วิธีที่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบแนวโน้มในการเทรด Forex
แนวโน้มในการเทรด Forex ก็เหมือนกับการนั่งรถไฟเหาะผ่านภูมิทัศน์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มันแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่คู่สกุลเงินและตราสารทางการเงินอื่น ๆ เคลื่อนไหว โดยแนวโน้มอาจกลายเป็นมิตรหรือศัตรูของคุณก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเข้าใจและตีความของคุณ เช่นเดียวกับนักบินผู้เปี่ยมทักษะในการอ่านท้องฟ้า เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จทำการวิเคราะห์กราฟ ตัวบ่งชี้ และรูปแบบต่าง ๆ เพื่อระบุแนวโน้ม
แนวโน้มช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดเผยอารมณ์ของตลาดและคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาเพิ่มเติมได้ การตรวจสอบแนวโน้มในเวลาที่เหมาะสมและการปรับตัวเข้ากับแนวโน้มที่ตรวจพบจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมันช่วยให้พวกเขาสามารถกำหนดจุดเข้าหรือออกที่ดีที่สุดได้ ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มขาลง หรือแม้แต่แนวโน้มออกข้าง การตระหนักถึงการเคลื่อนไหวของราคา ณ ปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญต่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพและการเทรดที่ประสบความสำเร็จโดยรวม
ในบทความนี้ เราจะอธิบายถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการก่อตัวของแนวโน้ม และสำรวจวิธีตรวจสอบแนวโน้มในการเทรด Forex
แนวโน้มตลาด Forex และปัจจัยที่กำหนดแนวโน้ม
ในตลาด Forex แนวโน้มจะแสดงทิศทางทั่วไปที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเคลื่อนไหวภายในระยะเวลาที่กำหนด ในตลาดที่มีแนวโน้ม การเคลื่อนไหวของราคาจะเป็นไปตามรูปแบบ ไม่ว่าจะทำจุดสูงสุดที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น หรือจุดต่ำสุดที่ต่ำลงตามด้วยจุดสูงสุดที่ต่ำลง หรือไม่ก็ราคาไม่ขยับขึ้นหรือลงเลย แนวโน้มมีอยู่สามประเภท ได้แก่ แนวโน้มขาขึ้น (ตลาดกระทิง ราคาพุ่งสูงขึ้น) แนวโน้มขาลง (ตลาดหมี ราคาร่วงลง) และแนวโน้มออกข้าง (ตลาดเคลื่อนตัวไปด้านข้าง ราคาเคลื่อนไหวในแนวนอน)
แนวโน้มทุกประเภทไม่ได้เกิดขึ้นแบบไม่มีสาเหตุ มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการก่อตัวของแนวโน้ม ได้แก่
- กฎของอุปสงค์และอุปทาน
ทฤษฎีพื้นฐานของอุปสงค์และอุปทานเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่กำหนดแนวโน้มในตลาด Forex เมื่อความต้องการใช้สกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่งมีมากกว่าอุปทาน สกุลเงินก็จะมีราคาสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดแนวโน้มขาขึ้น ในทางกลับกัน เมื่ออุปทานมีมากกว่าอุปสงค์ ราคาของสกุลเงินก็จะลดลง ซึ่งนำไปสู่แนวโน้มขาลง
- เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์
ภูมิรัฐศาสตร์มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ล้วนมีอิทธิพลต่อแง่มุมต่าง ๆ ของสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความไม่มั่นคงทางการเมือง ความขัดแย้ง การเลือกตั้ง การเปลี่ยนแปลงนโยบาย และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างก็นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในมูลค่าของสกุลเงินที่ได้รับผลกระทบซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงทิศทางของแนวโน้มในตลาด Forex
- อารมณ์ตลาด
จิตวิทยาและความคาดหวังของผู้เข้าร่วมตลาดมีความสำคัญในการกำหนดแนวโน้มในตลาด Forex การตีความข้อมูลทางเศรษฐกิจเชิงอัตวิสัย อารมณ์ที่แตกต่างกันตั้งแต่การปฏิเสธจนถึงการยอมรับ และการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดในอนาคตล้วนส่งผลกระทบต่อแนวโน้มในตลาด Forex ดังนั้น อารมณ์ตลาดเชิงบวกที่ได้รับแรงหนุนจากการมองโลกในแง่ดีและความมั่นใจสามารถนำไปสู่แนวโน้มขาขึ้นได้ ในขณะที่อารมณ์ตลาดเชิงลบที่เกิดจากความกลัวหรือความไม่แน่นอนสามารถนำไปสู่แนวโน้มขาลงได้
- นโยบายของธนาคารกลาง
นโยบายการเงินที่ธนาคารกลางประกาศใช้ รวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและการดำเนินการอื่น ๆ เช่น มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณล้วนมีผลกระทบอย่างมากต่อตลาด Forex
ตัวอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงมักจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูง การลงทุนโดยการฝากเงินกับธนาคารจะมีความน่าสนใจมากขึ้นเนื่องจากมันให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ในทางกลับกัน การกู้ยืมเงินจะมีความน่าสนใจน้อยลงเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น สถานการณ์นี้อาจทำให้การพัฒนาธุรกิจช้าลงเนื่องจากการกู้ยืมเป็นแหล่งเงินทุนที่สำคัญต่อระบบการทำงานของธุรกิจ นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงยังส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง เนื่องจากผู้คนจะออมเงินมากขึ้นและใช้จ่ายน้อยลงเพื่อที่จะได้มีเงินออม ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยจึงมีผลกระทบอย่างมากต่ออัตราแลกเปลี่ยน
- การทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
ธุรกรรมระหว่างประเทศมีความโดดเด่นในฐานะปัจจัยสำคัญที่กำหนดแนวโน้มในตลาด Forex การแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการระหว่างประเทศ ปริมาณการลงทุนข้ามพรมแดน และการไหลเวียนของเงินทุนโดยรวมจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสกุลเงินของประเทศเสมอ
วิธีที่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบแนวโน้มของคู่สกุลเงิน Forex
ในตอนที่ประเมินเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่งและพิจารณาอารมณ์ตลาดที่มีอิทธิพลต่อมูลค่าของสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่ง เทรดเดอร์จะต้องรู้วิธีตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มในตลาด Forex ผ่านการวิเคราะห์กราฟ โดยการทำความเข้าใจปัจจัยที่กำหนดแนวโน้มในตลาด Forex และใช้กลยุทธ์การตรวจสอบที่เหมาะสม เทรดเดอร์จะสามารถตัดสินใจเข้าเทรดอย่างรอบรู้ได้อย่างรวดเร็ว และรับประโยชน์จากโอกาสที่ทำกำไรที่แนวโน้มเหล่านี้เสนอให้
เดี๋ยวเรามาเรียนรู้หลายวิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบแนวโน้มได้อย่างแม่นยำ!
การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา
การเคลื่อนไหวของราคาเป็นแง่มุมพื้นฐานของการเทรด Forex โดยการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาเพียงอย่างเดียว เทรดเดอร์จะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและเปิดเผยแนวโน้มของตลาด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อฝึกฝนทักษะการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา คุณจะยกระดับความสามารถในการสำรวจตลาด Forex ของคุณและทำกำไรจากแนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่
รูปแบบแนวโน้ม
ในการตรวจสอบแนวโน้ม Forex โดยใช้การวิเคราะห์ราคา เทรดเดอร์ควรมองหารูปแบบแนวโน้มที่ยืนยันทิศทางที่เกิดขึ้น ในกรณีที่มีแนวโน้มขาขึ้น เทรดเดอร์ควรมองหาการก่อตัวของจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น รูปแบบนี้บ่งบอกว่าทั้งจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดจะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น ในทางกลับกัน ในแนวโน้มขาลง เทรดเดอร์ควรค้นหาจุดต่ำสุดที่ต่ำลงและจุดสูงสุดที่ต่ำลง โดยที่จุดต่ำสุดและจุดสูงสุดแต่ละจุดจะต่ำกว่าจุดก่อนหน้าอย่างต่อเนื่องซึ่งจะบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง โดยการระบุรูปแบบแนวโน้มเหล่านี้ เทรดเดอร์จะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับทิศทางของตลาด
เพื่อให้สามารถระบุแนวโน้มได้อย่างแม่นยำ เทรดเดอร์ควรใช้เส้นแนวโน้มเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคา ด้วยความช่วยเหลือของเส้นแนวโน้ม เทรดเดอร์จะสามารถมองเห็นทิศทางและความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ณ ปัจจุบันได้ เส้นแนวโน้มจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตรวจสอบได้ว่าราคาเคลื่อนที่ตามแนวโน้มอย่างสม่ำเสมอหรือทะลุผ่านออกไป ซึ่งมันจะช่วยทำให้รู้ว่าแนวโน้ม ณ ปัจจุบันจะไปต่อหรืออาจกลับตัว
ช่องแนวโน้มจะช่วยขยายแนวคิดของเส้นแนวโน้มและให้ขอบเขตทิศทางของแนวโน้มที่ชัดเจนแก่เทรดเดอร์ ช่องแนวโน้มประกอบด้วยเส้นแนวโน้มที่ขนานกันสองเส้น: เส้นหนึ่งอยู่ด้านล่างและอีกเส้นอยู่ด้านบนของการเคลื่อนไหวของราคาในกรอบเวลาที่กำหนด ช่องแนวโน้มจะแสดงภาพของช่วงที่ราคาของคู่สกุลเงินเคลื่อนไหว มันช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตรวจสอบแนวโน้มในตลาด Forex และกำหนดจุดเข้าหรือออกที่ดีที่สุดได้
ตัวบ่งชี้แนวโน้ม Forex
ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคสำหรับการตรวจสอบแนวโน้มในการเทรด Forex เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุแนวโน้มและกำหนดความแข็งแกร่งของแนวโน้มในตลาดสกุลเงินได้ ตัวบ่งชี้แนวโน้มจะช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจทิศทางโดยรวมและโมเมนตัมของการเคลื่อนไหวของราคา นี่คือตัวบ่งชี้แนวโน้มในตลาด Forex ที่มีประสิทธิภาพบางส่วน:
Moving Average
Moving Average (MA) เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่เทรดเดอร์ใช้ในการระบุและยืนยันแนวโน้มในตลาด Forex MA เป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มที่ใช้กันแพร่หลายที่จะคำนวณราคาเฉลี่ยในช่วงเวลาที่กำหนด ลดความผันผวนของราคาในระยะสั้น และช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุทิศทางโดยรวมของตลาดสกุลเงินได้ MA จะให้การยืนยันแนวโน้มเมื่อราคายังคงอยู่ที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งของเส้น Moving Average โดยทั่วไปแล้ว ในแนวโน้มขาขึ้น ราคาจะอยู่เหนือเส้น MA ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแนวรับ ส่วนในแนวโน้มขาลง ราคาจะอยู่ใต้เส้น MA ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแนวต้าน เทรดเดอร์จะทำการสำรวจการเคลื่อนไหวเหล่านี้เพื่อยืนยันการมีอยู่และความแข็งแกร่งของแนวโน้มนั้น ๆ
Relative Strength Index (RSI) เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ใช้ในการวัดโมเมนตัมของการเคลื่อนไหวของราคา ตัวบ่งชี้นี้ได้รับความนิยมในด้านความน่าเชื่อถือและความง่ายในการตีความสัญญาณซื้อขาย RSI ถือเป็นตัวบ่งชี้ที่ล้ำค่าอย่างปฏิเสธไม่ได้ในการตรวจสอบแนวโน้มในตลาด Forex
RSI จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกำหนดเงื่อนไขการซื้อมากเกินไปและการขายมากเกินไปภายในกรอบเวลาที่สนใจได้ ตัวบ่งชี้จะมีขอบเขตตั้งแต่ 0 ถึง 100 และโดยทั่วไปจะแสดงสภาวะการซื้อมากเกินไปเมื่อแตะระดับ 70 ขึ้นไป และสภาวะการขายมากเกินไปเมื่อร่วงลงต่ำกว่า 30 หาก RSI ยังคงอยู่ในพื้นที่ที่มีการซื้อมากเกินไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง มันจะบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากแรงกดดันในการขายอาจเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน หาก RSI ยังคงอยู่ในฝั่งขายมากเกินไป มันจะบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากแรงกดดันในการซื้ออาจสูงขึ้น
Average Directional Index (ADX) เป็นตัวบ่งชี้ทางเทคนิคที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตรวจสอบแนวโน้มในการเทรด Forex ได้ เทรดเดอร์หลายคนต่างเคารพตัวบ่งชี้ ADX เนื่องจากมันแสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของแนวโน้มและช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุโอกาสในการเข้าเทรดที่ดีที่สุดได้
ADX เป็นเส้นเดี่ยวที่ผันผวนในระดับตั้งแต่ 0 ถึง 100 ยิ่ง ADX อยู่ในระดับสูงขึ้นเท่าไร แนวโน้มก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ส่วนระดับที่ต่ำลงจะระบุว่าแนวโน้มอ่อนแอลงหรือตลาดเคลื่อนตัวไปด้านข้าง หาก ADX พุ่งขึ้นเหนือระดับ 25 นั่นแสดงว่าแนวโน้มกำลังได้รับโมเมนตัม หาก ADX ต่ำกว่าระดับ 25 มันอาจบ่งบอกถึงช่วงเวลาของการสะสมราคาหรือตลาดเคลื่อนตัวไปด้านข้าง
แนวทางปฏิบัติทั่วไปในการเทรด Forex คือการใช้ ADX ร่วมกับตัวบ่งชี้อื่น ๆ เทรดเดอร์มักจะรวมตัวบ่งชี้ทิศทางเชิงบวก (+DI) และตัวบ่งชี้ทิศทางเชิงลบ (-DI) เข้ากับ ADX เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มมากขึ้น ตัวบ่งชี้ทั้งสองนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางของแนวโน้มแก่เทรดเดอร์ เมื่อ ADX พุ่งขึ้น และ +DI ตัดขึ้นเหนือ -DI เทรดเดอร์จะสังเกตเห็นแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากตัวบ่งชี้ -DI ตัดขึ้นเหนือ +DI มันจะเป็นหลักฐานว่าแนวโน้มขาลงกำลังได้รับโมเมนตัม
MTFTI
Multi-Timeframe Trend Indicator (MTFTI) เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมที่ช่วยให้เทรดเดอร์เห็นแนวโน้มได้อย่างครอบคลุม โดยการเปรียบเทียบการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในกรอบเวลาที่แตกต่างกัน เทรดเดอร์จะสามารถตรวจสอบความสอดคล้องและความแข็งแกร่งของแนวโน้มได้ หากเห็นแนวโน้มได้อย่างชัดเจนในหลายกรอบเวลา นั่นแสดงว่าแนวโน้มมีความแข็งแกร่งและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น การสังเกตแนวโน้มในหลายกรอบเวลาจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเทรดเดอร์ในการตัดสินใจเข้าเทรดของตน
สรุป
การพัฒนาทักษะการตรวจสอบแนวโน้มในการเทรด Forex นั้นเปรียบเสมือนการปลดล็อกรหัสลับที่สามารถนำไปสู่ความสำเร็จและผลกำไร เทรดเดอร์ที่รู้วิธีระบุและติดตามแนวโน้มจะกลายเป็นผู้เล่นในตลาดที่ทรงพลังที่มีเครื่องมือสำคัญอยู่ในมือ
ในการตรวจสอบแนวโน้มในตลาด Forex โดยทันทีและใช้ประโยชน์จากมัน เทรดเดอร์ควรรู้จักปัจจัยต่าง ๆ ที่สามารถทำให้เกิดแนวโน้มนั้น ๆ ได้ สำหรับสิ่งนี้ พวกเขาจะต้องใช้เครื่องมือและตัวบ่งชี้ที่เหมาะสมเพื่อตรวจสอบแนวโน้มบนกราฟ
เทรดเดอร์สามารถใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคต่าง ๆ รวมถึง RSI, Moving Averages, ADX และ MTFTI เพื่อให้สามารถตรวจสอบแนวโน้มในการเทรดสกุลเงินได้อย่างแม่นยำ RSI จะช่วยกำหนดเงื่อนไขการซื้อมากเกินไปและการขายมากเกินไป ในขณะที่ Moving Averages จะปรับข้อมูลราคาให้เรียบและระบุทิศทางของแนวโน้ม ส่วน ADX จะวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม และ MTFTI จะตรวจสอบหลายกรอบเวลาเพื่อยืนยันแนวโน้ม
นอกเหนือจากวิธีการตรวจสอบแนวโน้มที่ได้กล่าวไปแล้ว การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาก็เป็นอีกเทคนิคสำคัญที่เทรดเดอร์ควรหันมาใช้ การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาหมายถึงการสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาตามจริงบนกราฟโดยไม่ต้องอาศัยตัวบ่งชี้มากนัก ด้วยการมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลราคาเพียงอย่างเดียว เทรดเดอร์จะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับอารมณ์ตลาดโดยรวมและความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
จากการทำความเข้าใจเครื่องมือเหล่านี้และพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่สามารถมีอิทธิพลต่อแนวโน้ม เทรดเดอรจ์ะสามารถตรวจพบแนวโน้มในตลาด Forex ได้อย่างรวดเร็วและตัดสินใจซื้อขายได้อย่างชาญฉลาด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
คุณจะค้นหาแนวโน้มในการเทรด Forex ได้อย่างไร?
ในการเทรด Forex การผสมผสานวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคและตัวบ่งชี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการระบุและยืนยันแนวโน้ม เทรดเดอร์มักจะมองหารูปแบบแนวโน้ม เช่น จุดสูงสุดที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น หรือจุดสูงสุดที่ต่ำลงและจุดต่ำสุดที่ต่ำลงในแนวโน้มขาลง เพื่อให้สามารถจำแนกแนวโน้มได้อย่างแม่นยำ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Forex จะใช้เส้นแนวโน้มและช่องแนวโน้มร่วมกัน นอกจากนี้ ตัวบ่งชี้แนวโน้มตลาด Forex เช่น RSI, Moving Averages, ADX และ MTFTI ยังให้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของแนวโน้มและอารมณ์ตลาดโดยรวมอีกด้วย
ตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของแนวโน้มที่ดีที่สุดคือตัวบ่งชี้ใด?
Average Directional Index (ADX) โดดเด่นในฐานะที่เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของแนวโน้มที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเทรด Forex ADX จะมุ่งเน้นไปที่ความแข็งแกร่งของแนวโน้มเป็นหลักโดยไม่คำนึงถึงทิศทาง ค่าที่มากกว่า 25 จะแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ค่าที่ต่ำกว่า 20 จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่อ่อนแอหรือตลาดที่เคลื่อนตัวไปด้านข้าง
กรอบเวลาส่งผลอย่างไรต่อประสิทธิภาพของแนวโน้มในการเทรด Forex?
แนวคิดของแนวโน้มจะขึ้นอยู่กับกรอบเวลาที่คุณเลือกดำเนินการ เนื่องจากกรอบเวลาที่แตกต่างกันจะแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มระบุแนวโน้ม คุณควรกำหนดกรอบเวลาที่คุณสนใจ กรอบเวลาจะขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และเป้าหมายของคุณในตลาด Forex ตัวอย่างเช่น ในฐานะเทรดเดอร์แบบ Position หรือเทรดเดอร์ที่เทรดแบบซื้อแล้วถือยาว คุณควรเทรดด้วยกรอบเวลาสี่ชั่วโมงหรือสูงกว่านั้น ในขณะที่เทรดเดอร์รายวันควรเทรดที่กรอบเวลา 30 นาทีหรือต่ำกว่านั้น อย่างไรก็ตาม การสังเกตในหลาย ๆ กรอบเวลานั้นมีประโยชน์มาก เนื่องจากคุณจะสามารถกำหนดความแข็งแกร่งของแนวโน้มและทำการตัดสินใจที่ดีได้