-
จะเริ่มเทรดอย่างไร?
หากคุณอายุ 18 ปีขึ้นไปคุณสามารถเข้าร่วม FBS ได้และเริ่มต้นการเดินทาง FX ของคุณ ในการซื้อขายคุณจะต้องมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และมีความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน เริ่มด้วยการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วย สื่อการเรียนรู้ฟรี และ สร้างบัญชี FBS คุณอาจต้องการทดสอบสภาพแวดล้อมด้วยเงินเสมือนจริงผ่านบัญชีทดลอง เมื่อคุณพร้อมเข้าสู่ตลาดจริงแล้ว ก็เริ่มทำการซื้อขายเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ
-
จะเปิดบัญชี FBS ได้อย่างไร?
คลิกที่ปุ่ม 'เปิดบัญชี' บนเว็บไซต์ของเราแล้วไปที่ Trader Area ก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อขายได้ โปรไฟล์ของคุณจะต้องได้รับการยืนยันเสียก่อน ยืนยันอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ของคุณ จากนั้นให้ทำการยืนยันตัวตนของคุณ ขั้นตอนนี้จะช่วยรับประกันความปลอดภัยของเงินและตัวตนของคุณ เมื่อคุณผ่านการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ให้ไปที่แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ต้องการ แล้วเริ่มซื้อขายได้เลย
-
จะถอนเงินที่ทำได้กับ FBS ได้อย่างไร?
กระบวนการนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ไปที่หน้า การถอนเงิน บนเว็บไซต์หรือส่วนการเงินของ FBS Trader Area และเข้าไปที่การถอนเงิน คุณจะได้รับเงินที่ทำได้รับผ่านระบบการชำระเงินเดียวกับที่คุณใช้ในการฝากเงิน ในกรณีที่คุณฝากเงินเข้าบัญชีผ่านหลายวิธี ให้ถอนกำไรของคุณผ่านวิธีเดียวกันในอัตราส่วนตามยอดเงินที่ฝากเข้ามา
ประเภทของแผนภูมิ
ใน MetaTrader มีแผนภูมิหลักๆอยู่ 3 ประเภท คุณสามารถสลับไปมาได้โดยคลิกที่ไอคอนบนแถบเครื่องมือ “Charts”
มาดูกันว่าประเภทของแผนภูมิเหล่านี้แตกต่างกันอย่างไร
แผนภูมิเส้น
นี่เป็นแผนภูมิที่ง่ายที่สุด มันถูกสร้างโดยการรวมราคาปิดของแต่ละช่วงเวลาเข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่น การปิดรายวันของแผนภูมิเส้นรายวัน หรือการปิดรายสัปดาห์ของแผนภูมิรายสัปดาห์
ความจริงที่ว่าแผนภูมิเส้นใช้เฉพาะราคาปิดเท่านั้นหมายความว่าจะขจัดสัญญาณรบกวนบางอย่างของตลาด (นั่นคือการเคลื่อนไหวที่ไม่สำคัญของราคา) และช่วยให้เทรดเดอร์สามารถโฟกัสไปที่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของราคา เทรดเดอร์มือใหม่อาจเข้าใจแผนภูมิประเภทนี้ได้ง่ายกว่า แผนภูมิเส้นช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุระดับแนวรับและแนวต้าน, แนวโน้ม และรูปแบบกราฟที่แน่นอน
ส่วนข้อเสีย เทรดเดอร์อาจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคามากกว่าที่แผนภูมิเส้นสามารถให้ได้ บางครั้งจำเป็นต้องรู้ไม่เพียง แต่ราคาปิด แต่ยังรวมถึงระดับราคาเปิดสูงและต่ำ ข้อเสียเปรียบอีกประการหนึ่งของแผนภูมิเส้นคือไม่แสดงช่องว่าง แต่แผนภูมิประเภทอื่น (แท่งและแท่งเทียน) ช่วยคุณได้ในเรื่องนี้
-
แผนภูมิแท่ง
แผนภูมิแท่งแสดงช่วงราคาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ตัวแท่งจะเป็นเส้นแนวตั้งที่เชื่อมโยงราคาสูงและราคาต่ำในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เส้นแนวนอนทำเครื่องหมายราคาเปิด (ด้านซ้าย) และราคาปิด (ด้านขวา) ของช่วงเวลาหนึ่งๆมีการซื้อขาย บนกราฟรายสัปดาห์แต่ละแท่งจะหมายถึง 1 สัปดาห์ บนแผนภูมิ H1 แต่ละแท่งจะแสดงขอบเขตของการเคลื่อนที่ของราคาในเวลา 1 ชั่วโมง
อาจนำสีที่ต่างกันมาใช้เพื่อระบุแท่งที่ปิดในราคาที่สูงกว่าที่ราคาพวกเขาเปิด (แท่งกระทิงหรือแท่งขึ้น) หรือในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่พวกเขาเปิด (แท่งหมีหรือแท่งลง) ตัวอย่างด้านล่างแท่งกระทิงคือแท่งสีเขียวและแท่งหมีคือแท่งสีแดง
โดยการดูที่แผนภูมิแท่ง เทรดเดอร์จะรู้ทันทีถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับราคาในช่วงเวลาและช่วงเวลาหนึ่งๆ ซึ่งมันสะดวกต่อการวิเคราะห์ตลาด
-
แผนภูมิแท่งเทียน
แผนภูมิแท่งเทียนช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับข้อมูลไม่ต่างจากแผนภูมิแท่ง แต่เนื้อของแท่งเทียนจะให้มิติและเต็มไปด้วยสีสัน (โดยปกติจะเป็นแท่งเทียนสีเขียว/ขาวหากราคาเพิ่มขึ้นในช่วงเวลานั้น หรือแดง/ดำหากราคาลดลง) แผนภูมิประเภทนี้มีต้นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น มีการกล่าวกันว่าถูกประดิษฐ์ขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดยพ่อค้าข้าวชื่อ Munehisa Homma
เส้นที่ขยายขึ้นและลงจากตัวของแท่งเทียนเรียกว่าไส้เทียนหรือเงา ด้านบนสุดของไส้เทียนจะบ่งบอกถึงราคาสูงสุดในช่วงเวลานั้นๆ และด้านล่างสุดของไส้เทียนด้านล่างจะบ่งบอกถึงระดับราคาต่ำสุดในช่วงเวลานั้นๆ หากแท่งเทียนมีไส้เทียนที่มีความยาวมากกว่าความยาวของเนื้อเทียน อาจเป็นสัญญาณของความเป็นไปได้ที่จะเกิดการกลับตัขางราคาในตลาด เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์จะได้รับข้อมูลเยอะมากเรื่องจิตวิทยาของตลาดจากแผนภูมิแท่งเทียน
เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ยอมรับว่าแผนภูมิแท่งเทียนอ่านง่ายกว่าแผนภูมิแท่ง แต่ก็ยังมีผู้ที่ชอบแผนภูมิแท่งมากกว่าแผนภูมิอแท่งเทียน
แผนภูมิชนิดไหนที่ดีที่สุด เทรดเดอร์แต่ละคนคงตอบไม่เหมือนกัน มันขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่คุณมีในการวิเคราะห์ตลาดของเรา แผนภูมิเส้นอาจเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการระบุแนวโน้มให้ได้อย่างรวดเร็ว และแผนภูมิแท่งเทียนก็ให้ข้อมูลที่ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น แถมยังเป็นแผนภูมิที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ผู้ค้าสกุลเงิน คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนภูมิแท่งเทียนญี่ปุ่นในบทความต่อไปนี้
อัปเดทแล้ว • 2022-01-31
บทความอื่นๆ ในส่วนนี้
- McClellan Oscillator
- กลยุทธ์การซื้อขายด้วยตัวบ่งชี้ Aroon
- ความแข็งแกร่งของสกุลเงิน
- กรอบเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด
- Renko chart
- จะใช้ Heikin-Ashi อย่างไร?
- นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
- Pivot Points
- ตัวบ่งชี้ ZigZag คืออะไร?
- Moving Average: วิธีง่ายๆในการหาเทรนด์
- Williams’ Percent Range (%R)
- Relative Vigor Index (ตัวบ่งชี้ RVI) คืออะไร?
- โมเมนตัม
- Force index
- ตัวบ่งชี้ Envelopes คืออะไร?
- Bulls Power และ Bears Power
- Average True Range
- จะเทรดจากการตัดสินใจของธนาคารกลางอย่างไร?
- CCI (Commodity Channel Index)
- Standard deviation
- Parabolic SAR
- การซื้อขายด้วย Stochastic Oscillator
- Relative Strength Index (RSI)
- MACD (Moving Average Convergence/Divergence)
- ออสซิลเลเตอร์
- ตัวบ่งชี้ ADX: วิธีใช้สำหรับการวิเคราะห์แนวโน้ม Forex อย่างมีประสิทธิภาพ
- Bollinger bands
- ตัวบ่งชี้เทรนด์
- การแนะนำตัวชี้วัดทางเทคนิค
- แนวรับและแนวต้าน
- แนวโน้ม
- การวิเคราะห์ทางเทคนิค
- ธนาคารกลาง: นโยบายและผลกระทบ
- ปัจจัยพื้นฐาน
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในการเทรด Forex และการเทรดหุ้น
- การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน vs การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค