RBNZ Rate Statement, Official Cash Rate ของนิวซีแลนด์เป้าหมายทะลุลงอย่างมาจะถึงไหน??

วันนี้ 10 สิงหาคม 2017 ช่วงเวลาเช้าตรู่ตีสี่มีการประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยและ RBNZ Rate Statement, Official Cash Rate

Screen Shot 2560-08-10 at 2.50.33 PM.png

โดยการประกาศครั้งนี้ธนาคารกลางแห่ง นิวซีแลนด์ได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์แต่อย่างไรก็ตามยังมีการรายงานเกี่ยวกับ นโยบายทางการเงินของนิวซีแลนด์ซึ่งประกาศออกมาไปในทิศทางที่แย่ลงโดยประโยคหลักของผู้ว่าฯธนาคารกลางแห่งนิวซีแลนด์ได้กล่าวไว้ว่ายังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และไม่จำเป็นที่จะต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อที่จะกระตุ้นเงินเฟ้อ

Screen Shot 2560-08-10 at 2.51.57 PM.png

จึงทำให้สกุลเงิน NZD อ่อนค่าลงอย่างรุนแรงณเวลานั้นซึ่งคู่สกุลเงิน NZDUSD ได้ร่วงลงมา 700 กว่าจุด ซึ่งเป้าหมายที่สำคัญณเวลานี้คือแนวรับแนวต้านที่สำคัญหากเป็นไปในทางเทคนิคแล้วคู่สกุลเงินนี้อยู่ในทิศทางขาลงอย่างชัดเจนดังนั้นเรามาดูกันว่าแนวรับหน้าด่านที่สำคัญอยู่ในทิศทางไหนบ้าง

เนื่องจากคู่สกุลเงินนี้ได้หลุดกรอบไปเรียบร้อยแล้วหากยังอยู่ในทิศทางขาลงแนวรับแรกก็คือ 0.72648 และถ้าหากทะลุในทิศทางขาลงจะอยู่ที่แนวรับที่สองก็คือ 0.72455 และถ้าทะลุลงไปจะอยู่ที่แนวรับที่สามก็คือ 0.72046 แต่ถ้าหากลงมาในแนวรับแรก แต่ไม่ผ่านจะกลับขึ้นไปแนวต้านแรกก็คือ 0.73139 และแนวต้านที่สองก็คือ 0.73727 และถ้าหากทะลุไปจะเจอแนวต้านที่สามก็คือ 0.74150 เนื่องจากหลุดกรอบไปแล้วแนะนำให้เทรดตามแนวรับแนวต้านด้วย

ใครเทรด NZDUSD คู่เงินนี้ นั้นควรให้สังเกตตาม Zone ตรงนี้ด้วยเนื่องจากอาจจะมีความผันผวนจนสุด Zone ในการเทรดนั้นใครมี Order ใครมีออเดอร์ NZD ติดอยู่ ต้องดูด้วยนะครับ

(แนวรับแนวต้านนั้นก็คือ ZONE ดังนั้นเป้าหมายที่แจ้งไปคือ Zone ทั้งนั้นไม่ต้องตามเป้าหมายเป๊ะแต่ให้ดูตาม Zone เพื่อจะเป็นจุดสำคัญในการตัดสินใจว่าจะเข้าเทรดหรือตัดสินใจของการเข้าออกออเดอร์ที่ดีที่สุด)

usd

nzd - ข่าว, การวิเคราะห์, การคาดการณ์ราคา, และแนวคิดในการซื้อขาย

Author: Purich Mahayosanan

บทความอื่นๆ จากผู้เขียนนี้

คล้ายกัน

05.08.2022 16:28 สิ่งที่สามารถกดให้น้ำมันต่ำกว่า $90 ต่อบาร์เรลได้คืออะไร?

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการแกว่งตัวของราคาน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 14 ปี ซึ่งทำให้ตลาด นักลงทุน และเทรดเดอร์สับสน เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองและการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด