FBS Markets Inc.

Relative Vigor Index (ตัวบ่งชี้ RVI) คืออะไร?

อ่านบทความบนเว็บไซต์ของ FBS

Relative Vigor Index (RVI) ถูกสร้างขึ้นโดย John Ehlers นักวิเคราะห์ทางเทคนิคและประธานของ MESA Software ซึ่งเป็นผู้นำเสนอกลยุทธ์การเทรดด้วยอัลกอริทึม

RVI จะให้สัญญาณซื้อและขาย และด้วยความอเนกประสงค์ของมัน มันจึงสามารถถูกนำไปใช้ได้ในทุกระบบการซื้อขาย

Relative Vigor Index คืออะไร?

RVI เป็นเหมือนออสซิลเลเตอร์มากกว่า เนื่องจากการเคลื่อนที่ของตัวบ่งชี้นี้จะเปรียบเสมือนลูกตุ้มที่แกว่งจากตำแหน่งสุดขั้วฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง

RVI จะมีความคล้ายคลึงกับตัวบ่งชี้ Momentum, Accumulation/Distribution และ MACD

RVI จะช่วยค้นหาช่วงเวลาที่แน่นอนในการเปิดคำสั่งซื้อขายและเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยการเกิดไดเวอร์เจนซ์กับกราฟราคา

ในความเห็นของเรา RVI ควรอยู่ในชุดเครื่องมือของเทรดเดอร์ทุกคน

Relative Vigor Index มีวิธีการคำนวณอย่างไร?

Relative vigor index จะถูกคำนวณโดยใช้สูตรดังต่อไปนี้:

Numerator.png

แม้สูตร RVI จะมีความซับซ้อน แต่ตัวบ่งชี้นี้มีวิธีการคำนวณและวิธีการใช้งานที่ง่ายมาก ๆ ดังที่คุณอาจสังเกตเห็น ตัวบ่งชี้จะประกอบด้วยเส้นสองเส้น คือ เส้นตัวบ่งชี้ RVI และเส้นสัญญาณ RVI

ซึ่งมันจะคล้าย ๆ กับตัวบ่งชี้ MACD อย่างไรก็ตาม สัญญาณที่ถูกสร้างโดยตัวบ่งชี้นี้ก็คล้ายกับสัญญาณที่ถูกสร้างโดยตัวบ่งชี้ MACD จาก Gerald Appel

ตามค่าเริ่มต้น การตั้งค่าตัวบ่งชี้ RVI จะถูกตั้งเอาไว้เท่ากับจำนวนช่วงเวลาที่ถูกตั้งไว้ใน Metatrader ซึ่งก็คือ 10

วิธีการใช้งาน RVI ใน MetaTrader

หากต้องการเลือกตัวบ่งชี้ Relative Vigor Index ใน MetaTrader 5 คุณต้องเลือก:

Insert -> Indicators -> Oscillators -> Relative Vigor Index

ดังที่เราทราบแล้ว ตัวบ่งชี้ประกอบด้วยเส้นสองเส้น คือ เส้น RVI ซึ่งเป็นสีเขียวตามค่าเริ่มต้นใน MetaTrader และเส้นสัญญาณซึ่งเป็นสีแดงตามค่าเริ่มต้น

ลำดับของตัวบ่งชี้ RVI คือ 10

วิธีการตีความตัวบ่งชี้ RVI

การตัดกันของเส้นต่าง ๆ

สัญญาณแรกและสำคัญที่สุดจากตัวบ่งชี้คือการตัดกันของเส้นต่าง ๆ

เมื่อเส้นตัวบ่งชี้ RVI ตัดข้ามเส้นสัญญาณลงด้านล่าง นี่คือสัญญาณซื้อขายจาก RVI เพื่อเปิดคำสั่งซื้อขายขาลง

เมื่อเส้นตัวบ่งชี้ RVI ตัดข้ามเส้นสัญญาณขึ้นด้านบน นี่คือสัญญาณซื้อขายจาก RVI เพื่อเปิดคำสั่งซื้อขายขาขึ้น

อย่างที่คุณเห็น ในทั้งสองกรณี ตัวบ่งชี้จะให้สัญญาณเท็จเป็นจำนวนมาก คุณสามารถใช้ตัวบ่งชี้เพิ่มเติมเพื่อลบสัญญาณเท็จออกไป เช่น ตัวบ่งชี้แนวโน้ม Parabolic SAR

การตั้งค่าทั่วไปมีดังนี้: หาก RVI ให้สัญญาณซื้อ แต่ Parabolic SAR กำลังร่วงลง คุณก็ไม่ควรเปิดคำสั่งซื้อขาย และหาก RVI ให้สัญญาณขาย และ Parabolic SAR กำลังพุ่งขึ้น คุณก็ไม่ควรเปิดคำสั่งซื้อขายเช่นเดียวกัน

อย่างที่คุณเห็น สัญญาณเท็จบางส่วนจะถูกตัดออกไป ในพื้นที่ที่เลือกจะปรากฏสัญญาณเท็จเพียงสัญญาณเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ระบบดังกล่าวยังตัดสองสัญญาณสุดท้ายที่ดีที่อาจทำให้คุณได้กำไร

ดังนั้น เมื่อใช้ตัวบ่งชี้บางอย่างร่วมกัน เทรดเดอร์จำเป็นต้องเสียสละบางสัญญาณที่ดีเพื่อลดความเสี่ยงของระบบการซื้อขาย

ไดเวอร์เจนซ์

สัญญาณที่สองที่ตัวบ่งชี้ให้นั้นจะมีความชัดเจนน้อยกว่า แต่ก็สามารถใช้ในการซื้อขายได้เช่นกัน ซึ่งก็คือการเกิดไดเวอร์เจนซ์ (ความแตกต่าง) ระหว่างการเคลื่อนไหวของตัวบ่งชี้และกราฟราคา

ตัวอย่างเช่น หากตัวบ่งชี้พุ่งขึ้นในขณะที่ราคาร่วงลง มันจะบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่ราคาจะเกิดการกลับตัว

นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม มันเพียงแค่บอกใบ้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มเท่านั้น

ข้อจำกัดของการใช้งาน Relative Vigor Index

ไม่สามารถใช้ RVI ได้ในช่วงตลาดพักตัว

พยายามใช้ RVI เฉพาะในตอนที่ตลาดมีแนวโน้ม

สรุป

  • RVI เป็นตัวบ่งชี้ที่มีประสิทธิภาพพอสมควรที่พัฒนาขึ้นโดย John Ehlers
  • ตัวบ่งชี้จะให้สัญญาณหลายอย่างพร้อมกัน ได้แก่ การตัดข้ามของเส้นต่าง ๆ และการเกิดไดเวอร์เจนซ์กับราคา
  • RVI จะใช้การไม่ได้ในช่วงตลาดพักตัว

เริ่มการเทรด

อัปเดทแล้ว • 2023-06-16

บทความอื่นๆ ในส่วนนี้