผันผวนแน่นอน

วันนี้ 9 มีนาคม 2018 มีการประกาศที่สำคัญอย่างมากของสหรัฐอเมริกาในวันนี้ก็คือ Non-Farm Employment Change และ Average Hourly Earnings m/m ซึ่งจะประกาศวันนี้เวลา 20:30 น. ตามเวลาประเทศไทย

Screen Shot 2561-03-09 at 12.36.34.png

ซึ่งการประกาศในครั้งนี้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะจับจ้องว่าการประกาศตัวเลขอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรนี้จะออกมาในทิศทางไหนและนักลงทุนตลาดเงินได้จับตามองด้วยซึ่งธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะเอามาเป็นส่วนหนึ่งในตัวเลขที่เกี่ยวกับจะปรับนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐดังนั้นนักลงทุนตลาดเงินก็ต้องจับจองด้วยว่าจากประกาศจะออกมาในทิศทางไหนและแบบไหน ตัวเลขแต่ละตัวเลขมีความหมายทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นNon-Farm Employment Change และ Average Hourly Earnings m/m โดยนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าการประกาศ Non-Farm Employment Change จะออกมาก็คือ 205K ซึ่งครั้งก่อนก็คือ 200K และการประกาศ Average Hourly Earnings m/m นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าจะประกาศออกมาก็คือ 0.2% ซึ่งครั้งก่อน 0.3% และอีกหนึ่งการประกาศที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ Unemployment Rate ที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า จะประกาศออกมาที่ 4.0% ซึ่งครั้งก่อนประกาศออกมาก็คือ 4.1% ถ้าเกิดว่าการประกาศเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์อาจจะทำให้สกุลเงินดอลล่าร์มีความผันผวนในวันนี้

Screen Shot 2561-03-09 at 12.37.02.png

คู่สกุลเงินหลักของสกุลเงินดอลล่าร์ก็คือ EURUSD ซึ่งในตอนนี้นั้นร่วงลงอย่างมากเนื่องจากสกุลเงินดอลล่าร์มีการแข็งค่าขึ้นเมื่อวานวันนี้และสกุลเงินยูโรมีการอ่อนค่าลงเนื่องจากมีการประกาศนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรปที่ยังคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงินและยังคงอัตราเบี้ยอยู่ที่เท่าเดิมและอาจจะมีการเพิ่มในส่วนของมาตรการผ่อนคลายทางการเงินขึ้นใหม่ด้วย จึงทำให้สกุลเงินยูโรมีการอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงกดดันให้สกุลเงินดอลล่าร์มีการแข็งค่าขึ้นแต่อย่างไรก็ตามในการประกาศอัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรนี้ควรติดตามในแนวรับแนวต้านที่สำคัญอย่างมากซึ่งในตอนนี้ คู่เงินนี้ได้วิ่งอยู่ในแนวรับที่สำคัญก็คือ 1.22925 ถ้าการประกาศออกมาในทิศทางที่ดีและทำให้สกุลเงินดอลล่าร์มีการแต่งค่าขึ้นควรติดตามในแนวรับที่สองก็คือ 1.22615 และถ้ามีความรุนแรงมากขึ้นอาจจะไปในแนวรับที่สามก็คือ 1.21964 แต่อย่างไรก็ตามถ้าเกิดว่าประกาศออกมาในทิศทางตรงกันข้ามอาจจะไปถึงแนวต้านที่หนึ่งก็คือ 1.23518 และถ้าเกิดว่ามีความรุนแรงมากอาจจะทำให้ไปถึงแนวต้านที่สองก็คือ 1.24017 และ 1.24421 ซึ่งเป็นแนวต้านที่สามที่สำคัญอย่างมากในเวลานี้

Screen Shot 2561-03-09 at 12.37.57.png

ในทิศทางของทองคำ ทองคำในตอนนี้ถูกกดดันมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลล่าร์ที่มีการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องจึงทำให้ทองคำตอนนี้อยู่ในแนวรับที่สำคัญก็คือ 1316.36 แต่อย่างไรก็ตามถ้าเกิดว่าการประกาศออกมาในทิศทางที่ดีของสกุลเงินดอลล่าร์อาจจะทำให้ทองคำร่วงไปถึงในแนวรับที่สองก็คือ 1306.47 และควรติดตามในแนวรับที่สามก็คือ 1302.35 ซึ่งเป็นแนวรับที่สำคัญในเวลานี้แต่ถ้าเกิดว่าประกาศออกมาในทิศทางตรงกันข้ามและสร้างความผันผวน ทำให้สกุลเงินดอลล่าร์มีการอ่อนค่าลงอาจจะทำให้ทองคำไปเจอแนวต้านที่หนึ่งก็คือ 1322.61 และควรติดตามในแนวต้านที่สองก็คือ 1328.85 แต่ถ้ามีความรุนแรงมากขึ้นอาจจะไปถึงแนวต้านที่สามที่สำคัญอย่างมากคือ 1340.25 ซึ่งเป็นแนวต้านที่สำคัญในวันนี้

อย่างไรก็ตามควรติดตามการประกาศนี้ให้ดีเนื่องจากการประกาศนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐได้เล็งเห็นความสำคัญพร้อมทั้งนักลงทุนตลาดเงินได้เล็งเห็นว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจจะดำเนินการนโยบายทางการเงินอย่างไรในอนาคตจึงส่งผลให้สกุลเงินดอลล่าร์มีความผันผวนอย่างรุนแรงในวันนี้แน่นอน

ใครเทรดสองสกุลเงินนี้ นั้นควรให้สังเกตตาม Zone ตรงนี้ด้วยเนื่องจากอาจจะมีความผันผวนจนสุด Zone ในการเทรดนั้นใครมี Order หรือใครมีออเดอร์ USD ติดอยู่ ต้องดูด้วยนะครับ

(แนวรับแนวต้านนั้นก็คือ ZONE ดังนั้นเป้าหมายที่แจ้งไปคือ Zone ทั้งนั้นไม่ต้องตามเป้าหมายเป๊ะแต่ให้ดูตาม Zone เพื่อจะเป็นจุดสำคัญในการตัดสินใจว่าจะเข้าเทรดหรือตัดสินใจของการเข้าออกออเดอร์ที่ดีที่สุด)

usd

eur

ทองคำ

Author: Purich Mahayosanan

บทความอื่นๆ จากผู้เขียนนี้

คล้ายกัน

02.09.2022 17:18 ฤดูหนาวที่หนาวเหน็บที่กำลังจะมาถึงและราคาพลังงานที่ลุกโชน ยุโรปจะทำอย่างไร?

ก๊าซธรรมชาติเป็นรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจยุโรป

05.08.2022 16:28 สิ่งที่สามารถกดให้น้ำมันต่ำกว่า $90 ต่อบาร์เรลได้คืออะไร?

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการแกว่งตัวของราคาน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 14 ปี ซึ่งทำให้ตลาด นักลงทุน และเทรดเดอร์สับสน เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองและการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด